บทที่ 135 หลบหนี[รีไรท์]
บทที่ 135 หลบหนี[รีไรท์]
ฉู่เหินสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดจากพวกซอมบี้ เขาไม่คิดว่าร่างกายกึ่งเป็นกึ่งตายแบบพวกมันจะกลัวไฟ? ช่างเถอะ อย่าไปคิดอีกเลยดีกว่า
หลังจากจัดการทุกอย่างแล้ว ฉู่เหินก็เผาห้องทดลองนี้ทิ้งก่อนออกเดินทาง ไม่ว่ามันจะดีหรือเลวของทุกอย่างในนี้ก็ได้ถูกเผาทำลายจนสิ้น เปลวไฟได้เผาผลาญประวัติศาสตร์กว่าศตวรรษให้หายไปจากการรับรู้ของผู้คน
ที่นี่คือห้องทดลอง มันไม่น่าจะใช่สถานที่ที่จะมีคนอยู่ จากการคาดเดาของฉู่เหิน เขาคิดว่าอีกไม่นานพวกสัตว์ประหลาดจะต้องตามไฟมาแน่ ๆ ดังนั้นเขาจึงเผาทำลายมันทิ้งเสียเพื่อไม่ให้มีสัตว์ประหลาดพวกนั้นอีกต่อไป ถ้าพวกมันกลายพันธุ์อีก มันจะดูน่าหวาดกลัวเกินกว่าที่เขาจะบรรยาย
หลังจากที่ออกจากห้องทดลองมาแล้ว พวกเขาก็อยากจะหาทางออกจากที่นี่ ทุกคนได้เห็นเข้ากับสัตว์ประหลาดมากมายระหว่างทาง สิ่งที่ฉู่เหินเห็นก็คือความตื่นกลัวและความโกรธแค้นในดวงตาของพวกมัน! สันนิษฐานได้ว่าเสียงเรียกของซอมบี้ทำให้พวกมันมาที่นี่
หลังจากเลือกเส้นทางในท่อระบาย ฉู่เหินก็รีบพุ่งออกไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล ด้านหน้าของเขาคือกองทัพหนูที่หนาแน่น เมื่อมองดูหนูตัวใหญ่หลายแสนตัว ฉู่เหินที่เคยห้าวหาญก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
เขาหันมองไปยังที่ที่เขาจากมา ฉู่เหินจำได้ว่าซอมบี้พวกนั้นกลัวไฟ แล้วถ้างั้นสัตว์ร้ายพวกนี้เอง พวกมันก็น่าจะกลัวไฟเหมือนกันรึเปล่านะ? ยังไงเสียพวกมันก็ถูกสร้างขึ้นโดยซอมบี้ ว่าแล้วเขาก็ปล่อยเปลวไฟออกมา อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้กองทัพหนูที่ดุร้ายชะงักไป
“ฉู่เฟิงเปิดทางให้ที” หลังจากฉู่เหินออกคำสั่ง ว่าแล้วเจ้าหุ่นเชิดก็เรียกไฟออกมาแล้วพุ่งเข้าไปหากองทัพหนูพวกนั้นทันที เมื่อฉู่เฟิงเข้าใกล้มากขึ้น อุณหภูมิของเปลวไฟก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน พวกหนูยักษ์พากันหนีตายทันทีที่ความร้อนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากเห็นภาพนี้ ฉู่เหินก็อดขำไม่ได้ เขาสั่งให้หุ่นเชิดไล่ล่ากองทัพหนูพวกนี้ไปเรื่อย ๆ และในระหว่างที่วิ่งนั่น ฉู่เหินก็ได้ใช้หม้อสามขาหลอมพวกหนูจำนวนหนึ่งไปด้วยเช่นกัน
เขาอยากจะรู้ว่าเขาสามารถกลั่นพวกมันได้ไหม ถ้าเกิดว่าฉู่เหินสามารถทำยาจากหนูพวกนี้ได้จริง ๆ แบบนี้เขาคงจะได้รวยล้นฟ้าแล้วล่ะ ความเร็วในการหลอมครั้งนี้ถือว่าช้ากว่าครั้งก่อนมากเพราะต้องไล่ล่าไปด้วย แต่แล้วไม่นานนักเขาก็ได้ก้อนเนื้อสีขาวออกมา
ยาเม็ดนี้แตกต่างจากที่ทำมาจากซอมบี้อย่างสิ้นเชิง เพราะว่าครั้งนี้มันเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบ มันมีกลิ่นเฉพาะตัวที่หอมเป็นอย่างมาก เขาถึงกับเผลอกลืนน้ำลายเมื่อได้กลิ่นของเม็ดยา! แต่อย่างไรก็ตามฉู่เหินไม่ต้องการที่จะกลืนมันลง เป็นเพราะเขารู้ว่ามันทำจากเนื้อหนูนั่นเอง!
จากนั้นฉู่เหินก็เรียกใช้ระบบอีกครั้งเพื่อที่จะดูคุณสมบัติของมัน
“ยาหลงหยวน ยาหลงหยวน 3 เม็ด ทำให้ปราชญ์สามารถเลื่อนขั้นเป็นเต๋าได้ ยาหลงหยวน 10 เม็ดสามารถเลื่อนขั้นเป็นเต๋าได้เต็มขั้น ยาหลงหยวน 100 เม็ด สามารถเลื่อนขั้นเป็นผู้พิชิตดาราขั้นต้นได้ แต่ทั้งชีวิตก็ไม่มีทางก้าวหน้าได้อีกต่อไป”
ฉู่เหินไม่คิดเลยว่าประสิทธิภาพของยาหลงหยวนจะดีขนานนี้ แต่ว่าผลข้างเคียงก็เยอะมากเช่นกัน เมื่อใช้ยาหลงหยวนถึงขั้นผู้พิชิตดาราแล้วร่างกายของคนผู้นั้นก็จะไม่สามารถเลื่อนขั้นได้อีก
นี้ไม่ใช่การตัดลู่ทางคนอื่นเขารึไง แต่พอคิดดี ๆ แล้วเขาก็พอเข้าใจ ในชีวิตนี้จะมีกี่คนที่สามารถฝึกถึงขั้นนี้ได้ ดังนั้นเพื่อที่จะไปให้ถึงขั้นนั้นก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
แม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่ฉู่เหินต้องการ แต่เขาก็อยากทำมันเพิ่มเก็บเอาไว้อีก ถ้าเกิดว่ามันทำขายได้ละก็ พวกที่ฝึกวิชายุทธ์ทั้งหลายจะต้องยอมจ่ายเพื่อให้ได้ยาพวกนี้มาแน่ แต่เมื่อคิดว่าสิ่งที่พวกเขาแย่งกันนั้นเป็นเพียงเนื้อหนู ฉู่เหินก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มอันแสนร้ายกาจออกมา
ในขณะที่เขาไล่ตาม เขายังคงรวบรวมหนูกลายพันธุ์เหล่านี้อยู่ตลอดเวลา ในตอนแรกฉู่เหินรู้สึกว่าทั้งหมดนี้มันราบรื่นเกินไป และจากการทดลองอย่างต่อเนื่องของเขา เขาก็พบว่าตัวเองนั้นสามารถหลอมหนูพวกนี้ได้มากถึง 10 ตัวในเวลาเดียวกัน
ดังนั้นใน 2 ชั่วโมง ฉู่เหินจึงมียามากกว่า 100 เม็ด แต่ ณ จุดนี้เอง ความโชคดีของเขาก็สิ้นสุดลง เมื่อพวกหนูเห็นว่าพวกมันหนีไม่พ้นแล้ว พวกมันก็หันหลังกลับและเตรียมต่อสู้กับฉู่เหิน
แม้ว่าไฟจะเผาผลาญพวกมันไปบ้าง แต่มันก็ไม่สามารถยื้อไว้ได้นานมากนัก ด้วยความที่มีหนูเหล่านี้มีจำนวนมาก มันจึงทำให้เพลิงโลกันตร์ของฉู่เหินต้องดับลง
ชายหนุ่มจำเป็นต้องพาทุกคนกลับไป กลายเป็นว่าเขาที่กำลังไล่ล่าหนู มาตอนนี้กลับต้องถูกพวกมันไล่ล่าแทน
ถึงแม้ว่าฉู่เหินจะได้ยาหลงหยวนมามากก็จริง แต่ใบหน้าของเขาไม่มีรอยยิ้มแม้เพียงเล็กน้อยเลย มีแต่ร่องรอยของความเศร้าโศก ถ้าเขารู้ว่าจะโดนไล่ล่าแบบนี้ เขาคงไม่ตามไล่ล่าพวกมันก่อนหรอก ตอนนี้เขาได้แต่วิ่งหนีพวกกองทัพหนูจำนวนมากตามมาอยู่ด้านหลัง นี่ถ้าเอาไปเล่าให้ใครอื่นฟัง พวกเขาน่าจะต้องโดนหัวเราะเยาะจนตายแน่ ๆ
ตอนนี้ฉู่เฟิงเปิดทางให้แล้ว ฉู่เหินเองก็กำลังวิ่งตามไป อย่างไรก็ตามในขณะที่หนูเหล่านี้โจมตีอย่างไม่เกรงกลัว ไฟในมือของฉู่เหินก็เริ่มหรี่ลง ถ้าเกิดไฟในมือของเขาหมดลง พวกเขาทุกคนจะต้องถูกกินแน่ ๆ
ทว่าในระหว่างที่พวกเขาวิ่งกันไปเรื่อย ๆ มันก็ได้มีเสียงประหลาดดังขึ้นอีกครั้งตรงเบื้องหน้า หลังจากเห็นแบบนั้น ฉู่เหินก็มั่นใจได้เลยว่านี่เป็นเสียงของงูตัวใหญ่ก่อนหน้านี้แน่ ๆ
ถ้านี่เป็นปกติพวกเขาคงวิ่งตามมันไปแล้ว แต่นี่คือพวกเขากำลังหลบหนีอยู่ ฉู่เหินเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนั้น ทำไมเขาถึงได้โลภมากจนทำให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้กัน ต่อให้เขาจะหนีก็หนีไม่ได้เสียแล้ว
แน่นอนว่าตอนนี้เองก็มีงูยักษ์โผล่มาเพิ่มอีกตัว ฉู่เฟิงเองก็ไม่สามารถหยุดวิ่งได้แล้ว เขามองไปที่งูพิษตรงหน้าด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม พร้อมกับกำลังคิดว่าจะฆ่างูนี่ยังไงดี ใช้ไฟงั้นเหรอ?
แต่ถ้าเขาทำแบบนั้น ฉู่เหินเชื่อว่าตัวเองเขาและคนอื่นจะตายอย่างน่าสังเวชแน่นอน แม้ว่าเปลวไฟของเขาจะสามารถยับยั้งสารพิษได้ แต่เปลวไฟของเขามันจะปกป้องทุกคนในนี่ได้ยังไง ? โจวหู่และเว่ยตงจื่อจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยถ้าเขาทำแบบนั้น!
ฉู่เหินหันไปรอบ ๆ ก่อนที่เขาจะนึกถึงหม้อสามขาที่ถืออยู่ในมือ เขายิ้มออกมา ทุกอย่างอยู่ในการคำนวณแล้ว! หลังจากที่ฉู่เหินกระซิบบอกกับโจวหู่กับเว่ยตงจื่อ ทั้งสองก็ถูกดูดเข้าไปในขาตั้ง
ตอนนี้ที่นี่มีเพียงแค่เขาคนเดียวแล้ว ดังนั้นฉู่เหินจึงไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เขาเรียกเพลิงโลกันตร์ออกมาแล้วล้อมมันไปรอบ ๆ ตัวเอง
ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังยืนอยู่ท่ามกลางเพลิงที่ลุกโชน หลังจากเปลวไฟห่อหุ้มร่างเขาไว้อย่างสมบูรณ์ ฉู่เหินก็พุ่งไปข้างหน้า
ด้านงูยักษ์ เมื่อมันเห็นว่าฉู่เหินกลายเป็นลูกไฟยักษ์วิ่งเข้าหาพวกมัน ด้วยความกลัวตายและตื่นตระหนก พวกงูจึงพากันปล่อยหมอกพิษออกมา อย่างไรก็ตามสารพิษเหล่านี้ก็ถูกเผาไหม้กลายเป็นความว่างเปล่า ซึ่งนั่นก็จังหวะเดียวกันกับที่เปลวไฟเข้าใกล้พวกมัน
Next