บทที่ 591 น่าสังเวช
บทที่ 591 น่าสังเวช
ที่จริงที่ผ่านมาเขายุ่งมากจริง ๆ อีกทั้งเหล่าแฟรี่ก็เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ ทำให้ไม่ค่อยได้ติดต่อพูดคุยกันนัก ! แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องให้แฟรี่ออกมาช่วยแล้ว ซึ่งหลังจากติดต่อเหล่าแฟรี่ไปพวกเธอก็ตอบตกลงทันทีอย่างไม่ลังเล !
ว่าแล้วพวกเธอบินเข้าไปในร่างกายของฉู่เหิน ทำให้ชายหนุ่มสามารถทะลวงจากขั้นเซียนมาเป็นขั้นเทพดาราได้แล้ว ! หลังเห็นฉากนี้ มันก็ทำให้ชายหนุ่มคนนั้นตะลึงอ้าปากค้าง ! ด้วยเขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่าฉู่เหินจะมีวิชาลึกลับที่สามารถเลื่อนขั้นพลังได้ถึงขนาดนี้ !
ต้องเข้าใจว่าหลังจากเขาได้รับพลังเทพสวรรค์มาด้วยวิธีลับ ๆ มันก็ทำให้เขาต้องแบกรับภาระโดยตลอด และเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า มันก็ย่อมต้องมีผลกระทบเป็นธรรมดา หากแต่ชายตรงหน้านี้กลับสามารถเพิ่มพลังได้ในทันทีโดยไม่แม้แต่จะเกิดผลเสียขึ้นเลยเหรอ !
เดิมเขาคิดจะบดขยี้อีกฝ่ายเสีย แต่คิดไม่ถึงว่าฉู่เหินจะสามารถเพิ่มขั้นระดับพลังของตัวเองได้ถึงเพียงนี้ จนทำให้ความต่างของพวกเขาสองคนไม่มากเท่าก่อนหน้านี้แล้ว ! และแม้ว่าตอนนี้ทั้งสองจะยังคงมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าฉู่เหินนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน !!!
เพราะแบบนี้สายตาที่เขามองฉู่เหินจึงเปลี่ยนเป็นมองอย่างระแวดระวัง ขณะเดียวกันตอนนี้กิเลนและมังกรก็ยังคงต่อสู้กันแบบไม่รู้ผลแพ้ชนะอยู่กลางอากาศ และยิ่งเมื่อตอนที่พลังของฉู่เหินเพิ่งขึ้นอย่างฉับพลันแบบนี้ มันก็ทำให้พลังของกิเลนเพิ่มสูงขึ้นในฉับพลัน ! ทำให้การต่อสู้ของสองสัตว์จิตวิญญาณเป็นฝ่ายกิเลนที่ได้เปรียบขึ้นมา !!!
การโจมตีของกิเลนทำให้อีกฝ่ายเสียศูนย์ไปเล็กน้อย และเมื่อเห็นฉากนั้น ฉู่เหินก็ไม่รอช้า กระชับกระบี่ดำในมือพุ่งตัวจนเห็นเป็นลำแสง เข้าประชิดอีกฝ่ายแล้วฟันลงไปทันที !
เมื่อกระบี่ฟันลงไป ก็ปรากฏรอยฟันขนาดใหญ่ขึ้น ! ด้วยไอดำที่อาบไล่ไปทั่วตัวของกระบี่ทำให้พลังของฉู่เหินเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว เช่นเดียวกับไอสังหารเย็นเยือกจากไอดำนั่น ที่ทำให้ชายที่อยู่ตรงหน้าถูกพลังกดดันจนขยับตัวไม่ได้ชั่ววินาทีหนึ่ง !
แม้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะมีอายุไม่มาก แต่ก็มีใครหลายคนต้องตายภายใต้น้ำมือของเขาไม่น้อย อย่างไรก็ตามเมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่ดำที่แผ่ไอสังหารมหาศาลขนาดนี้ มันก็ทำให้เขาดูตัวเล็กไปถนัดตา ! และเพราะแบบนี้ มันก็เลยทำให้เขาถึงกับสูญเสียความรู้สึกนึกคิดไปเลย ทว่าโชคยังดีที่เขาพลังวรยุทธ์สูงพอตัว ทำให้เขาสามารถฟื้นคืนสติกลับมาได้
แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ชั่วเสี้ยววินาที หากแต่กระบี่ดำนั้นก็ได้พุ่งมาเหนือหัวของเขาแล้ว !! และถ้าเขาได้สติช้ากว่านี้สัก 0.001 วินาทีก็เกรงว่าหัวของเขาคงหลุดออกจากบ่า ! ซึ่งฉากนี้ก็ทำให้เขาถึงกับสูดหายใจอย่างตกตะลึง ! ก่อนที่จะมีรังสีสังหารออกมาจากนัยน์ตา
ชายคนนั้นโยกหลบไปด้านข้างเพื่อหลบคมกระบี่พิฆาตอย่างรวดเร็ว ! ทว่าในขณะเดียวกันนั้นเอง กระบี่ที่อยู่ในมือของเขาก็ได้พุ่งแทงไปยังตำแหน่งหัวใจของอีกฝ่ายเช่นกัน เพื่อดูสิว่าฉู่เหินจะเตรียมใจเอาชีวิตแลกชีวิตไหม !
เขาคิดในใจว่าคมดาบของอีกฝ่ายอย่างมากที่สุดก็แค่ทำให้แขนของเขาขาดก็เท่านั้น ในขณะที่กระบี่ของเขานั้นเล็งตรงเข้าสู่หัวใจ ! ซึ่งวิธีนี้ก็นับเป็นวิธีที่บ้าบิ่นมาก จนทำให้ใครก็ตามที่เจอเช่นนี้ปวดหัว !
ฉู่เหินเองก็คิดแบบเดียวกัน เขากัดฟันแน่น ทำการเบี่ยงตัวเล็กน้อยทำให้กระบี่นั้นแทงมาที่หน้าอกตัวเอง เฉียดหัวใจไปนิ้วหนึ่ง ! เพื่อแลกกับที่กระบี่ของเขาสามารถตัดแขนข้างหนึ่งของอีกฝ่ายขาดสะบัดทันที ! ซึ่งก็กล่าวได้ว่าจิตใจของสองคนนี้โหดเหี้ยมอย่างแท้จริง
เพียงพริบตาฉู่เหินก็สามารถใช้กระบี่ตัวเองตัดแขนอีกฝ่ายขาด ! จนเกิดเสียงดัง ฉัวะ ! ก่อนที่กระบี่ของอีกฝ่ายจะพุ่งมาที่หน้าอกของเขาอีกรอบ ! และด้วยระยะห่างในตอนนี้ มันก็ทำให้ยากที่จะหลบ จนกระทั่งเกิดเสียงดัง เคร้ง!
ฉากนี้ทำให้ฉู่เหินมึนงงชั่วขณะ และไม่เพียงแค่ฉู่เหินที่งง อีกฝ่ายเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ! ต้องเข้าใจว่ากระบี่ของอีกฝ่ายนั้นไม่ใช่กระบี่ธรรมดา ๆ มันเป็นของวิเศษล้ำค่าระดับต้น ๆ อย่างแน่นอน ! และของวิเศษเช่นนี้ก็ไม่ได้มีให้เห็นบ่อย ๆ อย่างน้อยนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ฉู่เหินเคยเห็นมัน !
สำหรับกระบี่ดำที่อยู่ในมือของเขานี้ มันก็ไม่ได้เป็นของวิเศษพลังเวทย์ และก็ไม่ได้เป็นอาวุธจิตวิญญาณเช่นกัน แต่มันเป็นอาวุธมารชิ้นหนึ่งอย่างแท้จริง ! ที่จริงอาวุธมารกับอาวุธวิญญาณนั้นนับเป็นชนิดเดียวกัน เพียงแต่อาวุธมารส่วนมากมีเพียงผู้ใช้พลังมารเท่านั้นที่ใช้ได้ ! คนธรรมดาไม่อาจถือครอง
ทว่าสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มขั้นเทพดาราจินตนาการไม่ถึงก็คือ อาวุธสุดล้ำค่าของตัวเองกลับไม่สามารถสร้างรอยบาดแผลบนผิวอีกฝ่ายได้เลย ! ด้วยตามหลักความเป็นจริงแล้ว ต้องเป็นผู้มีพลังเท่าเทียมกันจึงจะสามารถขวางการโจมตีตัวเองได้สิ แล้วทำไมกัน ทำไมอีกฝ่ายถึงไม่เป็นอะไรเลย ! ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
เขาไม่รู้ว่าด้านนอกของฉู่เหินนั้นเป็นหุ่นเชิด แล้วก็เป็นอาวุธจิตวิญญาณชิ้นหนึ่ง ! และถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ล่ะก็ แม่ทัพกลุ่มเสือขาวไหนเลยจะเอาไปเก็บไว้ในห้องสมบัติ ! เพียงแต่ฉู่เหินเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอาวุธจิตวิญญาณมากนัก ดังนั้นเขาจึงยังไม่รู้ว่าตัวเองได้อะไรมา !
แต่แม้ว่าผิวหนังจะไม่ได้รับบาดเจ็บ หากแต่พลังมหาศาลที่ส่งออกมาก็ได้ทะลุผ่านผิวหนังเข้ามาในร่างกายตน ส่งแรงสะเทือนที่ทำให้เลือดลมของเขาปั่นป่วนไปจังหวะหนึ่ง และหากเขาไม่ได้หลบอยู่ในหุ่นเชิดแล้ว ก็เกรงว่าฉู่เหินคงถูกพลังนี้ทำลายลมปราณจนสิ้นแล้ว !
ต้องเข้าใจว่าเขาในตอนนี้อยู่ในขั้นจอมปราชญ์เท่านั้น ถูกขั้นเทพดาราคนหนึ่งโจมตีแล้วไม่ได้รับบาดเจ็บเลยก็นับว่าโชคดีมากแล้ว
ฉู่เหินที่ค่อย ๆ ได้สติกลับมาก็ยกเท้าขึ้นถีบเข้าที่หน้าอกอีกฝ่าย ทำให้ชายตรงหน้ากระเด็นลอยไปไกล ซึ่งตัวของฉู่เหินก็ไม่รอช้า ปล่อยหมัดตามไปติด ๆ
หลังจากที่กระบี่ดำโจมตีออกมา มาตอนนี้มันก็กำลังรวบรวมพลังอยู่ ทำให้เขาไม่สามารถทำการโจมตีครั้งที่สองต่อได้เลย ได้แต่ใช้หมัดออกไปแบบนั้น !!!
แต่ต้องอย่าลืมว่าพลังวรยุทธ์ของอีกฝ่ายสูงแค่ไหน เพียงแค่เขาโคจรพลังภายในแปปเดียวร่างกายก็หายดีแล้ว ! ผิดกับพลังวรยุทธ์ของฉู่เหินที่ถูกเอาไปใช้จนหมดแล้ว ! ได้แต่รอให้กระบี่ดำฟื้นฟูพลังกลับคืนมาเพียงอย่างเดียว ซึ่งขั้นตอนนี้มันก็ช้ามาก !!!!
ต้องเข้าใจว่าหมัดของฉู่เหินไม่ใช่กระจอก แต่เป็นกำปั้นที่ราวกับฝนดาวตกต่างหาก ทำให้อีกฝ่ายไม่อาจสวนกลับได้เลย !
เสียงคำรามอย่างโมโหถูกปล่อยออกมา ! ก่อนกำปั้นทั้งสองจะถูกหยุดเอาไว้ตรงนี้ จากนั้นมืออีกข้างของชายหนุ่มที่ถือกระบี่ยาวก็โบกสะบัด หวังจะตัดมือทั้งสองข้างของฉู่เหินให้ขาดเสียเดี๋ยวนั้น
ทันทีที่ทั้งสองปะทะกัน ฉู่เหินก็รู้สึกเจ็บที่มือตัวเอง อีกทั้งมือข้างหนึ่งของเขายังเกือบถูกตัดขาดไป 2 ใน 3 ซึ่งรอบตัดที่ใหญ่ขนาดนี้มันก็หมายถึงแม้แต่กระดูกก็ถูกตัดไปด้วย !
ครั้งก่อนที่อาวุธจิตวิญญาณทำหน้าที่ป้องกันเขานั้นเป็นเพราะอะไรบางอย่าง แต่ทว่าในครั้งนี้นั้นเขาไม่สามารถกระตุ้นอาวุธจิตวิญญาณขึ้นมาได้ จนทำให้เขาบาดเจ็บเช่นที่เห็น !
มีคำกล่าวว่าเมื่อก้าวผิดหนึ่งก้าว ครั้งต่อไปก็จะผิดอีก และหลังจากข้อมือข้างหนึ่งได้รับบาดเจ็บ มันก็ทำให้เขาไม่สามารถโจมตีอย่างในเวลาปกติได้อีก ทำให้ชายหนุ่มคนนั้นกลับมาเป็นต่อทันที
เมื่อก่อนเขาทำให้ไว้กับคนอื่น ตอนนี้เขาก็จะต้องโดนเหมือนกัน ! เพียงพริบตาใบหน้าของฉู่เหินก็เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำแล้ว
