สุดยอดชาวประมง – บทที่ 167 ปะทะกับเหล่าเงือกอีกครั้ง[รีไรท์]

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 167 ปะทะกับเหล่าเงือกอีกครั้ง[รีไรท์]

บทที่ 167 ปะทะกับเหล่าเงือกอีกครั้ง[รีไรท์]

“อ้า ผู้อาวุโส ฉลามพวกนี้กลายเป็นลูกน้องของฉันแล้วละนะ ” ฉู่เหินคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นจำเขาไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงหรี่ตาลงด้วยความไม่พอใจ นี่ลืมแล้วเหรอว่าเขาช่วยอีกฝ่ายเอาไว้น่ะ?

ถ้าด้านอาวุโสที่ครึ่งบนเป็นคน ครึ่งล่างเป็นปลาหมึกตนนั้น เมื่อเขาได้ยินคำตอบของฉู่เหิน เงือกอาวุโสตนนี้ก็ดูมีท่าทีผิดแปลกไปทันที “ได้ยินมาว่าเก่งกาจนักหนา โม้ทั้งเพไอ้หนู วันนี้แหละที่ฉันจะซัดแกให้ได้ ใครชนะคนนั้นจะเป็นคนตัดสิน สิ่งที่แกกำลังจะทำมันอาจจะนำหายนะมาให้เราก็ได้!”

ชายคนนั้นตะโกนออกมาอย่างดูถูก ทำให้ฉู่เหินหายใจติดขัด ดูท่าว่าคนตรงหน้านี้จะไม่รู้จักการพูดดี ๆ ละมั้ง ถ้าเป็นแบบนี้เขาเองก็ไม่จำเป็นต้องปรานีเหมือนกัน

“ดูท่าว่าคุยดี ๆ คงไม่รู้เรื่องสินะ กับคนที่ไม่รู้จักบุญคุณอย่างแกคงต้องใช้หมัดคุยซะแล้ว”

ฉู่เหินมองว่าฝ่ายตรงข้ามน่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ระดับกลาง ก่อนหน้านี้เขาเคยสู้กับพวกผู้ฝึกยุกธุ์ขั้นปรมาจารย์ระดับแรกเริ่มมาแล้ว ด้วยความสามารถของชายหนุ่มในตอนนี้ ฉู่เหินน่าจะพอมีโอกาสชนะประมาณครึ่งต่อครึ่งถ้าใช้ท่าไม้ตาย

ดังนั้นในการต่อสู้ครั้งนี้ฉู่เหินตั้งใจที่จะสู้ตัวต่อตัว ไม่คิดจะให้ฉู่เฟิงช่วย การจะสู้กับคนที่หยิ่งยโสต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น

“ถ้างั้นฉันจะแสดงพลังของพวกเราชาวเงือกให้ได้เห็น” ผู้อาวุโสของเผ่าเงือกกล่าว

ฉู่เหินมองโดยไม่ได้พูดอะไร แต่กำลังรวบรวมพลังในร่างกายอยู่เงียบ ๆ พลังแห่งดวงดาวเริ่มส่องแสงแล้วอาบไปทั่วนิ้วทั้งสิบ

เมื่อทุกอย่างพร้อม ฉู่เหินจ้องมองอีกฝ่าย ทว่าการกระทำที่ฮึกเหิมของฉู่เหินไม่ได้อยู่ในสายตาของผู้อาวุโสตนนี้เลย คน ๆ นี้แม้แต่จะอาวุธก็ยังไม่หยิบออกมา ดูถูกกันเกินไปแล้วนะ!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ผู้อาวุโสปลาหมึกนั้นก็ไม่ลังเลอีกต่อไป ร่างนั้นพุ่งเข้าระดมชกฉู่เหินราวกับลูกธนู แรงลมที่ออกมาจากกำปั้นนั้นกรีดอากาศจนเกิดเสียงดังลั่นอย่างต่อเนื่อง

ฉู่เหินได้เก็บสะสมรวบรวมพลังเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะหลบ หากแต่ใช้พลังทั้งหมดของตัวเองใส่ลงไปในหมัดแล้วใช้มันพร้อมกันอย่างไร้ความปรานี

เสียงดังหนัก ๆ หลายครั้งจากการชนกันของกำปั้นดังขึ้น คลื่นของการโจมตีนั้นค่อย ๆ แผ่ขยายออกไป สิ่งที่ถูกแรงของกำปั้นสัมผัสล้วนแล้วแต่แหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

จากการปะทะกันของหมัดทำให้เงือกตนอื่น ๆ ตกใจเป็นอย่างมาก จากที่พวกเงือกรู้ ผู้อาวุโสที่อยู่ในขั้นปรมาจารย์ระดับกลาง ส่วนอีกฝ่ายเป็นแค่ขั้นยอดฝีมือเท่านั้น มันไม่ใช่ระดับเดียวกับผู้อาวุโสด้วยซ้ำ แต่การต่อสู้กลับสูสีจนน่าตกใจ

สิ่งสำคัญที่ผู้อาวุโสปลาหมึกคิดออกคือ อีกฝ่ายมีข้อได้เปรียบตรงที่มีหุ่นเชิดฉู่เฟิงที่แข็งแกร่งอย่างมากอยู่ 1 ตัว แต่ทว่าการต่อสู้ครั้งนี้เขากลับไม่เรียกมันออกมาช่วยเลยด้วยซ้ำ นี้ทำให้ผู้อาวุโสเงือกรู้ว่าอีกฝ่ายมีความถือดีแค่ไหน มีพลังที่สามารถช่วยตัวเองได้ไม่ยากแต่กลับไม่คิดจะใช้

เมื่อปลายหมัดสัมผัสเข้าหากัน นั่นก็ทำเอาผู้อาวุโสปลาหมึกอยู่ในอาการตกตะลึง การที่ฉู่เหินกล้าทำเช่นนี้ นั่นก็แสดงว่าเขาต้องรู้อยู่แล้วว่าพลังหมัดของตัวเองสามารถต่อกรกับตนได้อย่างสู่สีแน่ ซึ่งถ้าเป็นเวลาปกติ ตัวเขาที่สู้กับคนระดับเดียวกันละก็ อย่างน้อยผลชนะก็ย่อมมากกว่าแพ้ แต่บัดนี้ เขาต้องกลับมาทำความเข้าใจใหม่เสียแล้ว

ผลแพ้ชนะยังไม่ปรากฏ เมื่อเห็นจังหวะอันดี ฉู่เหินก็พลันปล่อยหมัดอันทรงพลังออกไปอีกรอบ เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะทำมัน ถ้ายังจำกันได้อยู่ ก่อนหน้านี้เขาได้รวบรวมพลังดวงดาวไว้ในมือทั้งสองข้าง ซึ่งข้างหนึ่งต่อยออกไปแล้ว ยังเหลืออีกข้างที่ยังไม่ได้ต่อยออกไปและอีกข้างเองก็มีพลังที่มากไม่ต่างกัน

ผู้อาวุโสปลาหมึกได้แต่ส่ายหัวกับภาพตรงหน้า เมื่อเขาเห็นฉู่เหินทำท่าจะยกมือขึ้น เขาคิดว่าอีกฝ่ายยังเป็นเด็กน้อย หมัดอ่อน ๆ แบบนี้จะไปเทียบเคียงกับเขาได้ยังไง ? คิดได้ดังนั้น เงือกอาวุโสจึงซัดหมัดตรงเข้าไปปะทะกับหมัดของฉู่เหินในทันที

ช่วงเวลาที่หมัดปะทะกันทำให้เกิดการระเบิดขึ้น พื้นดินรอบตัวสลายไปทันที สาเหตุมาจากการทำลายล้างอย่างมหาศาลของพลังดวงดาวให้ตัวพวกเขานั่นเอง

หลังจากการปะทะกันอย่างดุเดือด ผู้อาวุโสปลาหมึกนั้นดูมีท่าทีที่อ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าตัวเองถึงกับต้องกระอักเลือดออกมาแล้วถอยห่างจากฉู่เหินถึง 4-5 ก้าวเช่นนี้ เวลานี้ในสายตาเขาที่จ้องมองฉู่เหินมีแต่ความตกตะลึง

เด็กหนุ่มคนนั้นน่าทึ่งมากจริง ๆ เมื่อโดนหมัดทั้งสองต่อยเข้ามา นั่นก็ทำให้ตอนนี้เขาไม่สามารถดูถูกอีกฝ่ายได้อีกแล้ว ผู้อาวุโสเงือกคนนี้ได้แต่ยอมรับว่าอีกฝ่ายเป็นคนมีความสามารถอย่างแท้จริง แต่ผู้อาวุโสปลาหมึกตนนี้ก็ยังเชื่อว่าหมัดสองข้างของอีกฝ่ายก็ถึงขีดจำกัดแล้ว หากอยากจะใช้พลังของหมัดนั้นอีกครั้งคงเป็นไปได้ยาก

น่าเสียดายที่ฉู่เหินถนัดทำให้คนอื่นประหลาดใจ ต้องรู้อีกครั้งว่าตอนที่รวบรวมพลัง เขาไม่เพียงแต่เก็บไว้ที่มือสองข้าง หากแต่ยังรวบรวมไว้ที่นิ้วทั้งสิบอีกด้วย ตอนนี้กระบวนท่าดัชนีกิเลนของเขาเตรียมพร้อมแล้ว เมื่อเห็นอีกฝ่ายกระเด็นถอยหลังไป ฉู่เหินก็จัดแจงทำการโจมตีคู่ต่อสู้อีกครั้งในทันที ชายหนุ่มส่งนิ้วทั้งสิบไปที่ผู้อาวุโสปลาหมึก

นิ้วมือของฉู่เหินนั้นปรากฏแสงสลัว ด้วยความเร็วที่ไร้ซึ่งเสียง ดวงตาฉู่เหินจับจ้องอยู่ที่เงือกอาวุโสตรงหน้า ไม่รอให้อีกฝ่ายหลบหนีได้สำเร็จ ลำแสงที่แพร่กระจายก็พลันนี้พุ่งตรงไปยังบริเวณหน้าอกของเงือกเสียแล้ว

เมื่อการโจมตีสิ้นสุดลง ผู้อาวุโสปลาหมึกก้มหน้าลงมองก็เห็นว่าหน้าอกของเขาปรากฏรูขนาดใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้เขาตกใจจนหน้าไร้สีเลือด ถ้าเกิดว่ารูนี้ลงไปอีกสักหน่อยก็เกือบจะเป็นตำแหน่งหัวใจของเขาเลยทีเดียว เมื่อคิดถึงตรงนี้ขนทั่วลำตัวของผู้อาวุโสปลาหมึกก็อดที่จะลุกพรึบขึ้นไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทรงพลังมากขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะเขาประมาทอีกทั้งยังดูถูกอีกฝ่ายเกินไปมากกว่า เงือกอาวุโสคิดว่านี้มันไม่ถูกต้อง ถ้าเป็นเขาละก็ การโจมตีนี้จะต้องเจาะไม่ก็เสียบเข้าหัวใจอีกฝ่ายให้กระเด็นออกด้านข้างไปนานแล้ว!

ในเวลานั้นถึงฉู่เหินจะไม่ฆ่าอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายก็ตกใจแทบตายอยู่แล้ว ในใจของผู้อาวุโสปลาหมึกเริ่มเกิดกลัวขึ้นมา การโจมตีของฉู่เหินครั้งนี้รวดเร็วมากชนิดที่เขาไม่อาจป้องกันได้เลย

หลังจากที่ผู้อาวุโสปลาหมึกเก็บอาการได้แล้ว ฉับพลันเขาก็เรียกเกราะป้องกันออกมา และยังคงทำหน้าหยิ่งยโสใส่อีกฝ่ายเช่นเดิม

จากนั้นผู้อาวุโสปลาหมึกก็พุ่งเข้ามาหาฉู่เหินอีกครั้งพร้อมกับพูดว่า “ฆ่า” แต่คราวนี้เขาพุ่งเข้ามาพร้อมกับสามง่ามขนาด 3 ฟุตที่ส่องแสงอันตราย และการต่อสู้นี้ได้ดังกังวานไปทั่วทั้งใต้ท้องทะเล

จากนั้นสามง่ามก็แทงเข้าไปที่ฉู่เหินอย่างแม่นยำ แล้วยังแทงซ้ำเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง

สามง่ามนั้นมีอานุภาพของพลังดวงดาว แม้แต่ฉู่เหินก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ เขาคิดว่าถ้าเขาใช้ดาบวงพระจันทร์สู้ก็คงจะสามารถชิงความได้เปรียบคืนมาได้อย่างง่ายดาย

และสิ่งที่สามารถช่วยเขาได้ในตอนนี้คือท่าดัชนีกิเลน ฉู่เหินจึงรีบนำมือทั้งสองข้างประกบเข้าด้วยกันทันที

สุดยอดชาวประมง

สุดยอดชาวประมง

Status: Ongoing
ฉู่เหิน เด็กหนุ่มธรรมดาที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมง ทุกวันเขาจะออกไปหาปลาที่ทะเลกับพี่ชาย แต่วันนั้นก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น มีพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่เกิดขึ้นตรงหน้า ทั้งสองพยายามหนีจากพายุลูกนั้นอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่ทัน…ในขณะนั้นเองฉู่เหินรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง มีเสียงดังขึ้นในหัวของเขาทันใดนั้นก็มีแหปรากฎออกมาตรงหน้าเขา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หมดสติไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยายาบาลและโดยที่ตัวเขาเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แต่กลับกันกับพี่ชายของเขาที่อยู่ในห้องผู้ป่วยข้างๆ มีสภาพที่ขาหัก หรืออาจจะต้องเสียขาและพิการไปตลอดชีวิต ซึ่งค่ารักษาพยายาบาลของพี่ชายเขาไม่ใช่เงินน้อยๆ แล้วอย่างนี้ฉู่เหินจะทำยังไงต่อไป….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท