สุดยอดชาวประมง – บทที่ 170 ซวี่เหลียงเจอปัญหาซะแล้ว[รีไรท์]

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 170 ซวี่เหลียงเจอปัญหาซะแล้ว[รีไรท์]

บทที่ 170 ซวี่เหลียงเจอปัญหาซะแล้ว[รีไรท์]

“อ้าว ซวี่เหลียงเองเหรอ? ปิดเทอมแล้วรึไง? ปะ ไปคุยกันในก่อนมา!” ทั้งสองกอดทักทายกัน ทันทีที่เจอ ฉู่เหินก็จัดแจงจูงมือนำซวี่เหลียงไปที่ห้อง

หลังจากซวี่เหลียงเข้ามาด้านใน เขาก็รู้สึกเกรงใจนิดหน่อย เขาทักทายหวงเจี้ยนหมิงและซูวี่เหมยหลังจากถูกฉู่เหินพาเข้ามาภายในห้อง

“อาเหิน ไปทำอะไรมาเนี่ย? ฉันมาไม่กี่วันก็ได้ข่าวว่าทำเรื่องเจ๋ง ๆ ไว้นี่” ซวี่เหลียงพูดพร้อมรอยยิ้ม

ดวงตาของฉู่เหินมองอย่างใคร่รู้ เขารู้สึกว่าที่ซวี่เหลียงมาที่นี่ในวันนี้ ต้องเป็นเพราะมีเรื่องอะไรสักอย่างแน่ ๆ เมื่อดูจากรอยยิ้มฝืน ๆ ของอีกฝ่ายแล้ว ฉู่เหินก็พลันรู้สึกไม่สบายใจ

“อ๋อ มันก็เจ๋งจริง ๆ นั่นแหละ ที่จริงฉันว่าจะชวนพวกนายมาอยู่แล้ว ว่าแต่ทำไมถึงเพิ่งมาเอาตอนนี้ล่ะ?” ฉู่เหินถามกลับเสมือนว่าไม่ได้ใส่ใจมากนัก

“จริงสิ นายเพิ่งขึ้นปี 2 นี้ เป็นอย่างไรบ้าง?” ฉู่เหินไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีปัญหาอะไรแต่ก็ไม่ได้เร่งเร้าที่จะรู้คำตอบ ได้พูดยิ้ม ๆ เท่านั้น

“โอ๊ย อย่าพูดถึงอีกเลย ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัย 2 ปีมานี้ของฉันเป็นอะไรที่แย่ที่สุดเลย!” ซวี่เหลียงมีท่าทีที่ซึมลงหลังจากที่ได้ยิน ตอนนี้ฉู่เหินมั่นใจแล้วว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน

“อาเหลียง เราอยู่ในหอพักตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วน่ะ ทั้งกินทั้งอยู่ด้วยกัน 3 ปีแล้ว มีอะไรก็บอกกันมาเถอะ พวกเราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ?” ฉู่เหินได้แต่ย่นคิ้วอดไม่ได้ก่อนที่จะถามออกไป

“ดูพูดเข้าสิ ทำตัวเหมือนเป็นพี่ชายของเหลียงจือเลยนะ นายก็อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นไรหรอก อีกไม่กี่วันฉันก็จะไปแล้ว” ได้ยินอย่างนั้นฉู่เหินมั่นใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นแน่ ๆ ไม่งั้นเพื่อนเขาคงไม่มีท่าทีแบบนี้แน่

หลังจากคุยกันมาสักพัก ฉู่เหินก็ทำอาหารให้ซวี่เหลียงแล้วก็ดื่มไวน์กันไปนิดหน่อย ไม่นานซวี่เหลียงก็เริ่มเมา ยิ่งกว่านั้นดูอารมณ์ของอีกฝ่ายก็ดูจะรุนแรงผิดปกติ!

ฉู่เหินขมวดคิ้วแล้วโทรหาอาเที่ย เดิมทีชื่อเขาคือจงเที่ยแต่เขาก็ยังโดนเรียกว่าอาเที่ยอยู่ดี เพราะเมื่อก่อนพวกเขา 3 คนรวมทั้งฉู่เหินอยู่หอเดียวกัน จึงสนิทกันมากโดยเฉพาะอาเที่ยกับอาเหลียง เพราะทั้งสองเข้าเรียนสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน

ดังนั้นฉู่เหินจึงคิดว่าจงเที่ยน่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับซวี่เหลียง!

“อาเที่ย อยู่นั่นสบายดีไหม?” ฉู่เหินถามหลังจากอีกฝ่ายรับโทรศัพท์แล้ว

“…ฉัน…ฉันยังสบายดี ดีมากๆ!” จงเที่ยตอบกลับราวกระซิบ

“อาเที่ย บอกความจริงกับฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น” ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย ฉู่เหินก็รู้ว่าต้องมีบางอย่างแน่นอน ในบรรดาผู้คนที่เขารู้จัก เขารู้จักอาเที่ยดีที่สุด อาเที่ยจะไม่โกหกเลย ทันทีที่เขาโกหก เขาจะพูดติดขัด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายมากที่จะบอกว่าเขาโกหกหรือไม่

“อาเหิน ฉันสบายดีจริง ๆ …ดีมากเลย!”

“ตอนนี้อาเหลียงอยู่กับฉัน เขาบอกฉันหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าเขาพูดไม่ค่อยละเอียดนักฉันเลยไม่เข้าใจเท่าไร เพราะเจ้านี่มันดันดื่มเหล้าเมาไปแล้ว เพราะงั้นฉันเลยโทรมาถามนาย” ฉู่เหินไม่มีทางเลือกนอกจากต้องโกหกออกไปคำโต

เมื่ออีกฝ่ายได้ยินดังนั้นก็เงียบไปเลย ก่อนที่ปลายสายจะเผยความจริงทั้งหมดออกมาด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย

ตั้งแต่ที่ทั้งสองเข้าไปยังมหาวิทยาลัย พวกเขากับเพื่อนร่วมชั้นอีกคนต่างแย่งกันชิงดีชิงเด่นกันอยู่ตลอด คนคนนั้นขัดแย้งกับซวี่เหลียงเท่านั้น แต่เบื้องหลังของสองครอบครัวว่าพ่อของทั้งคู่เป็นคู่แข่งกันทางด้านธุรกิจ ดังนั้นจึงทำให้ทั้งสองคนมีปัญหากันอยู่เสมอ

นายคนนั้นชื่อว่าเจียงเฟิง ตระกูลเจียงของเขาทำธุรกิจเดียวกันกับตระกูลซวี่ แต่ธุรกิจของตระกูลเจียงนั้นไม่เหมือนกับธุรกิจของตระกูลซวี่ ธุรกิจของตระกูลซวี่ค่อย ๆ เติบโตขึ้นทีละน้อยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

แต่ตระกูลเจียงนั้นแตกต่างกัน ตราบใดที่พวกเขาสามารถทำเงินได้พวกเขาก็กล้าทำทุกอย่าง แม้แต่การฆ่าและลอบวางเพลิงก็กล้าทำ! เป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้ตระกูลเจียงเป็นผู้นำในเวลาเพียงไม่กี่ทศวรรษจนกลายเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีชื่อเสียง!

หลังจากซวี่เหลียงและเจียงเฟิงเจอกันครั้งล่าสุด พวกเขาก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย! แล้วเมื่อไม่กี่เดือนก่อนซวี่เหลียงก็ได้พบกับคนรักของเขา เธอเป็นหญิงสาวที่สวยและนุ่มนวล ทั้งสองพูดคุยถูกคอและมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน

ตั้งแต่ที่คบกันพวกเขาก็ไม่เคยแยกจากกันเลย แต่ไม่กี่วันก่อน แฟนของซวี่เหลียงได้ฆ่าตัวตาย ซึ่งตามรายงานทางนิติเวช ภายในร่างกายของเธอพบว่ามีร่องรอยของเหลวของซวี่เหลียงอยู่ในร่างกาย ดังนั้นจึงทำให้เขาถูกลากตัวไปสอบสวน

เมื่อซวี่เหลียงได้ยินอย่างนั้น เขาก็รีบไปแสดงความเสียใจต่อครอบครัวฝ่ายหญิง มันไม่ใช่การแสดงเสแสร้ง ความเจ็บปวดนั้นเป็นความรู้สึกจริง ๆ อีกทั้งทันทีที่แจ้งให้กับพ่อแม่ของเธอรู้ พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าซวี่เหลียงไม่ได้ทำจริง ๆ และเมื่อซวี่เหลียงสั่งให้คนตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างละเอียด มันก็กลายเป็นว่าหลักฐานทั้งหมดถูกเผาทำลายไปหมดแล้ว

ในเวลานี้ พ่อแม่ของฝ่ายหญิงเข้าใจแล้วว่าเรื่องนี้ต้องมีบางอย่างอยู่เบื้องหลัง แต่ทว่าการสืบสวนก็ยังไม่คืบหน้า เมื่อไม่กี่วันก่อนซวี่เหลียงได้รับข่าวบางอย่างจากคนที่ส่งของมาให้เขา ของสิ่งนั้นทำให้เขาถึงกับต้องร้องไห้ออกมา

มันเป็นไดอารี่ที่แฟนของเขาทิ้งไว้ แท้จริงแล้วผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าชิงอี้หราน ครอบครัวของเธอยากจนมาก หลังจากไปมหาวิทยาลัย แม้แต่จะซื้ออุปกรณ์การเรียนยังไม่อาจทำได้ ในเวลานั้นเองเจียงเฟิงก็ได้พบเธอ เขามอบเงิน 50,000 หยวนให้เธอ และสั่งให้เธอเป็นแฟนของซวี่เหลียง

หญิงสาวรับเงิน 50,000 หยวน แต่การอยู่กับซวี่เหลียงเป็นเวลานานก็ทำให้เธอรู้สึกสนใจเขา รู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองได้ตกหลุมรักซวี่เลียงเข้าแล้ว แต่ในเวลานี้เจียงเฟิงก็ได้ขอให้เธอทำร้ายซวี่เหลียง หากทั้งสองไม่ได้รักกันก็ไม่เป็นไร แต่ในหัวใจของชิงอี้หราน เธอตกหลุมรักซวี่เหลียง แล้วอย่างลึกซึ้งและเธอจะทำร้ายอีกฝ่ายได้อย่างไร?

ดังนั้นเธอถึงตัดสินใจที่จะจากไป ในไดอารี่เขียนเอาไว้ว่า เธอรู้สึกว่าเธอหลอกเขา เธอไม่อาจเผชิญหน้ากับซวี่เหลียงได้ ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเดินจากมา

ซวี่เหลียงได้แต่ร้องไห้แล้วคิดว่า “เด็กโง่ทำไมไม่บอกฉันล่ะ ไม่ว่าเธอจะเคยทำอะไรมาก่อน มันไม่สำคัญสำหรับฉันหรอก แค่ความรักที่เรามีให้กันมันไม่พอรึไง!”

ยังไงซะ คำพูดของเขามันก็ไม่มีความหมายอีกแล้ว เพราะชิงอี้หรานไม่อยู่อีกแล้ว เขานั้นได้แต่คิดเท่านั้น นี่มันเป็นพัสดุที่เขาส่งมาจากทิเบตเมื่อ 3 วันก่อน!

แต่ซวี่เหลียงรู้ว่าชิงอี้หรานตายเมื่อ 5 วันก่อน งั้นใครเป็นคนเก็บสิ่งนี้เอาไว้? หรือคนที่ตายจะไม่ใช่เธอ แล้วถ้างั้นเป็นใคร? จากนั้นซวี่เหลียงได้แต่คิดถึงความเปลี่ยนแปลงของชิงอี้หรานเมื่อไม่กี่วันมานี้ เขาจำได้ว่า 2 – 3 วันก่อนหน้านี้เขาไม่ได้คุยกับเธอเลย! ความสงสัยมีแต่ที่จะเพิ่มพูน หลักฐานทั้งหมดมุ่งเป้าไปที่เจียงเฟิงบ่งบอกว่าเขาเป็นฆาตกร ถึงเขาจะไม่ใช่คนลงมือก็ต้องมีคนทำให้เขา หลังจากที่เข้าใจทุกอย่างแล้ว พ่อแม่ของชิงอี้หรานกับซวี่เหลียงก็เตรียมไปสอบสวนเจียนเฟิง

อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นอีกครั้งในคืนนั้น แต่มันดูเป็นการจงใจมากว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากฝีมือของคนอื่น โดยอีกฝ่ายไม่สามารถต่อต้านได้

สุดยอดชาวประมง

สุดยอดชาวประมง

Status: Ongoing
ฉู่เหิน เด็กหนุ่มธรรมดาที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมง ทุกวันเขาจะออกไปหาปลาที่ทะเลกับพี่ชาย แต่วันนั้นก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น มีพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่เกิดขึ้นตรงหน้า ทั้งสองพยายามหนีจากพายุลูกนั้นอย่างสุดความสามารถแต่ก็ไม่ทัน…ในขณะนั้นเองฉู่เหินรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง มีเสียงดังขึ้นในหัวของเขาทันใดนั้นก็มีแหปรากฎออกมาตรงหน้าเขาหลังจากนั้นไม่นานเขาก็หมดสติไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยายาบาลและโดยที่ตัวเขาเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แต่กลับกันกับพี่ชายของเขาที่อยู่ในห้องผู้ป่วยข้างๆ มีสภาพที่ขาหัก หรืออาจจะต้องเสียขาและพิการไปตลอดชีวิต ซึ่งค่ารักษาพยายาบาลของพี่ชายเขาไม่ใช่เงินน้อยๆ แล้วอย่างนี้ฉู่เหินจะทำยังไงต่อไป….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท