บทที่ 174 ประจันหน้าราชางูครั้งแรก[รีไรท์]
บทที่ 174 ประจันหน้าราชางูครั้งแรก[รีไรท์]
เมื่อกลับมาแล้วเห็นว่าแรดที่เป็นเป้าหมายระบายความโกรธได้หายไปแล้ว นั่นมันก็ยิ่งทำให้ราชางูบันดาลโทสะมากยิ่งกว่าเดิม
…
หลังจากเดินทางมา 2 วัน ในที่สุดฉู่เหินก็มาถึงเมืองหยุนหลิง แม้ว่ามันจะไม่มีทะเล แต่ก็มีทะเลสาบอยู่หลายที่ ด้วยวิธีนี้ทำให้ฉลามพิษนั้นสามารถแอบเข้ามาได้โดยไม่เป็นที่ผิดสังเกต โดยเฉพาะนี่เป็นเวลากลางคืนด้วยแล้ว
หลังจากเดินทางต่อกันสักพัก พวกเขาก็มาถึงที่ทะเลสาบเอิ๋งไฮ่ ฉู่เหินบอกให้ฉลามพิษรอดูท่าทีไปก่อน เพราะว่าตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงอันตราย แล้วก็มีกลิ่นบางอย่างลอยตามลม
“นี่มันพิษ แถมเป็นพิษของงูด้วย” ผู้อาวุโสปลาหมึกว่าก่อนที่จะขมวดคิ้ว อาจเป็นเพราะว่าธรรมชาติของพวกเขานั้นไวต่อพิษเป็นพิเศษจึงสามารถรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว
“น่าอร่อยจัง แย่ที่ว่าพิษมันออกจะน้อยไปหน่อย” ราชาฉลามพิษทั้ง 5 สูดหายใจเข้าลึกๆ และสูดสารพิษทั้งหมดเข้าปอด ร่างกายของพวกมันนั้นมีความเป็นพิษสูง ดังนั้นจึงทำให้พิษทั้งหลายแทบไม่มีผลกับพวกมันเลย
ฉู่เหินเห็นแบบนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่รู้สึกขอบคุณพวกฉลามพิษมาก ดูท่าว่านี่น่าจะเป็นพิษของราชางูเซียงซี
ราชางูเซียงซีอยู่ที่เขาลูกนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ซ่างกวงเสี่ยวฟู๋กลับถูกพาตัวไป ด้วยฝีมือของแรดตัวนั้น! เหตุการณ์นี้ทำให้ราชางูเซียงซีโกรธมากและหงุดหงิดจนลงจากภูเขา มาที่แถวๆ ทะเลสาบเอิ๋งไฮ่
สถานที่อย่างทะเลสาบเอิ๋งไฮ่ดูจะหายากพอตัว จึงทำให้ราชางูเซียงซีจำต้องยืนอยู่ที่นี่สักพักก่อนที่จะหาที่หมายเจอ แต่ใครจะไปคิดตอนนั้นกลับมีชายคนหนึ่งกำลังเดินบนน้ำมาทางนี้
ราชางูเซียงซีรู้สึกตกใจมากที่เห็นอย่างนั้น ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายเดินบนน้ำเกิดด้วยการใช้ทักษะบางอย่าง แต่ก็พบว่าที่เท้าของชายคนนั้นยืนอยู่บนปลาตัวหนึ่ง
หลังหายจากอาการตกใจ เขารีบสังเกตชายคนนั้น ก่อนจะพบว่าคนที่กำลังยืนอยู่บนหลังปลาก็คือฉู่เหินนั่นเอง
จากนั้นราชางูเซียงซีก็ยกแขนขึ้น ไอสีดำจากในแขนเสื้อนั้นค่อย ๆ ลอยไปทางด้านฉู่เหิน
ราชาฉลามพิษนั้นรู้สึกหดหู่นิดหน่อยในตอนแรกเพราะพิษนั้นมีน้อยมากเกินไป แต่เห็นไอสีดำ พวกมันก็พากันแสดงท่าทีดี๊ด๊า เพราะในตอนนี้นั้นสารพิษมีจำนวนมากมายจนแทบกินไม่หมดเลยทีเดียว
ราชาฉลามพิษทั้งหมดนั้นอ้าปากออกอย่างรวดเร็วเพื่อดูดซึมสารพิษในอากาศ สารพิษเหล่านั้นหายไปในพริบตาทำให้ฉู่เหินโล่งใจ ทางด้านราชางูเซียงซีนั้นตกใจมากที่เห็นพิษของมันทำงานล้มเหลว
เมื่อมองดูดี ๆ ราชางูก็พบว่าปลาทั้ง 5 ตัวนั้นดูสารพิษเข้าไป มันรู้ดีว่าเจ้าพวกนี้ไม่สามารถขึ้นฝั่งได้ ถ้าสู้กันตรง ๆ มันก็มีสิทธิ์ที่จะแพ้ได้เหมือนกัน ฉู่เหินไม่สามารถบอกได้ว่าคนตรงหน้าคือใคร เพราะว่าร่างของอีกฝ่ายถูกปกคลุมด้วยผ้าสีดำ แถมยังมีควันสีดำรอบกายด้วย
“แกเป็นใครกัน ทำไมถึงใช้พิษโจมตีฉัน?” ฉู่เหินที่ยืนอยู่ถามออกมา
จริง ๆ แล้วฉู่เหินรู้สึกหวาดกลัวอีกฝ่าย เพราะว่าถ้าเขาไม่ได้ประเมินพลาดไป อีกฝ่ายน่าจะอยู่ระดับยอดฝีมือเท่านั้น แต่ทว่ารอบกายของอีกฝ่ายกลับรายล้อมไปด้วยพิษร้าย มันจึงทำให้เขาไม่สามารถแตะต้องอีกฝ่ายได้เลย เห็นแบบนี้ก็ทำให้ฉู่เหินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว
“ราชางูเซียงซี ครั้งนี้ฉันมาที่หยุนหลิงก็เพราะแกโดยเฉพาะ ถ้ากล้าพอก็เข้ามา!” ท่าทีของอีกฝ่ายดูยากมากว่าเป็นชายหรือหญิงกันแน่ แม้แต่ฉู่เหินก็ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นเพศอะไร นี่จึงทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะขนลุก
ฉู่เหินเดาว่าเสี่ยวฟู๋นั้นน่าจะอยู่ในกำมือของอีกฝ่าย มีทางเดียวคือต้องสู้เท่านั้น แต่ตอนนี้ฉลามพิษไม่สามารถช่วยเขาได้ สิ่งที่พึ่งได้ในตอนนี้คือดัชนีกิเลน และหมัดกิเลนที่เขาไม่กล้าใช้
เพราะว่าถ้าโจมตีใส่แบบมั่ว ๆ อาจจะเป็นตัวเขาเองที่โดนพิษเข้าให้ แต่ถ้าเกิดว่าเป็นพลังกิเลนละก็ ฉู่เหินคิดว่าบางทีอาจจะเป็นไปได้
“น้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง* ทำไมฉันต้องทำตามด้วย”
“หนี้แค้นต้องชำระ จะโทษใครก็โทษตัวเองเสียเถอะ” เซียงซีได้ยินก็ตอบโต้ไป
ฉู่เหินแอบถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นเม่ยซานเหนียงอีกแล้ว ถ้าให้เขาไล่จับอีกฝ่ายต้องทำให้เธอเหมือนตายทั้งเป็นอีกแน่
แต่ครั้งนี้ฉู่เหินนั้นคิดผิดไป ราชางูคนนี้ไม่ได้มาจากเม่ยซานเหนียง แต่เป็นคนอื่น ซึ่งจะเป็นใครยังต้องรอดูต่อไป แล้วในช่วงเวลาที่ฉู่เหินมาถึงฝั่ง เขาก็กระโดดขึ้นมา โดยที่มองมาที่ราชางูที่อยู่ไกลออกไป
“ขอเตือนนะว่าอย่างได้พลาดเชียว และหาคนที่สามารถจัดการคลื่นพลังนั่นได้ ฉันจะจัดการแกโดยไม่มีข้อยกเว้น” ฉู่เหินปรายตาไปทางอื่นแล้วพูดออกมาเบาๆ
“แต่เสี่ยวฟู๋นั้นเป็นคนของแกใช่ไหมล่ะ ถ้ายอมเป็นพวกละก็จะยอมละเว้นก็ได้ ไม่งั้นแกตายเหมือนกับเด็กคนนั้นแน่” ฉู่เหินมองไปรอบ ๆ แล้วก็พบกับภาพอันเลือนรางของเสี่ยวฟู๋ ดูท่าว่าเขาจะยังกังวลเกี่ยวกับเธออยู่
“เธอเป็นคนที่ดีนะ เสียแต่ดื้อไปหน่อย ป่านนี้คงเละเป็นก้อนเนื้อไปแล้วมั้ง” จนถึงตอนที่พูดอย่างนั้นเซียงซีก็มีท่าทีที่เศร้าหมอง
ฉู่เหินมองอีกฝ่ายอย่างละเอียดก็พบว่าเขาไม่ได้พูดโกหก นั่นทำให้เขาตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มต้องการที่จะรู้ว่าเสี่ยวฟู๋นั้นเป็นตายร้ายดียังไง แม้ว่าเขาไม่ตั้งใจที่จะแต่งงานกับเธอ แต่ก็ไม่ได้ความว่าเขาจะไม่เป็นห่วง
ตอนที่เขาได้ยินคำพูดของราชางูเซียงซี ฉู่เหินก็ได้แค่ยืนตัวสั่นเหมือนกับโดนไฟช็อต น้ำตาเริ่มที่จะไหลออกมา ตาเต่าปลาหมึกที่อยู่ข้าง ๆ ก็มองเขา แม้ว่าเขาพึ่งจะได้เจอกับสถานการณ์ตรงหน้าแต่เขาก็เข้าใจว่ามันรู้สึกยังไง
เขาพอจะรู้ว่าเสี่ยวฟู๋นั้นมีความสำคัญกับฉู่เหินมากขนาดไหน แต่ฉู่เหินไม่มีเวลามาเศร้าแล้ว แต่คำพูดที่พูดออกมานั้นเป็นสิ่งที่แทบไม่น่าเชื่อ
“ไม่ต้องคิดมากไปหรอก ถึงเสี่ยวฟู๋จะยังไม่ปลอดภัย แต่ก็ยังไม่ตาย”
ฉู่เหินที่กำลังสิ้นหวังอยู่นั้นหลังจากได้ยินคำพูดตาเฒ่าหมึกแล้วก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไหว แน่นอนว่าส่วนใหญ่นั้นเป็นสิ่งที่เขาเดาขึ้นมาเอง เขาจึงตั้งสติให้ดีอีกครั้งหนึ่ง
*น้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง คือ ต่างคนต่างอยู่