สุดยอดชาวประมง – บทที่ 154 ไล่ล่า[รีไรท์]

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 154 ไล่ล่า[รีไรท์]

บทที่ 154 ไล่ล่า[รีไรท์]

หลังจากร้องตะโกนออกมา ฉู่เหินก็ใช้พัดของเขาพร้อมกับเร่งพลังดวงดาวในร่างกาย เพียงพริบตาก็มีแสงส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้า ชายชรากับสัตว์ร้ายเริ่มกังวลใจที่เห็นแบบนั้น

พลังดวงดาวค่อย ๆ ไหลเวียนเข้าไปในพัด ฉู่เหินรู้สึกได้ถึงตัวตนของเขาเล็กน้อย ชายหนุ่มกระโดดขึ้นไป 6 เมตร ก่อนที่จะใช้ปลายเท้าลงกลับมายืนตรงหน้ากองทัพสัตว์พวกนั้น แล้วคว่ำพัดลง

แสงสว่างของดวงอาทิตย์ดูเหมือนจะหายไปในชั่วพริบตา จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงดังสนั่นขึ้น ทันใดนั้นเองก็เกิดสายฟ้าสีขาวขึ้นบนทั่วท้องฟ้า พื้นที่ในระยะไม่กี่ไมล์รอบ ๆ นี้ถูกห้อมล้อมไปด้วยสายฟ้าที่ว่านั่น

นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ทำเอาพวกสัตว์ร้ายตะลึงไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ตัวนิ่มเอง เพราะว่าพลังอัสนีนั้นทรงพลังมาก หากโดนเข้าจัง ๆ อาจทำให้ชีวิตถึงฆาตได้เลยทีเดียว

ฉู่เหินเหวี่ยงพัดลงมา ซึ่งมันก็มาพร้อมกับสายฟ้าพวกนั้นที่ผ่าลงใส่พวกฝูงสัตว์ร้ายจนแตกกระเจิง ร่างของพวกมันถูกสายฟ้าผ่าจนแตกสลาย แม้แต่เกราะป้องกันที่แข็งแกร่งอย่างตัวนิ่มเองก็ไม่อาจป้องกันได้

เสียงดังกระหึ่มไปทั่วท้องฟ้าจนแม้แต่คนที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์เองก็ได้ยิน เพียงชั่วพริบตาสายฟ้าก็จัดการกองทัพสัตว์ร้ายนั่นไปนับไม่ถ้วนแล้ว

หลังจากชายชราภารโรงนำผ้าขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้ามาคุมที่หัว เขาก็อ้าปากคำรามด้วยเสียงที่ดูคล้ายกับหมาป่า เสียงนั่นเจือปนไปด้วยความโศกเศร้าที่ไม่อาจอธิบายได้

แต่มันก็น่าแปลกที่ว่าเมื่อตาแก่นั่นคำรามออกมา สายฟ้าที่กำลังฟาดลงมาบนหัวเขาก็เลี้ยวหลบชายชราผู้นั้นไปทันที กลับกลายเป็นว่าสายฟ้าบางเส้นถูกดูดเข้าไปหาผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น มันไม่โดนตัวของชายชราลึกลับนั่นเลยแม้แต่น้อย

การเลื่อนขั้นไปสู่ระดับยอดฝีมือระดับสูงช่วยฉู่เหินได้ไม่น้อย มันทำให้พลังของเขายังไม่หมดในทันที ตราบเท่าที่พลังดวงดาวในร่างกายของชายหนุ่มยังไม่ดับลง ฉู่เหินก็ยังคงสามารถสู้ต่อได้อยู่ และแม้ว่าพลังปราณของเขาจะหายไปแล้วครึ่งหนึ่งก็ตาม แต่การที่ร่างของเขายังไม่ดับวูบลงไปก็ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดี

ทุกคนด้านนอกต่างก็ตะลึงกับภาพที่เกิดขึ้น สัตว์ร้ายมากมายถูกจัดการจนซากศพเกลื่อนเต็มสนามรบไปหมด ตอนนี้เหลือพวกมันอีกแค่ไม่กี่พันตัวเท่านั้นแล้ว

ถ้าให้พูดตรง ๆ ฉู่เหินเองก็อยากจะให้พวกผู้ใหญ่ในกลุ่มมังกรได้รับรู้ถึงข้อผิดพลาดของตัวเองซะบ้าง และให้พวกเขาได้เห็นว่าไม่มีใครอื่นแล้วที่จะสามารถจัดการพวกมันได้แบบนี้

พวกสัตว์ร้ายทั้งหลายที่ล้มลงนั้นก็ยังไม่ตายเสียทีเดียว มันแค่บาดเจ็บหนัก หลังจากฉู่เหินลงมาจากอากาศ เขาก็ใช้หม้อทองคำสามขาจัดการพวกมันที่เหลือต่อ

พวกสมาชิกคนอื่นในกลุ่มรวมไปถึงฉู่เฟิง โจวหู่และคนอื่น ๆ ต่างก็รีบพุ่งเข้าไปโจมตีพวกสัตว์ร้ายที่บาดเจ็บหนักด้วยเช่นกัน พวกมันค่อย ๆ ถูกสังหารล้มตายไปทีละตัว

หลังจากนั้นแสงสว่างก็กลับคืนมาอีกครั้ง ฉู่เหินก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วไล่จัดการพวกสัตว์ร้ายที่กำลังหนี ไม่ปล่อยให้พวกมันหนีรอดได้สักตัว

“ฆ่ามัน” ด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อทุกคนเห็นว่าฉู่เหินกำลังบุกทะลวงพวกสัตว์กลายพันธุ์อย่างดุดัน

ฉู่เหินใช้หม้อสามขาไล่เก็บสัตว์พวกนั้นต่อไปเรื่อย ๆ แต่พวกมันก็หนีตายเช่นกันภายใต้การนำของชายชรา

ตัวนิ่มเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน และถึงแม้เกล็ดของมันจะหลุดร่วงลงมาบ้าง แต่ความแข็งแกร่งที่มีก็ยังทำให้เจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้สามารถเคลื่อนไหวได้อยู่ ในตอนนี้ชายชราที่อยู่บนหลังของมันก็บังคับให้ตัวนิ่มตรงไปยังภูเขาที่ห่างออกไป

ฉู่เหินกับเพื่อนเองก็ไล่ตามกันไป พวกสัตว์ร้ายถูกจัดการไปตามทาง เพียงแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพวกสัตว์ร้ายก็เหลือเพียงน้อยนิด หากแต่นั่นก็ยังไม่ถึงเป้าหมายของภารกิจที่ว่า ‘ห้ามมีสัตว์กลายพันธุ์ตัวไหนหนีออกไปได้’ ยวี้ฉือยวี่ตะโกนและตามฉู่เหินไปจนทัน

ในบรรดาทุกคนนั้น ฮวยเหรินกู๋คือคนที่ซวยที่สุด เพราะเขาถอยหนีออกมาช้าที่สุดจึงทำให้โดนลูกหลงจากสายฟ้า บนลำตัวของเขาปรากฏรอยไหม้เป็นย่อม ๆ ได้รับบาดแผลไม่น้อย ดังนั้นเขาเลยไม่กล้าหยุดวิ่งเพราะกลัวโดนฆ่าสังหารหมู่รวมกับพวกมันด้วย

ฮวยเหรินกู๋แอบด่าฉู่เหินในใจ ถ้าเกิดเขาไม่รู้ว่าการอยู่กลุ่มมังกรนี้แล้วทำให้พวกผู้ใหญ่ในศูนย์บัญชาการได้เห็นผลงานแล้วละก็ เขาคงขอลาออกไปแล้ว ฮวยเหรินกู๋มองฉู่เหินด้วยสายตาไม่พอใจ

“รอฉันก่อนเถอะฉู่เหิน สักวันนึงฉันจะฆ่าแก”

ฉู่เหินไม่รู้ว่ามีคนกำลังคิดร้ายกับเขาอยู่ ต่อให้รู้เขาก็ไม่สนใจ แค่พวกยอดฝีมือระดับเริ่มต้น ต่อให้มีปัญหาเขาก็จัดการได้ง่าย ๆ อยู่แล้ว …ถ้าเขาอยากจะจัดการน่ะนะ ยิ่งไปกว่านั้นฉู่เหินเองก็ค่อนข้างถือตัว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะลงมือง่าย ๆ

ไม่ว่าทุกคนจะคิดเช่นไร แต่ตอนนี้ทุกคนมีเป้าหมายที่เหมือนกัน นั่นก็คือชายชราที่อยู่บนตัวนิ่ม

ในขณะที่ฉู่เหินเก็บสัตว์ร้ายมากมายด้วยหม้อสามขา หัวใจของเขาก็สัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดบางอย่าง นี่น่าจะเป็นเพราะเม็ดยาที่อยู่ภายในหม้อเป็นแน่

แต่ในเวลาแบบนี้เขาไม่สามารถเอามันออกมาใช้ได้ เพียงครึ่งชั่วโมงพวกสัตว์ร้ายก็เหลือไม่กี่สิบตัวแล้ว ชายชราเองก็เริ่มกระอักเลือดออกมาจากการโจมตีไม่ยั้งของพวกฉู่เหิน

“ฆ่ามัน” ฉู่เฟิงพุ่งเข้าใส่ตัวนิ่มและต่อสู้กับมัน เพียงชั่วพริบตาตัวนิ่มที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้วก็โดนฉู่เฟิงจัดการจนหมดสภาพ

หลังจากที่หุ่นเชิดฉู่เฟิงจัดการกับตัวนิ่มได้แล้ว ฉู่เหินเองก็ไม่ได้ลังเลที่จะจัดการพวกสัตว์ร้ายที่เหลือ น่าเสียดายที่พวกมันถูกจัดการไปจนหมดสิ้นแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ชายชราเพียงคนเดียวเท่านั้น

เมื่อชายชราเห็นท่าจะไม่ดีเขาก็รีบตั้งท่าหนี มันจึงทำให้พวกกองทัพสัตว์ที่เหลือถูกตัดขาดออกจากกัน ต้องเป็นคนยังไงกันนะถึงทิ้งลูกน้องตัวเองได้ลงคอ? เมื่อเห็นแบบนี้ฉู่เหินจะปล่อยไปได้ยังไง

ทว่า ในครั้งนี้ยวี้ฉือยวี่กับซ้างชุนเซวี่ยเร็วกว่าฉู่เหิน เขาเข้าไปขวางทางชายชราทันที ยวี้ฉือยวี่อ้าปาก ก่อนที่เปลวเพลิงจะพุ่งออกมากว่า 5 เมตร

ไฟนั่นเคลื่อนไหวดั่งมังกรเข้าไปรัดชายชราคนนั้นทันที เขาคิดจะใช้ไฟนี้เผาผลาญตาแก่นี่ให้กลายเป็นฝุ่นผง

ชายชราคนนี้เอง เขาก็ไม่ใช่คนธรรมดา และเมื่อเปลวไฟนั่น ชายชราลึกลับก็จึงใช้ผ้าเช็ดหน้าที่เป็นดั่งเมฆสีขาวดูดซับไฟทั้งหมดเข้าไปทันที ไม่ว่าจะทำยังไงเปลวเพลิงก็ไม่สามารถทะลุผ่านไปได้เลย

Next

สุดยอดชาวประมง

สุดยอดชาวประมง

Status: Ongoing
ฉู่เหิน เด็กหนุ่มธรรมดาที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมง ทุกวันเขาจะออกไปหาปลาที่ทะเลกับพี่ชาย แต่วันนั้นก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น มีพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่เกิดขึ้นตรงหน้า ทั้งสองพยายามหนีจากพายุลูกนั้นอย่างสุดความสามารถแต่ก็ไม่ทัน…ในขณะนั้นเองฉู่เหินรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง มีเสียงดังขึ้นในหัวของเขาทันใดนั้นก็มีแหปรากฎออกมาตรงหน้าเขาหลังจากนั้นไม่นานเขาก็หมดสติไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยายาบาลและโดยที่ตัวเขาเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แต่กลับกันกับพี่ชายของเขาที่อยู่ในห้องผู้ป่วยข้างๆ มีสภาพที่ขาหัก หรืออาจจะต้องเสียขาและพิการไปตลอดชีวิต ซึ่งค่ารักษาพยายาบาลของพี่ชายเขาไม่ใช่เงินน้อยๆ แล้วอย่างนี้ฉู่เหินจะทำยังไงต่อไป….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท