บทที่ 341 เลือดที่เปลี่ยนไป
บทที่ 341 เลือดที่เปลี่ยนไป
พวกเขาที่เคยโอ้อวดความเก่งกาจเหนือฟ้าของตนเอง ตอนนี้ได้แต่ยืนส่งวิญญาณของผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลฉู่ พวกเขาไม่อาจทำอะไรได้เลยสักอย่าง! ความรักที่ยิ่งใหญ่แต่กลับไร้ประโยชน์ ในเวลานี้ทั่วทั้งบ้านตระกูลฉู่ต่างเงียบเชียบ แม้แต่คนรับใช้ในบ้านก็ยังไม่กล้าพูดออกมาสักคำ!
ชายหนุ่มคนนี้แซ่ ฉู่ นามว่า ฉุน* เนื่องจากผู้นำตระกูลอยากให้เด็กหนุ่มคนนี้มีอายุที่ยืนยาว แต่คาดไม่ถึงเด็กหนุ่มจะประสบภัยร้ายทำให้ต้องป่วยตั้งแต่เด็ก พวกเขาตั้งนี้ชื่อเพื่อหวังว่าเด็กคนนี้จะมีอายุที่ยืนยาวแต่นึกไม่ถึงว่า ดวงของเขาจะถึงฆาตไวขนาดนี้
(*ฉุน 存 = เก็บรักษา, คงอยู่)
ยิ่งลมหายใจของฉู่ฉุนค่อย ๆ อ่อนลงเรื่อย ๆ หัวใจของแต่ละคนก็ยิ่งร้อนรน พวกเขาเฝ้าปรารถนาให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เรื่องแย่ ๆ มันเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนพวกเขาไม่อยากจะเชื่ออะไรอีกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงเฝ้าคอยปาฏิหาริย์!
ทันใดนั้นขณะที่ลมหายใจสุดท้ายของชายหนุ่มจะดับลง พวกเขาก็รู้สึกว่าภายในร่างกายของตัวเองร้อนผ่าว เหล่าผู้อาวุโสที่มีอายุนับร้อยปี อาศัยวรยุทธสูงส่งรู้ได้ทันทีว่ามันคือพลังแห่งสายเลือด อีกทั้งยังเป็นสายเลือดที่บริสุทธิ์อีกด้วย
เมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังสายเลือดใหม่ เลือดที่เดิมเคยเป็นสีแดงก็กลับกลายเป็นสีทอง เลือดของเหล่าผู้อาวุโสเปลี่ยนเป็นสีทองอ่อน ๆ ไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองแต่อย่างใด ตอนแรกพวกเขาไม่ได้เอะใจอะไร แต่ต่อมาพวกเขาก็รู้ว่ามันไม่ควรเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของสายเลือดรวดเร็วที่สุดเห็นจะเป็นการรักษาอาการบาดเจ็บที่ยังไม่ได้รับการรักษาของฉู่ตงหลินและภรรยา เกาชิงหนาน รองลงมาก็คือน้องชายของฉู่ตงหลิน ฉู่ตงซวี่ และ ฉู่ตงอาน เลือดของทั้งสองเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ภรรยาและฉู่ตงหลินนั้นสายเลือดทรงพลังยิ่งกว่าใคร ๆ
ฉู่ตงหลินมีพี่น้องท้องเดียวกัน 3 คน บิดาชื่อฉู่คุ่ยที่เลือดกลายเป็นสีทองเช่นกัน เพียงแต่ว่าไม่ค่อยเข้มข้นนัก แต่ฉู่ฉุนที่นอนหายใจรวยรินอยู่นั้นกลับแตกต่างออกไป เขามีพิษอยู่ภายในไขกระดูกและเส้นเลือดของเขา มันต้นเหตุที่ทำให้อายุของเขาสั้นยิ่ง
แต่ตอนนี้เมื่อเลือดของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน คาดไม่ถึงว่าพิษที่อยู่ในร่างจะทำปฏิกิริยาสายเลือดใหม่จนหล่อมรวมเข้าด้วยกัน ดังนั้นนอกจากฉู่ตงหลินและภรรยาแล้วคนที่ได้รับผลดีที่ที่สุดก็คือ ฉู่ฉุน!
พิษถูกแปรสภาพให้กลายเป็นสารอาหาร ส่งผลให้ใบหน้าสีซีดขาวมีเลือดฝาดแต่งแต้มบนใบหน้า ทั้งยังค่อย ๆ อิ่มเอิบขึ้นอีกด้วย ฉู่ฉุนคนนี้แม้ว่าร่างกายจะมีพิษ แต่ตลอดมาเขาไม่เคยหยุดฝึกฝนพลังเลย ความพยายามอย่างยากลำบากตลอด 10 ปี ทำให้เขาเป็นขั้นผู้พิชิตดาราระดับ 6!
และผลจากสายเลือดในวันนี้ ทำให้พลังดวงดาวมากมายอย่างไม่คาดฝัน! ลมหายใจก็กลับมาถี่กระชั้นเหมือนเดิมแล้ว
คนอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกันพวกเขาได้รับผลประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป
ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากสุดก็คือฉู่ตงหลินและภรรยา ต่อมาก็คือน้องชายทั้งสองคนของฉู่ตงหลิน ถัดมาก็จะเป็น ปู่ฉู่คุ่ย ผู้นำตระกูลฉู่
ร่างกายของพวกเขาถูกพลังลึกลับปกคลุมเอาไว้ทั้งร่าง จนลอยอยู่กลางอากาศและก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับร่างกายของพวกเขา! สิ่งนี้ทำให้เหล่าผู้อาวุโสที่เป็นไม้ใกล้ฝั่ง อยู่ ๆ ก็รู้สึกกลับมากระฉับกระเฉง!
อีกทั้งพวกเขายังตระหนักรู้ถึงขั้นพลังต่อไป แต่พวกเขาไม่เข้าว่าทำไมปัญหาต่าง ๆ ถึงถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดายแบบนี้ ข่าวดีของตระกูลฉู่ก็คือสายเลือดที่เปลี่ยนไปส่งผลให้วรยุทธของพวกเขาสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด
เดิมทีตระกูลฉู่ไร้คู่ต่อกรอยู่แล้ว ยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ นิกายใหญ่ ๆ ที่ทรงอำนาจคงไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าพวกเขา คนตระกูลฉู่ทุกคนแม้แต่คนที่ไม่มีวรยุทธก็ยังร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก พวกคนเลวที่คิดร้ายกับตระกูลฉู่เห็นที่จะต้องคิดดี ๆ หน่อยแล้ว
คนที่เห็นผลชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นฉู่ฉุนกับฉู่ตงหลิน ร่างกายของทั้งสองคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากว่า 20 ปี บัดนี้หลังจากนี้ได้รับสายเลือดใหม่ทั้งพิษและอาการบาดเจ็บภายในร่างกายของพวกเขาในที่สุดก็ได้รับการเยียวยา แม้แต่เกาชิงหนานที่เป็นภรรยาเพราะอาการตรอมใจทำให้ร่างกายทรุดโทรมมีโรครุมเร้า ฉับพลันก็หายป่วยเป็นปลิดทิ้ง! ไม่เหลือร่องรอยอาการเจ็บป่วยเลยแม้แต่น้อย
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น 20 นาทีและค่อย ๆ หยุดลง คนตระกูลฉู่ทุกคนล้วนไม่อยากจะเชื่อ แต่เมื่อพวกเขามองฉู่ฉุนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าสดใสทุกคนที่พากันยิ้มออกมา ในที่สุดสวรรค์ก็เห็นใจตระกูลฉู่ ต่อมาผู้นำตระกูลก็ออกคำสั่งไม่ให้แพร่งพรายเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้และห้ามให้ใครเอ่ยปากพูดถึงเด็ดขาด!
หลังจากนั้นทุกคนก็ไปรวมกันในห้องโถงรับแขก เพราะเขาอยากจะพูดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อคนตระกูลฉู่เห็นว่าผู้นำตระกูลมีเรื่องจะพูดก็ไม่กล้านิ่งเฉย พวกเขาพากันมารวมตัวกันที่ห้องโถงรับแขก พอผู้นำตระกูลเห็นว่าทุกคนเข้ามาในเข้าจนครบแล้วก็ใช้พลังจิตปิดกั้นไม่ให้เสียงดังออกไป
“เอาล่ะ ตอนนี้ฉันอยากจะพูดกับพวกเธอทุกคน เกี่ยวกับความเจริญหรือว่าล่มสลายของตระกูลพวกเรา จำไว้ว่าเมื่อกลับไปแล้วห้ามเอาไปพูดให้ใครฟังเด็ดขาด! อันดับแรกเรื่องในวันนี้เป็นเรื่องที่พวกเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะคนรับใช้เหล่านี้จะต้องมีคนทรยศรวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน เพียงแค่ว่าตอนนี้ฉันเดาไม่ออกว่าเป็นใคร! นี้คือเรื่องแรก”
ผู้นำตระกูลฉู่พูดต่อ “เรื่องที่สองคือการที่สายเลือดของพวกเรามีการเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับลูกหลานตระกูลเราอย่างแน่นอน ทว่านอกจากคนตระกูลฉู่ที่เสียชีวิตไปแล้วก็อยู่ที่นี่กันหมด ซึ่งเมื่อสักครู่ฉันได้วิเคราะห์อย่างละเอียดแล้วพบว่าขาดไปแค่คนเดียวเท่านั้น!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ผู้นำตระกูลฉู่ก็เว้นจังหวะพร้อมกับมองหน้าสมาชิกในครอบครัวทุกคนแล้วค่อยพูดต่อว่า “สายเลือดที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็คือตงหลินกับภรรยาของเขา! ไม่รู้ว่าพวกเธอสังเกตเรื่องนี้หรือเปล่า แต่นอกจากผู้มีสายเลือดตระกูลฉู่กับภรรยาตงหลินแล้ว ลูกสะใภ้คนอื่นไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่คนเดียว!”
ทุกคนไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้ด้วย พอมาคิดดูแล้วทุกคนก็คิดในใจอย่างสงสัย
“หรือว่าเกาชิงหนานจะมีสายเลือดตระกูลฉู่เหมือนกัน!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดความคิดสกปรกแบบนี้ออกมา ทำให้ชายชราตาค้อนตามอง นั่งตัวสั่นจนไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาอีก
“ชัดเจนขนาดนี้ ทำไมพวกแกยังเดาไม่ออกอีก ฉันจะบอกให้ก็ได้ คนที่ทำให้สายเลือดของทั้งตระกูลเปลี่ยนก็คือลูกของฉู่ตงหลินกับเกาชิงหนาน!”
หลังสิ้นประโยคนี้ ทุกคนก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างตกใจไปตาม ๆ กัน เพราะว่าคน ๆ นั้นเป็นคนที่พวกเขาคาดไม่ถึง เมื่อได้ยินผู้หน้าตระกูลพูดแบบนี้ เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะตกใจ
ถ้านี้คือเรื่องจริง นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีกับตระกูลฉู่เพราะว่าคนที่หายสาบสูญไปกลับเป็นคนที่ทำให้สายเลือดของทั้งตระกูลเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้ คิดว่าคนแบบนี้ยังจะเป็นคนธรรมดา ๆ อยู่อีกเหรอ? ตระกูลฉู่มีลูกหลานเป็นมังกรเช่นนี้อนาคตข้างหน้าก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว!
“พ่อ เรื่องที่พูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริงใช่ไหม? ลูกของผมยังมีชีวิตอยู่ใช่หรือเปล่า?” ฉู่ตงหลินตะลึงจนลุกขึ้นยืนทั่วร่างสั่นสะท้าน รวมไปถึงมือทั้งสองข้างก็ด้วย ส่วนเกาชิงหนานน้ำตาเอ่อล้น! 20 ปีมานี้เธอต้องร้องไห้แทบทุกวัน ในที่สุด 20 ปีให้หลังพวกเขาก็ได้รับข่าวดีว่าลูกของตัวเองยังมีชีวิตอยู่
ในโลกนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้เธอมีความสุขได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว สะใภ้ทุกคนพากันเข้ามาปลอบใจเกาชิงหนาน จนเธอสามารถหยุดเสียงสะอื้นไว้ได้ การร้องไห้ครั้งนี้แม้น้ำตาจะนองหน้า ทว่าใบหน้าของเธอกลับเต็มไปด้วยความสุข
