สุดยอดชาวประมง – บทที่ 139 ตกตะลึง[รีไรท์]

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 139 ตกตะลึง[รีไรท์]

บทที่ 139 ตกตะลึง[รีไรท์]

ทว่าเมื่อพวกเขามองดูอีก ครั้งนี้พวกเขาก็พบเข้ากับแขนของใครบางคนอยู่ที่ใต้รถที่ลอยขึ้นไปนั่น มันคือแขนของคนที่ทำให้รถ Audi a6 ลอยขึ้นไปนั่นเอง!

กลายเป็นว่าหลังจากที่พวกเขาค้นหาทางเข้าท่อระบายน้ำตั้งนาน ที่แท้มันก็อยู่ใต้ท้องรถนี่เอง

รถ Audi คันนั้นลอยขึ้นไปสูง 3 ฟุต ก่อนจะร่วงหล่นลงมา เป็นเพราะแขนของฉู่เหินนั้นสั้นเกิน มันไปจึงทำได้เพียงแค่กระแทกรถเพื่อให้มันลอยขึ้นไปบนฟ้าเพื่อเรียกความสนใจเท่านั้น อย่างน้อยวิธีนี้ก็น่าจะได้ผลบ้าง

“บ้าเอ๊ย ใครมันจอดรถไว้ตรงนี้กัน? พวกเราหากันแทบตายสุดท้ายดันมาอยู่ใต้ท้องรถเนี่ยนะ! ไม่ว่ามันจะเป็นใคร แต่มันได้โดนฉันเล่นแน่!”

หวงเจินโกรธมาก ทุกคนไม่คิดเลยว่าสิ่งที่พวกเขามองอยู่มันจะอยู่ที่ใต้ท้องรถแบบนี้ เขารู้สึกเกลียดเจ้าของรถขึ้นมาจับใจทันที ในเมื่อมีที่ให้จอดมากมาย ทำไมไอ้หมอนั้นถึงไม่ไปจอด แต่ดันมาจอดเหนือท่อระบายน้ำแบบนี้ ช่างเป็นเรื่องที่บ้าบออะไรแบบนี้นะ!

“หวง…เลขานุการหวงครับ รถคันนั้น…” ชายรูปหล่อวัยกลางคนเดินมาบอกเหตุผลที่แสนน่าอายกับเขา เมื่อเห็นท่าทีแบบนั้น หวงเจินก็หงุดหงิดกว่าเดิม

“ผู้ว่าการหลิว คุณทำแบบนี้ได้ยังไง! พวกเราทำงานหนักกันแทบตายสุดท้ายแล้วทางเข้านั่นก็มาอยู่ใต้รถนั่นเนี่ยนะ? กลับไปคุณต้องโดนผมจัดการแน่ ๆ!”

หวงเจินไม่คิดว่านั่นจะเป็นรถของผู้ว่าการคนนี้ เขาคือคนที่คอยดูแลงานทุกอย่างให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยแท้ ๆ แต่สุดท้ายคนที่ทำให้งานยากขึ้นก็คือเขาซะงั้น

“เลขานุการหวง… นั่นไม่…” หลังจากได้ยินแบบนั้นผู้ว่าการหลิวก็พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง

“ต้องให้ผมลงโทษคุณหรือผู้ว่าการหลิว? รีบขับรถของคุณออกไปสิ! ก็ว่าอยู่ว่าทำไมวันนี้คุณถึงทำตัวไม่ปกติแบบนี้?”

หวงเจินมองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ อารมณ์ของเขาในตอนนี้นั้นแปรปรวนมาก ๆ ถ้าทำได้เขาคงจะไปลากรถคันนี้ออกไปด้วยตัวเองแล้ว!

ได้ยินแบบนั้น ผู้ว่าการหลิวก็ยิ้มแห้ง ๆ ออกมา ชายผู้นั้นหันไปกระซิบบอกกับหวงเจินว่า “เลขานุการหวง รถนั่นไม่ใช่ของผม แต่เป็นของคุณต่างหาก!”

“ช่างแม่งเหอะน่า! ไปขยับ…” หลังจากพูดแล้ว หวงเจินก็หันมามองผู้ว่าการหลิวด้วยสายตาตกตะลึง

“เดี๋ยวนะ รถนั่นเป็นของใครนะ พูดอีกทีสิ?”

“ของคุณไง!”

กลายเป็นว่าไม่ใช่ของผู้ว่าการหลิว แต่เป็นคนของเขาเอง สถานการณ์ที่ประหลาดตรงหน้าทำให้ทุกคนเผลอหลุดยิ้มออกมา

เมื่อเห็นแบบนั้นหวงเจินก็มองไปที่รถนั่นอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะพบว่ามันเป็นรถของตัวเขาเองจริง ๆ ว่าแล้วหวงเจินก็รีบเข้าไปขยับตัวรถออกทันที

ทุกคนที่เห็นฉากนี้ก็ได้แต่ขำออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าเป็นคนอื่นละก็คงไม่มีใครทำอะไรแบบนี้แน่ แต่ที่นี่คือจิงเหมิน ความสัมพันธ์ของเจ้านายกับลูกน้องนั้นมีค่ามากกว่าสิ่งใด การพูดจาหยอกล้อจึงแทบจะเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

หลังจากรถวิ่งออกไปแล้ว พวกทีมค้นหาก็รีบมาเปิดท่อระบายน้ำแล้วเห็นฉู่เหินกำลังนั่งอยู่ในนั้น แสงตะวันสาดส่องลงมาทำเอาคนที่อยู่ข้างใต้นั้นรู้สึกดีใจ หลังจากพูดคุยกันนิดหน่อย พวกเขาทุกคนก็เอาตัวโจวหู่และเว่ยตงจื่อขึ้นมา

เมื่อเห็นทั้งสองขึ้นไปแล้ว ฉู่เหินก็โบกมือเก็บเอาร่างของตัวนิ่มนั่นเข้าไปในแหวนแล้วปีนกลับขึ้นมา

“ฉู่เหิน เป็นอะไรไหม?!” หวงเจินรีบเข้ามายื่นมือไปช่วยชายหนุ่มทันที

“คุณลุง ผมไม่เป็นไรหรอก แต่ป้องกันทางเข้าเอาไว้ด้วยล่ะ ไม่งั้นพวกสัตว์ประหลาดจะหลุดออกมาอาละวาดได้”

ที่นี่มีการประกาศกฎอัยการศึกมา 4 สัปดาห์แล้ว ไม่มีคนอยู่แถวนี้แน่ ๆ ดังนั้นจึงไม่ต้องใส่ใจหรอกว่าจะพูดอะไรเท่าไหร่ก็ได้

“ฉู่เหิน นายบอกว่ามีสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ข้างใต้นั่นสินะ?” ตอนนี้หวงเจินยังไม่เชื่อเลยว่าสิ่งที่เขาได้ยินจากชายหนุ่มจะเป็นเรื่องจริง

ฉู่เหินลังเลหลังจากที่ได้ยินคำพูดของหวงเจิน จากนั้นก็หยิบศพของตัวนิ่มยักษ์นั่นออกมาต่อหน้าทุกคน ตอนแรกเขากะจะเอามันไปให้อาหารปลาเกล็ดขาว แต่คิดไปคิดมาแล้วพวกนี้มันเป็นสัตว์กลายพันธุ์ ถ้าขืนปลาของเขากินเข้าไป บางทีพวกมันอาจจะกลายเป็นแบบสัตว์นี้ก็ได้

ทุกคนที่ได้เห็นซากตัวนิ่มก็พากันตะลึงจนพูดไม่ออก ฉู่เหินรู้ดีอยู่แล้วว่าถ้าเกิดเขาเอามันออกมาละก็ อย่าหวังเลยว่าจะได้เอากลับไป

ในจังหวะที่ศพถูกปล่อยออกมา ทุกคนต่างก็ลืมหายใจกันเลยทีเดียว ศพของเจ้าสัตว์ร้ายใหญ่ประมาณ 4-5 เมตร ตามเนื้อตัวของมันมีหนามแหลม ส่วนเกล็ดของมันก็มีขนาดเท่าฝ่ามือแถมยังเปล่งแสงออกมาได้อีกด้วย

แน่นอนว่าทุกคนต่างอยู่ในอาการตกตะลึง ลองนึกสภาพถ้าไอ้เจ้าตัวนี้มีชีวิตรอดแล้วขึ้นมาข้างบนนี้ดูสิ จะมีกี่ชีวิตที่รอดจากอสุรกายตัวนี้ได้กัน?

“ไอ้ตัวนี้น่ะเหรอ!” หวงเจินชี้นิ้วมองมันอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งฉู่เหินเองก็พยักหน้าให้เป็นการตอบรับ

ไม่ใช่เพราะว่ามันตัวใหญ่จึงทำให้เขาแปลกใจหรอก แต่เป็นเพราะว่าขนาดของมันใหญ่กว่าที่หวงเจินคิดเอาไว้เสียอีก ทันใดนั้นหน่วยของเขาก็บันทึกวิดีโอเอาไว้แล้วส่งมันออกไปให้พวกกองบัญชาการดู

หลังจากฉู่เหินคิดไปคิดมา เขาก็จึงตัดสินใจได้ว่าจะเอาวิดีโอที่โจวหู่อัดมาให้หวงเจินดูเพื่อจะได้เป็นกรณีศึกษาและรับมือเจ้าพวกนี้ต่อไป

เมื่อดูไปได้ครึ่งทาง หวงเจินก็มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผาก เขาแอบคิดไปว่านี่น่าเป็นวิดีโอตัดต่อแน่ ๆ แต่เขาก็รู้อยู่แก่ใจดีว่ามันไม่ใช่!!!

สิ่งที่อยู่ในคลิปทำให้หวงเจินถึงกับตะลึง เจ้าตัวนั้นมันคืออะไรกันแน่ ? มีซอมบี้ แถมหนูตัวใหญ่นั่นอีก ไหนจะแมว หมามีเขี้ยว งูยักษ์ มดยักษ์อีก ทุกสิ่งทุกอย่างมันแทบจะทำให้เขาเป็นลม

หวงเจินไม่ได้พูดอะไรก่อนที่จะเอาวิดีโอนั่นส่งกลับไปยังเมลของเขา หลังจากนั้นก็เรียกทุกคนในหน่วยให้มาเล็งอาวุธไปยังหลุมนี่ด้วยความรู้สึกที่สัมผัสได้ถึงภัยอันตราย

ร่างของตัวนิ่มที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคนถูกยึดไปตามที่ฉู่เหินคาดการณ์เอาไว้

“ฉู่เหิน ซากตัวนิ่มนี่มีค่าในการวิจัยเป็นอย่างมาก ! ฉันรู้ว่านายล่ามันมาอย่างยากลำบาก ลุงไม่ควรจะพูดอะไรแบบนี้เลย แต่เรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องเยอะจริง ๆ ยิ่งกว่านั้นนายเป็นคนใจดีและมีคุณธรรมเสมอ ฉันขอร้องนะ มอบร่างนี้ให้กับประเทศด้วยเถอะ!”

Next

สุดยอดชาวประมง

สุดยอดชาวประมง

Status: Ongoing
ฉู่เหิน เด็กหนุ่มธรรมดาที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมง ทุกวันเขาจะออกไปหาปลาที่ทะเลกับพี่ชาย แต่วันนั้นก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น มีพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่เกิดขึ้นตรงหน้า ทั้งสองพยายามหนีจากพายุลูกนั้นอย่างสุดความสามารถแต่ก็ไม่ทัน…ในขณะนั้นเองฉู่เหินรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง มีเสียงดังขึ้นในหัวของเขาทันใดนั้นก็มีแหปรากฎออกมาตรงหน้าเขาหลังจากนั้นไม่นานเขาก็หมดสติไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยายาบาลและโดยที่ตัวเขาเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แต่กลับกันกับพี่ชายของเขาที่อยู่ในห้องผู้ป่วยข้างๆ มีสภาพที่ขาหัก หรืออาจจะต้องเสียขาและพิการไปตลอดชีวิต ซึ่งค่ารักษาพยายาบาลของพี่ชายเขาไม่ใช่เงินน้อยๆ แล้วอย่างนี้ฉู่เหินจะทำยังไงต่อไป….

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท