บทที่ 559 กล้ารังแกคนพรรคหมื่นพิษงั้นหรือ ?
บทที่ 559 กล้ารังแกคนพรรคหมื่นพิษงั้นหรือ ?
พอเห็นผู้อาวุโสพรรคหมื่นพิษโดนสยบ ทุกคนก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ ! อย่างคำกล่าวที่ว่าม้าดีโดนขี่ คนดีโดนแกล้ง*! เมื่อก่อนพอเห็นพรรควายุอัสนี พวกเขาก็มักจะถูกแกล้งเสมอ !
*คนดีมักถูกรังแก
คนพรรคหมื่นพิษชอบกลั่นแกล้งผู้คน และชอบพูดจาดูถูกเหยียดหยาม อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเจอคนที่แข็งแกร่งกว่า การกระทำเลวร้ายพวกนั้นก็ต้องหยุดชะงักลงแล้ว !
เดิมทีทุกคนนึกว่าเรื่องนี้ได้ผ่านไปแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าตอนนี้เอง จู่ ๆ เสียงที่ดุดันยิ่งกว่าวิปลาสที่ 6 จะดังขึ้นมาจากอากาศว่าง ๆ!
“คิดกลั่นแกล้งคนจากพรรคหมื่นพิษงั้นหรือ ? คิดว่าพวกเราไร้คนแล้วหรืออย่างไรกัน ? จงก้าวออกมาขอโทษคนของพรรคฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะเอาชีวิตแก !” เสียงดุดันกล่าวแบบนี้ ทำให้วิปลาสที่ 6 ขมวดคิ้วแน่น ! จากนั้นก็เงยหน้ามองขึ้นมองท้องฟ้า ทว่าก็เห็นเพียงอากาศที่ว่างเปล่า ก่อนจะมีประกายแสงแวบผ่าน และชายชราผมขาวปรากฏกายออกมา
“ฉันพูดไม่ได้ยินหรือยังไง ! หรืออยากให้ลงมือกัน ?” ชายชราคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแส ราวกับกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศอยู่ !
“หยวนกังผู้นี้มากล้นไปด้วยพลัง ดังนั้นจึงไม่มีวันยอมคุกเข่าให้คนที่เหมือนสุนัขแน่ ! แม้ว่าคนจะเก่งกาจ แต่หากอยากเอาชนะ เกรงว่าจะไม่ง่ายเช่นกัน ! ดังนั้นหากมีความสามารถจริง ๆ ก็อย่าเอาแต่เห่าอยู่เลย !” ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพูดของวิปลาสที่ 6 ก็ใช้ย่อยเช่นกัน เพราะต่อให้เห็นคนที่ดูแข็งแกร่งกว่าปรากฏตัว เขาก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ! กลับเลือกที่จะปลดปล่อยพลังเตรียมสู้ในทันที !
พอฉู่เหินที่ยืนข้าง ๆ เห็นฉากนี้ เขาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ และแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่รู้ว่าคนที่อยู่กลางอากาศนั่นมีความสามารถแค่ไหน แต่เขาก็รู้ดีว่าการที่ศิษย์พี่ 6 พูดออกไปแบบนั้น มันก็ย่อมแสดงว่าพี่หกไม่เห็นคนคนนี้อยู่ในสายตา ! ซึ่งถ้าเป็นในสถานการณ์อื่น เขาก็อาจจะออกโรงเข้าช่วยโดยไม่ลังเลไปแล้ว แต่ทว่าคนตรงหน้าที่เป็นถึงยอดฝีมือ ดังนั้นฉู่เหินจึงทำได้เพียงถอนหายใจอย่างเสียดายเท่านั้น !
ทว่าช่วงเวลานั้นเอง ชายหนุ่มก็ได้ส่งข้อความไปหาอาจารย์ เพราะถึงแม้อาจารย์จะมีความสามารถสูงส่ง แต่ก็ใช่ว่าชายชราจะสามารถมาที่นี่ในเวลาอันสั้นได้ ! และถ้าทำไม่ได้ล่ะก็ เกรงว่าถึงตอนนั้นศิษย์พี่ 6 ก็คงจะแย่เสียก่อน !
“เจ้าหนุ่ม ความสามารถของแกก็ไม่ได้ต่ำต้อย และเมื่อดูจากฝีปากที่แข็งกร้าวขนาดนี้ มันก็แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าอาจารย์ของแกนั้นเป็นคนไร้คุณธรรม ! ไม่งั้นคนอ่อนแอแบบแกคงไม่กล้าอวดดีต่อหน้าฉันแบบนี้แน่ !”
ฉู่เหินและศิษย์พี่ 6 เมื่อได้ยินดังนี้ก็ขมวดคิ้วแน่น พูดถึงพวกเขานั่นได้ แต่ถ้ามาพูดถึงอาจารย์เสีย ๆ หาย ๆ แบบนี้พวกเขาไม่ยอม ! ถ้าไม่ใช่เพราะคนตรงหน้าน่ากลัวเกินไป เกรงว่าทั้งสองคนคงพุ่งตัวออกไปซ้อมเขาสักยกแล้ว !
“ปีนั้นตอนที่อาจารย์ของพวกแกเห็นฉัน ไม่ใช่ว่าโดนตีจนก้นแตกหรอกหรือ จำได้ว่าตอนนั้นอาจารย์ของพวกแกร้องไห้จนน่าเวทนาเชียวล่ะ ! ต่อมาก็ถูกฉันคนนี้ข่มขู่จนฉี่แตก พอมาคิดดู มันก็ช่างดูน่าตลกเสียจริง !” ชายชราคนนั้นราวกับมองไม่เห็นสายตาโมโหของฉู่เหินและศิษย์พี่ 6 ยืนพูดความหลังทั้ง ๆ แบบนี้ไปเลย !
เมื่อชายหนุ่มได้ยินประโยคนี้จบ เขาก็ไม่อาจทนได้ต่อไปได้อีก ด้วยอาจารย์มีบุญคุณกับตัวเองมาก แต่ตอนนี้กลับถูกคนอื่นพูดดูถูกเช่นนี้ ! คงเป็นเรื่องยากที่เขาจะทนไหว !
“ผู้อาวุโสผู้สูงส่ง ผมล่ะเลื่อมใสเสียจริง แต่ขอบอกผู้อาวุโสเอาไว้หน่อย ว่าตอนที่พูดนั้น อย่าได้กล้าดูถูกอาจารย์ของผม !” ได้ยินประโยคนี้ของชายชรา ฉู่เหินก็ทนไม่ไหวแล้ว ! ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ก่อนคำนับชายชราที่อยู่กลางอากาศครั้งหนึ่งเมื่อพูดจบ !
“โอ้ แกเป็นใครกัน ? ไม่เห็นจะเคยได้ยินว่าเจ้าเด็กจูเก๋อมันรับลูกศิษย์มาเพิ่มตอนไหน !” ชายชราแสดงพฤติกรรมที่ถือว่าผู้เองอาวุโสกว่า พูดจาดูถูกรุ่นหลัง ! และเพียงประโยคนี้ มันก็ทำให้หูของฉู่เหินถูกทิ่มแทงอย่างรุนแรงแล้ว !
“ใช่แล้ว ชายที่แข็งแรงอย่างอาจารย์ของผมยังหนุ่มยังแน่น จะรับลูกศิษย์บ้างก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร ! กลับกัน ท่านผู้อาวุโสคงจะอายุมากแล้ว เป็นคนชรามาเสียหลายปี ใกล้จะลงโลงอยู่รอมร่อ ! ร่างกายของท่านไม่อยู่พักผ่อนที่บ้านดี ๆ กลับออกมาวิ่งไล่คนหนุ่มด้านนอก ท่านไม่กลัวว่าสักวันเอวจะเคลื่อนหรือไง ! ”
คำพูดที่ไม่ให้ความเคราพอย่างชัดเจน หลังจากออกมาจากปากฉู่เหิน ก็ทำให้คนที่ได้ยินตกใจขนหัวตั้ง !
เมื่อได้ยิน ชายชราคนนั้นก็พลันปรายตาลงมา พร้อมทั้งปล่อยรังสีฆ่าฟันออกไป ซึ่งแค่เพียงสิ่งเดียวนี้ มันก็บีบบังคับให้ฉู่เหินหายใจไม่ค่อยออกได้แล้ว !
“แก ไอ้เด็กน้อย แกพูดจามั่วซั่วกับคนอย่างฉันได้ยังไง ไอ้ประโยคตาแก่ใกล้ลงโลงนั้นช่างระคายหูเสียจริง ยังไม่รีบขอโทษฉันอีก !” ชายชราคิดในใจว่าฉู่เหินจะต้องเป็นเหมือนศิษย์พี่ของมัน ต้องไม่ยอมขอโทษตนแน่ ! ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ เขาก็จะสามารถหาข้ออ้างมาสั่งสอนเจ้าเด็กนี้ได้แล้ว !!! ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
“ที่ท่านผู้อาวุโสพูดมาก็มีเหตุผล ผู้น้อยผิดไปแล้ว ต่อไปจะไม่พูดว่าผู้อาวุโสเป็นตาแก่ใกล้ลงโลงอีกแล้ว แม้ว่าจะรู้ดีแก่ใจว่าท่านนั้นใกล้จะลงโลงจริง ๆ อย่างที่พูดก็ตาม ! ดังนั้นต่อให้ตีผมจนตาย ผมก็จะไม่พูดว่าท่านผู้อาวุโสเป็นตาแก่ใกล้ลงโลงอีกแล้ว ทว่าถ้าผมไม่พูดอย่างนี้ออกไป ด้วยอายุที่เยอะขนาดท่าน ท่านก็คงไม่รู้ตัวเสียที”
พอชายชราที่อยู่กลางอากาศได้ยินดังนั้นก็ทำตาเหลือกใส่ เขากำมืออย่างโกรธแค้น เจ้าเด็กปากดีนี้มันคิดจะทำอะไร ? คำสองคำก็เอาแต่บอกว่าเขาเป็นตาแก่ใกล้ลงโลง ถ้าไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายกำลังขอโทษอยู่ เขาคงคิดว่าอีกฝ่ายตั้งใจกวนประสาทตัวเองอยู่แน่ !
“หุบปาก ! ฉันไม่อยากจะพูดกับแกอีกแล้ว” ด้วยความจำใจ ชายชราจึงทำได้เพียงยุติบทสนทนาแต่เพียงเท่านี้ เขาไม่อยากจะพูดกับฉู่เหินอีกแล้ว เพราะคำพูดของชายหนุ่มมันทำให้เขาใกล้จะเป็นบ้าอยู่แล้ว !
“ผู้น้อยจะทำตามที่ท่านผู้อาวุโสบอก ได้โปรดวางใจได้ เดี๋ยวก็จะหุบปากแล้ว และจะไม่พูดอีกอย่างแน่นอน ! แต่ถ้าไม่พูดล่ะก็ งั้นแล้วผมจะขอโทษท่านผู้อาวุโสได้ยังไงกัน !และถ้าไม่ขอโทษ งั้นเมื่อกี้ที่พูดว่าท่านผู้อาวุโสเป็นตาแก่ใกล้ลงโลงนั่น มันก็ไม่ใช่ว่าเสียมารยาทหรอกหรือ !”
พอได้ยินฉู่เหินพูดมาอีกครั้ง ทุกคนในพรรควายุอัสนีต่างพากันก้มหน้าลงต่ำ เพื่อปิดบังใบหน้าที่กำลังกลั้นขำอย่างสุดความสามารถ ! พวกเขาเพิ่งรู้ว่าทำไมฉู่เหินถึงเสนอตัวออกมาก่อน ที่แท้ก็คิดจะยั่วโมโหอีกฝ่ายนั่นเอง ! และไม่ว่าจะเป็นใคร เมื่อได้ยินประโยคเจ็บแสบของฉู่เหิน คงยากที่จะไม่ประสาทเสียได้ !
“หยุดพูดจาไร้สาระสักที ฉันไม่ต้องการคำขอโทษจากแกแล้ว ! มารยาทอะไร ? ขอโทษอะไร ? ช่างมันเถอะ !” ชายชราโบกมือทีหนึ่งอย่างตัดรำคาญ !
“ผู้อาวุโส แบบนี้มันไม่ถูกต้องนะ ทำผิดก็ต้องได้รับบทลงโทษ ในเมื่อก่อนหน้านี้ผมพูดผิดไปแล้ว งั้นผมก็ต้องขอโทษสิ ! อีกอย่าง พอผมเห็นท่านผู้อาวุโส ผมก็พลันมีคำพูดมากมายอยากจะพูดกับผู้อาวุโส ! ดังนั้นผู้อาวุโสให้ผมพูดให้จบเถอะ ไม่งั้นผมต้องรู้สึกไม่สบายใจแน่ ๆ!”
“ผ่ายลมอะไร ให้แกสบายใจส่วนฉันไม่สบายใจแทนงั้นเหรอ แกไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ต้องพูดคำขอโทษบ้าบอนั่นออกมาอีกแล้ว !” จนถึงตอนนี้ทุกคนถึงเพิ่งรู้ว่าพลังของคำพูดมันมากมายขนาดไหน ! อีกทั้งได้รู้ในตอนนี้อีกเช่นกัน ว่าเดิมทีการขอโทษก็สามารถทำแบบนี้ได้ด้วย !
“ผู้อาวุโสแน่ใจนะว่าจะไม่ต้องการคำขอโทษจากผมแล้ว ! ผมว่าผมควรรักษามารยาทต่อคุณสักหน่อย และไหน ๆ ท่านอาวุโสก็ใกล้จะลงโลงอยู่แล้ว พวกเราก็เลยคิดจะให้ของขวัญชดใช้สัก 2-3 ชิ้น !”
“ไม่เอา ๆ ฉันบอกไม่ต้องก็คือไม่ต้อง เงียบปากไปก็พอ ไม่ต้องมาให้ของชดใช้ฉันอีกแล้ว !”
หลังได้ยินชายชราพูดแบบนี้ ใบหน้าของฉู่เหินก็เผยรอยยิ้มออกมา “งั้นผมก็ต้องขอบคุณท่านผู้อาวุโสแทนศิษย์พี่ของผมด้วยนะครับ ในเมื่อยืนยันว่าพวกเราไม่ต้องชดใช้แล้ว งั้นผู้อาวุโสก็คงไม่คิดสร้างความลำบากใจให้พวกเราพี่น้องอีก !” มองใบหน้าเจ้าเล่ห์ของฉู่เหิน ชายชราที่ลอยอยู่ก็พลันพุ่งลงมา
ตอนนี้เขาถึงเพิ่งรู้ว่าเดิมทีที่เจ้าเด็กนี้คุยกับเขานานสองนาน ก็เพื่อไม่ให้เขายุ่งกับศิษย์พี่มัน ! ถึงตอนนี้เขาจำต้องยอมรับว่า เจ้าเด็กตรงหน้ามีฝีปากที่ฉลาดมาก !
“วางใจได้ ฉันจะไม่ให้ศิษย์แกขอโทษแล้ว ทว่าวันนี้เกิดคันมือ อยากจะประลองเสียหน่อย ซึ่งด้วยฐานะของฉันแล้ว พวกนายไม่ต้องห่วง ฉันไม่เอาเขาถึงแก่ชีวิตหรอก แค่ต้องการให้บทเรียนกับเขาสักหน่อยเท่านั้น !” เมื่อพูดจบชายชราก็ตั้งท่าเตรียมพร้อม ทำให้ฉู่เหินถึงกับสบถในใจว่าเจ้านี้มันไร้ความละอายเกินไปแล้ว !