ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 161 กู้โม่หาน เจ้าหยุดนะ
หนานหว่านเยียนรู้สึกเหมือนมีหนามทิ่มแทงหลังในทันที สัมผัสได้ถึงสายตาอันแผดเผาอยู่ข้างหลัง นางกัดฟันหันกลับมา
ในเวลานี้ กู้โม่หานกำลังกระชากคอเสื้ออย่างหงุดหงิด ใบหน้าแดงอย่างน่าประหลาดและน่าสงสัย แววตาแดงฉานเหมือนกำลังจ้องมองเหยื่อ จับตัวหนานหว่านเยียนเอาไว้แน่น
หนานหว่านเยียนเห็นดังนั้น หัวใจก็เต้นตึกตักทันที
บัดซบ กู้โม่หานยาออกฤทธิ์แล้วเหรอ?!
นางปกป้องตัวเองอย่างแน่นหนาโดยสัญชาตญาณ กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว
“กู้โม่หาน ข้าเตือนเจ้าแล้ว หากคืนนี้เจ้าแตะต้องข้า ข้ากับเจ้าต้องตายกันไป!”
พูดตามตรง นางยังกังวลเล็กน้อย เพราะถึงอย่างไร คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นชายโตเต็มวัยสูงใหญ่ร่างกายกำยำ แถมยังดื่มยาเข้าไปด้วย
แม้ว่านางจะมีฝีมือยิ่งใหญ่เทียมฟ้า แต่ในด้านพละกำลัง กู้โม่หานก็มีข้อได้เปรียบที่มากเป็นพิเศษ
กู้โม่หานเข้ามาใกล้หนานหว่านเยียนทีละก้าว
เขาพยายามควบคุมร่างกายของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว แต่เมื่อได้เห็นร่างอ่อนช้อยของหนานหว่านเยียนที่ปรากฏภายใต้ผ้าโปร่ง เกราะป้องกันก็ถูกทะลวงภายในชั่วพริบตา
เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่ เอาตัวโอบรอบเอวของหนานหว่านเยียน กลิ่นหอมจากร่างกายของนางอบอวลในทันที ดวงตาสีเข้มของเขามืดลง พัวพันรอบตัวนางอย่างแน่นหนา
“สู้กันจนพังทั้งสองฝ่ายหรือ? หนานหว่านเยียน เจ้าหลงตัวเองเกินไปหน่อยหรือเปล่า”
ยังไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่น แค่ความแข็งแกร่งของเขาในฐานะเทพสงคราม ต่อให้มีหนานหว่านเยียนสิบคนก็อย่าคิดจะแตะต้องเขาได้แม้แต่ปลายเล็บ!
บั้นเอวของหนานหว่านเยียนถูกเขาโอบไว้แน่น กระดิ่งเตือนในหัวใจของนางดังขึ้น ผลักเขาอย่างแรงออกห่างไปแปดจั้นทันที
“กู้โม่หาน เจ้าอย่าลืมว่าในใจรักหยุนอี่ว์โหรวอย่างสุดซึ้ง! คิดจะแตะต้องตัวข้า จิตใจอันมีมโนธรรมของเจ้าไม่รู้สึกเจ็บปวดบ้างหรือ?!”
เมื่อพูดถึงหยุนอี่ว์โหรว สติของกู้โม่หานคล้ายจะถูกดึงกลับมา เขารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว น้ำเสียงห่อเหี่ยวแหบแห้ง “อย่าเข้าข้างตัวเองให้มากนัก ข้าไม่มีทางแตะต้องตัวเจ้า ข้าจะบอกเจ้าว่า…คืนนี้ เจ้าต้องนอนบนพื้น!”
แม้ว่าหนานหว่านเยียนจะรู้สึกไม่พอใจ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว หากอดทนในเรื่องเล็กน้อยไม่ได้จะทำให้เสียแผนการใหญ่
“ก็ได้ นอนก็นอน! แต่บอกไว้ก่อนนะว่า หากเจ้ากล้าข้ามเส้นนี้ ข้าจะทำให้เจ้าไม่ได้เห็นตะวันในวันพรุ่งนี้เลย!”
นางใช้โอกาสอันโชคดีนี้ ยกกาน้ำขึ้นมาราดลงกลางห้องเป็นสาย จากนั้นก็มองไปทางกู้โม่หานที่มีท่าทีระแวดระวังมากเป็นพิเศษ
นางรู้ว่ากู้โม่หานดื่มสิ่งที่ไม่ควรดื่มเข้าไป แต่ก็รู้ว่าในหัวใจกู้โม่หานมีแต่ดอกบัวขาวน้อยผู้นั้น เขารักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองเพื่อดอกบัวขาวน้อยมาห้าปีแล้ว วันนี้นางมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และเขาเกลียดนางมากเช่นนั้น ก็ต้องอดกลั้นไว้ได้แน่!
กู้โม่หานชายตามองหนานหว่านเยียน รู้สึกว่าตอนนี้นางเหมือนเกี๊ยวน้อยเวลาอารมณ์เสีย น่ารักซะเหลือเกิน
ลูกกระเดือกของเขาเกลือกกลิ้ง หมุนตัวเบาๆ กลับมานั่งบนเตียง
ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เขาทรมานแค่ไหน
หนานหว่านเยียนเห็นเขาสงบเสงี่ยม ก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็ยังไม่กล้าผ่อนคลาย ทำตัวให้กระฉับกระเฉงขึ้นมาก
นางหยิบเครื่องนอนออกมาจากหีบ เอาห่อตัวไว้ก่อนอย่างมิดชิด จากนั้นดึงที่นอนออกมาปูบนพื้น
ผู้หญิงดีๆ ไม่ทะเลาะกับผู้ชาย! วันนี้นางจะไม่ยั่วยุกู้โม่หานแล้ว เพื่อไม่ให้ไฟลามมาถึงตัว
ในขณะที่หนานหว่านเยียนกำลังยุ่งอยู่ แต่กู้โม่หานกลับรู้สึกคอแห้ง
ต่อให้โง่เขลาแค่ไหน ตอนนี้เขาควรจะเข้าใจได้แล้ว ตัวเขาต้องมีอะไรผิดปกติสักอย่างแน่
เมื่อนึกสถานการณ์การรับประทานอาหารเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าน้ำแกงถ้วยนั้นมีปัญหา!
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาจะมาไล่เลียงปัญหา แหล่งน้ำที่มีในจวนเพียงแห่งเดียวได้ถูกหนานหว่านเยียนนำมาใช้วาดเส้นแบ่งขอบเขตที่ชัดเจนแล้ว
เขารู้สึกไม่สบายเนื้อตัว ไม่อาจผ่อนคลายลงได้ ความปรารถนากำลังลุกโชนอย่างไร้ขอบเขต
เขาเลียริมฝีปากแห้งผาก เห็นหนานหว่านเยียนถูกห่อกลมดิ๊ก ซ่อนอยู่ในเครื่องนอนอย่างมิดชิด
คืนนี้นางถูกแต่งตัวเป็นพิเศษ มวยผมคู่ที่ปล่อยลงมาทำให้หญิงสาวดูมีเสน่ห์นิ่มนวลน่ารักกว่าผู้หญิงทั่วไป
ในชั่วพริบตา ภาพคลุมเครือระหว่างพวกเขาจำนวนนับไม่ถ้วนได้ปรากฏขึ้นในหัวของชายผู้นี้อย่างฉับพลัน มันคือความปรารถนาที่ไม่มีใครเข้าใจ
จู่ๆ เขาก็เอ่ยขึ้นเบาๆ ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“หนานหว่านเยียน…!”
หนานหว่านเยียนได้ยินน้ำเสียงเศร้าหมอง รู้สึกว่ามีลางไม่ดี จึงดึงผ้าห่มให้แน่นขึ้น
“ทำอะไรน่ะ?”
กู้โม่หานพยายามฝืนลุกขึ้นยืน
ความอบอ้าวทำให้เขาอึดอัดมาก ไฟในหัวใจกำลังจะพวยพุ่งออกมาจากคอ เขาฉีกเสื้อที่เปิดไว้ครึ่งหนึ่งออก รู้สึกสบายขึ้นมากในที่สุด
แต่เมื่อมองไปที่หนานหว่านเยียนที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ก็รู้สึกว่านางเสมือนธารน้ำแข็งที่สามารถละลายได้ทุกสิ่ง
ทำให้เขารู้สึกปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง
กู้โม่หานไม่เคยคิดเลยว่า ยิ่งเขามองหนานหว่านเยียนมากเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกถูกชะตากับนางมากเท่านั้น…
หนานหว่านเยียนเห็นเขาไม่พูดอะไรอีก จ้องมองนางด้วยดวงตาสีดำขลับ จากนั้นก็เดินตรงเข้ามาหานาง
แววตาของนางตกตะลึงอย่างรุนแรง พลันรวบผ้าห่มเอาไว้แน่นด้วยความตกใจ “กู้โม่หาน เจ้าหยุดนะ…”