บทที่ 637 กิเลนปะทะ
บทที่ 637 กิเลนปะทะ
การจะสร้างร่างกิเลนของฉู่เหินจะต้องดึงพลังมาจากมิติเล็กเสียก่อน ด้วยเหตุนี้การรวบรวมพลังจึงสำคัญมาก ! ซึ่งการจะสร้างร่างกิเลนให้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์นั้น ฉู่เหินก็จำต้องจ่ายค่าตอบแทนสูงมากเช่นเดียวกัน !
ตอนนี้ร่างกายของเขาอ่อนแอเป็นทุนเดิม และเพิ่งจะพักผ่อนร่างกายได้ไม่กี่วันเท่านั้น ทว่ามาตอนนี้กลับต้องมาเค้นพลังสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง สำหรับฉู่เหินแล้ว นี่ถือว่าหนักหนาไม่น้อย แม้ว่าตอนนี้พลังวรยุทธ์ของเขาจะถือว่าไม่เลว แต่สองสามกระบวนท่าก่อนหน้าก็ทำให้เขาเริ่มอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว !
ดังนั้นฉู่เหินจึงคิดที่จะจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด ไม่งั้นจะกลายเป็นเขาเองที่หมดแรงก่อน ถึงตอนนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสร้างร่างกิเลนอีกแล้วล่ะ
ถ้าถึงตอนนั้นจริง ๆ เขาก็คงได้แค่คิด และมองอีกฝ่ายสังหารตัวเองโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ! ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉู่เหินต้องการ เมื่อคิดดังนั้นร่างกายของฉู่เหินก็สั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่มิติเล็กจะปรากฏขึ้นข้างกายฉู่เหินไม่ใกล้ไม่ไกลนัก !
มิติเล็กนี้เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง พร้อม ๆ กับลำตัวของกิเลนที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง แต่ร่างกิเลนที่สร้างขึ้นมาในนั้นกลับเล็กเกินไป จนฉู่เหินมองด้วยหัวคิ้วที่ขมวดมุ่น เขาครุ่นคิดในใจว่ากิเลนที่เขาสร้างในตอนนี้แข็งแกร่งไม่เท่าตอนอยู่ในสนามรบชิงคงเลย !
ถ้าคิดอาศัยพลังของกิเลนตัวนี้ต่อสู้จนสะเทือนฟ้าสะเทือนดินอย่างวันนั้นคงเป็นไปไม่ได้แน่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงเกิดความลังเลขึ้นในใจ เพราะชายหนุ่มรู้ดีว่าขณะอยู่ในสนามรบชิงคงเขาจะมีพลังมากกว่าอยู่ข้างนอก แต่ก็คิดไม่ถึงว่ามันจะแตกต่างกันขนาดนี้ !
เขาสามารถสัมผัสได้ร่างกิเลนที่สร้างขึ้นมาตอนนี้มีพลังขั้นเทพบรรพกาลดารา ! ซึ่งพลังเพียงแค่นี้จะต่อสู้กับผู้ใช้พลังขั้นเดียวกัน 8 คนติดได้ยังไง ดูยังไงก็ไม่มีหวังที่จะชนะได้เลย ! ต่อให้ใช้ร่างกิเลนก็คงได้แค่ให้อีกฝ่ายบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ !
ขั้นเทพบรรพกาลดารานั้นเรียกได้ว่าน่ากลัวมากอย่างแท้จริง ถ้าไม่สังหารให้เด็ดขาด เขาก็จะเป็นฝ่ายโดนฆ่าเสียเอง แล้วในสถานการณ์แบบนี้เขาจะฆ่าได้กี่คนกัน ? ฉู่เหินคิดแล้วก็ไม่ยินยอมที่จะปล่อยคนไหนไปสักคน ! ยิ่งไปกว่านั้นถ้าพวกมันผ่านเขาไปได้ อาจารย์และศิษย์พี่คนอื่น ๆ ก็จะยิ่งรับมือลำบาก !
หลังจากตัดสินใจได้ นัยน์ของฉู่เหินก็เปลี่ยนไป เป็นสายตาที่ยอมแลกด้วยชีวิต ! เพียงเท่านั้นเขาก็ชูมือขึ้น โดยภายในมือก็กำป้ายอาญาสิทธิ์กิเลนไว้แน่น นั่นก็หมายความว่าเขาคิดที่จะใช้ป้ายนี้กลายเป็นกิเลนเสียเอง ! แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเขายังคิดรวมร่างกับกิเลนภายในมิติเล็กนั่นด้วย !
ซึ่งจริง ๆ แล้วการรวมร่างแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับฉู่เหินเลย ! เพราะหากผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย ร่างกิเลนของตนก็อาจจะระเบิดได้ ! และถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ชีวิตของเขาก็คงจะจบสิ้นไปด้วย ! เพราะเขาไม่มีหุ่นเชิดตัวตายตัวแทนอะไรแบบนั้นหรอกนะ !
ยิ่งไปกว่านั้น พลังวรยุทธ์ของเขาในตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำ ถ้าให้เขาทำอีกครั้ง แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก ! แต่ศัตรูที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เขาไม่อาจคิดหาวิธีอื่นได้แล้ว และนี้… ก็คงจะเป็นวิธีเดียวที่เขาจะทำได้ ถ้าสำเร็จทั้ง 8 คนก็จะถูกสังหาร ถ้าไม่สำเร็จสิบปีแก้แค้นก็ยังไม่สาย !
เพียงพริบตาร่างกิเลนก็ถูกหลอมรวม ขั้นตอนนี้เป็นอะไรที่อันตรายมาก แต่โชคยังดีที่เขาผ่านมันมาได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นตามที่ความคาดหวังของฉู่เหินอีกด้วย เพราะมันทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าอย่างที่รวดเร็ว
ฉู่เหินรู้สึกว่าแม้เมื่อเทียบกับตอนที่อยู่ในสนามรบชิงคงจะแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่ก็ยังดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก ! หลังจากเสร็จสิ้นการรวมร่าง ชายหนุ่มก็รู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจที่เหลือล้น จนเขามั่นใจว่าจะชนะไททันตรงหน้าได้แน่ !
ร่างเขาพุ่งตัวออกไป พร้อมกับสร้างลูกบอลไฟอันใหญ่หลายลูกที่กำลังพุ่งตรงไปยังร่างไททัน เพื่อทำการเผาไหม้และเข้าทำลายล้างอีกฝ่ายทันทีที่สัมผัสโดนผิวหนัง
การโจมตีนี้สร้างความโกรธให้แก่ไททัน จนมันคำรามเสียงดังกึกก้อง ! พวกเขา 8 คนรวมร่างกันจนตอนนี้กลายเป็นไททันยักษ์มีพลังอำนาจมากมาย แต่ตอนนี้กลับต้องมาถูกค่ายกลเล็ก ๆ ขวางมือขวางเท้า นี้ไม่เรียกว่าการดูถูกเหยียดหยามแล้วจะให้เรียกว่าอะไร !
ว่าแล้วมันก็เรียกดาบออกมาเล่มหนึ่ง ก่อนจะสะบัดขึ้นลงอย่างว่องไว เป็นผลให้ลูกบอลไฟทั้งหมดถูกปัดเป่าทิ้งจนหมดสิ้น ฉากนี้ราวกับเป็นการต่อสู้ของเทพเซียนไม่ใช่ของคนธรรมดาแล้ว ทำให้คนที่ยืนมองรู้สึกเย็นวาบไปทั่วไขสันหลัง
เดิมผู้อาวุโสต่างรู้สึกเสียใจภายหลังเสีย ที่คิดประนีประนอมกับศัตรู ! แต่เมื่อเห็นพลังของไททัน ใบหน้าก็ต่างถอดสี พวกเขาเริ่มคิดว่าที่พวกเขาเลือกยอมถอยนั้นถูกต้องแล้ว เพราะพรรควายุอัสนีเล็ก ๆ ไหนเลยจะรับมือกับพลังที่มหาศาลอย่างนี้ไหว !
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พวกเขาเกิดความคิดนี้ขึ้นมาในใจ ก็เห็นฉู่เหินที่กลายร่างเป็นกิเลนเรียบร้อยบินออกมาจากบ้านวายุ เดิมทีตอนที่เห็นร่างกิเลนปรากฏขึ้น พวกเขาก็คาดเดาว่านี้อาจจะเป็นวิชาเฉพาะของฉู่เหิน ก็เลยพากันจับจ้องมันไม่วางตาอยู่แล้ว
แต่ฉากที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ มันก็ทำให้พวกเขาต้องอ้าปากอ้า เมื่อเห็นร่างกิเลนที่เมื่อเผยตัวขึ้นกลับไม่เผยพลังออกมาในทันที แต่เลือกที่จะรวบรวมพลังสีม่วงสว่างไสวจนทุกคนต้องหรี่ตามอง …ก่อนที่ต่อมามันจะกลายเป็นลูกไฟสีม่วงอันร้อนแรง !
ตอนที่มองคราแรกพวกเขายังนึกว่ามันเป็นเพียงไฟธรรมดา ไม่คิดว่ามันพิเศษอะไร แต่ไม่รู้ทำไมหนังตาพวกเขากลับกระตุกอย่างแรง เพราะหลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจมากมายออกมาจากตัวกิเลนตัวนี้ และหากประมาทเพียงนิด พวกเขาก็อาจตายได้เลยถ้าโดนมันเข้าไป !
มนุษย์ที่กลายร่างเป็นไททันเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอแห่งความตาย ก็ไม่ลังเลที่จะหนี ! ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้แล้วว่าสิ่งนี้พวกเขาไม่อาจโค่นมันลงได้ ซึ่งหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น พวกเขาเองก็ไม่มีใครคิดว่าการหนีเช่นนี้เป็นเรื่องที่ผิดเช่นกัน !
อย่างไรก็ตามความเร็วของฉู่เหินเร็วกว่าอีกฝ่ายมาก ฉู่เหินในร่างกิเลนเคลื่อนไหวร่างกายรวดเร็วราวกับพายุ ! ยิ่งบวกกับปีกที่ด้านหลังร่างกิเลนด้วยแล้ว มันก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างง่ายไปหมด !
ตลอดมาฉู่เหินไม่เคยนำปีกนี่มาใช้ เพราะเขารู้สึกว่าปีคู่นี้มันแปลกประหลาด แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญถึงชีวิต ดังนั้นเขาจึงไม่สนวิธีที่จะเอาชนะศัตรูอีกต่อไป ! และเพราะปีกคู่นี้นี่เอง ที่ทำให้ในพริบตาเดียวเขาก็ไล่ตามมาอยู่เบื้องหน้าไททันได้แล้ว ก่อนที่ชายหนุ่มจะไม่รอช้า ใช้หัวกิเลนพุ่งชนอีกฝ่ายอย่างแรงทันที
กิเลนปะทะถือว่าเป็นวิชาเฉพาะอย่างหนึ่ง อีกทั้งพลังของมันยังรุนแรงมากด้วย ! แต่เวลาปกติฉู่เหินจะไม่สามารถใช้วิชานี้ได้ ! เพราะวิชาแบบนี้จะทำให้ทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บ หากไม่เข้าตาจนจริง ๆ เขาคงไม่หยิบมาใช้ ! ดังนั้นจึงมีคนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าวิชากิเลนมีวิชานี้อยู่ด้วย
ในทันทีที่กิเลนปะทะร่างไททัน ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบราวกับเวลาหยุดหมุน ก่อนที่เพียงพริบตาเดียวจะเกิดเสียงคล้ายระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว !
