ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 217 พระชายาเห็นท่านอ๋องขัดหูขัดตามากขึ้นเรื่อยๆ
“หยุนอี่ว์โหรว เจ้ามีบทบาทมากเกินไป กู้โม่หานด้วย เจ้าทำตัวให้เหมือนลูกผู้ชายหน่อยได้ไหม เรื่องนี้เจ้ากับข้าได้ปรึกษากันในวังเรียบร้อยแล้ว พูดว่าจะมอบอำนาจจัดการจวนให้มันยากนักหรือ?”
ปรึกษากันในวังเรียบร้อยแล้วหรือ?!
หลายวันมานี้หนานหว่านเยียนและกู้โม่หานได้ทำอะไรกันไปบ้าง?!
“ท่านอ๋อง…” ดวงตาของหยุนอี่ว์โหรวแดงก่ำน้ำตาคลอ สายตาที่มองกู้โม่หานมีความไม่เข้าใจและคับข้องใจ
กู้โม่หานเห็นบาดแผลบนแขนของหนานหว่านเยียน ก็อยากจะปกป้องนาง
แต่เขากับหยุนอี่ว์โหรวก็ติดหนี้กัน ความรู้สึกในเวลานี้ผสมปนเปกันไปหมด ยากจะอธิบาย
“โหรวเอ๋อร์ ข้าตกลงกับพระชายาแล้วจริงๆ ว่าจะให้อำนาจจัดการจวนแก่นาง เจ้าก็มอบอำนาจจัดการจวนให้นางเถอะนะ”
พูดจบ เขาหันไปหาพ่อบ้านกาว “ข้าจะให้พ่อบ้านกาวรับผิดชอบเรื่องเล็กใหญ่ของเจ้าทั้งหมด หากเจ้ายังได้รับความไม่เป็นธรรมในจวนอ๋องอยู่ ข้าจะสอบถามจากเขา!”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” พ่อบ้านกาวถูกลากออกมาอย่างไม่มีคำอธิบาย เขาตอบรับด้วยใบหน้าที่สั่นเทา แต่ในใจกลับโอดครวญไม่หยุด
บุญคุณความแค้นระหว่างคุณหนูทั้งหลาย ทำไมต้องดึงเขามามีส่วนร่วมด้วยนะ!
เสิ่นอี่ว์คอยมองอยู่ข้างๆ สายตามีความซับซ้อน
คิดไม่ถึงเลยว่า ท่าทีที่ท่านอ๋องมีต่อพระชายาในวันนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย แต่ในทางกลับกันพระชายานั้น…
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่า พระชายาเห็นท่านอ๋องขัดหูขัดตามากขึ้นเรื่อยๆ?
สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวซีดเผือดราวกับหิมะ น้ำตาไหลลงมาจริงๆ
อำนาจจัดการจวนนางถือไว้ในมือยังไม่เท่าไหร่ ก็ถูกหนานหว่านเยียนแย่งไปแล้ว แถมยังแย่งไปต่อหน้าคนรับใช้ทั้งหมดในเรือน!
นี่คือการเหยียดหยามกันชัดๆ!
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ กู้โม่หานไม่ได้ออกปากห้ามปราม ยังช่วยหนานหว่านเยียนให้ได้อำนาจจัดการจวนไปอีกด้วย!
นางเจ็บมากเหลือเกิน ขโมยไก่ไม่ได้ เสียข้าวสารอีกกำมือ หากไม่มีอำนาจจัดการจวนแล้ว นางก็เหมือนถูกสูบเลือดสูบเนื้อออกไปจนหมด เหลือไว้เพียงเปลือกที่ว่างเปล่าในจวนอ๋อง…
นางอดทนต่อความเจ็บปวดในท้อง กัดฟันจ้องมองหนานหว่านเยียน แววตาเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและไม่ยอมจำนน
แค่ผู้หญิงคนเดียวก็ฆ่าไม่ได้ ยังจะผลาญเงินของนางทุกวันอีก
หยุนโม่หรานไอ้เศษสวะ!
หนานหว่านเยียนมองหยุนอี่ว์โหรวที่แอบเกลียดชังแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา
นางรู้ความรู้สึกของ หยุนอี่ว์โหรวในเวลานี้ มันแย่จนถึงขีดสุด
แต่นี่เป็นเพียงอาหารรองท้อง นางยังไม่ได้เริ่มจานหลักเลย!
“ในเมื่ออำนาจจัดการจวนอยู่ในมือของข้าแล้ว เช่นนั้นพรุ่งนี้พระชายารองหยุนก็ตามพ่อบ้านกาวไปตรวจสอบบัญชีแล้วกัน พอถึงเวลานั้น ก็นำสมุดบัญชีมาให้ข้าที่เรือนเซียงหลิน”
หยุนอี่ว์โหรวเหมือนถูกบีบศีรษะ เลือดกบปาก นางกลืนลงไปสดๆ
แม้ว่านางจะไม่ยินดี แต่ก็รู้ว่า หากกู้โม่หานพูดออกมาแล้ว เรื่องนั้นจะไม่มีโอกาสดึงสถานการณ์กลับมาอีกแล้ว “เพคะ หม่อมฉันทราบแล้ว”
เวลานี้ในที่สุดเชี่ยนปี้ก็ตระหนักว่า อำนาจจัดการจวนของพระชายารองของนางได้ถูกหนานหว่านเยียนแย่งชิงไปแล้ว!
นางก็ไม่รู้ว่าไปเอาความกล้ามาจากไหน เหมือนยังนึกว่ากู้โม่หานจะเข้าข้างหยุนอี่ว์โหรวอย่างไม่มีเงื่อนไข
“พระชายาอย่าข่มเหงรังแกกันเกินไป!”
“หากไม่ใช่เพราะท่าน วันนี้พระชายารองหยุนจะไม่มีทางนอนอ่อนแอบนเตียงแบบนี้เด็ดขาด! ท่านไม่เพียงทำร้ายพระชายารอง แต่วันนี้ยังบีบคั้นแย่งชิงอำนาจจัดการจวนไปจากพระชายารองด้วย! คนอย่างท่านจะมาเป็นนายหญิงของจวนอ๋องได้ยังไง!”
หยุนอี่ว์โหรวตื่นตระหนก รีบจับมือของเชี่ยนปี้ไว้พลางตวาดใส่ “เชี่ยนปี้! หุบปาก!”
ในเวลานี้การพูดมากเกินไปมันคือทางไปสู่ความตาย!
หนานหว่านเยียนยกมือขึ้นตบหน้าเชี่ยนปี้สองครั้ง จนนางตาลายเห็นดาว!
จากนั้นนางก็มองไปที่หยุนอี่ว์โหรวอย่างเย็นชา ฝ่ามือร้อนผ่าว
“หยุนอี่ว์โหรว เจ้าเป็นแค่สนมของจวนอ๋อง ตอนนี้อำนาจจัดการจวนกลับมาอยู่ในมือเจ้าของเดิมแล้ว ไม่มีใครกล้าพูดอะไร แต่สาวใช้ของเจ้ากลับยกไม้ยกมือใส่พระชายา ปกติแล้วเจ้าอบรมกันยังไง?!”
“จะว่าไปแล้ว อำนาจจัดการจวนนี้กู้โม่หานเป็นคนมอบให้ข้า อ๋องอี้จะไร้ความสามารถเช่นนี้ได้ยังไง จนถูกสาวใช้คนหนึ่งในจวนอ๋องสงสัยในการตัดสินใจ”
กู้โม่หานขมวดคิ้ว รู้สึกเสียดแทงใจ
เหตุใดวันนี้หนานหว่านเยียนถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้?
โกรธแค้นเขา โมโหที่ทิ้งนางไว้งั้นหรือ?
เขามองไปทางหยุนอี่ว์โหรว หยุนอี่ว์โหรวไม่รอให้เขาเอ่ยปาก ตบหน้าเชี่ยนปี้ทันทีด้วยพละกำลังทั้งหมดของนาง
“บ่าวสารเลว! กล้าล่วงเกินเบื้องสูงได้ยังไง ยังไม่คุกเข่าขอโทษพระชายาอี้อีก?!”
เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นใจให้หนานหว่านเยียน แม้ว่าเชี่ยนปี้จะพูดเพื่อนาง แต่ก็โง่เกินไป ที่จะมาพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้
ทำให้กู้โม่หานยิ่งรังเกียจมากขึ้น!
เชี่ยนปี้เบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว เมื่อเผชิญกับสายตารังเกียจเหนื่อยหน่ายของหยุนอี่ว์โหรว ถึงได้สติว่านางไม่ควรพูด
นางคุกเข่าลงทันที “ท่านอ๋อง พระชายา บ่าวปากเปราะไปเอง บ่าวสมควรตาย! พระชายาอี้ได้โปรดยกโทษให้บ่าวด้วย!”
หยุนอี่ว์โหรวยันเตียงลุกขึ้น อ่อนแอจนลมพัดปลิว นี่ไม่ใช่การเสแสร้ง นางเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างกาย หัวใจว่างเปล่า
“หม่อมฉันอบรมไม่ดีเอง พระชายาอี้ได้โปรดลงโทษ วันหลังหม่อมฉันจะไม่ปล่อยให้เชี่ยนปี้ปากเปราะแบบนี้อีกแล้ว”
พูดจบ นางก็กุมหน้าผากโงนเงน ร่างกายที่บอบบางเหมือนกระดาษทำท่าจะล้มลงไป
แต่กู้โม่หานกลับไม่ได้เข้ามาช่วยประคองนาง พลางกล่าวเสียงต่ำ “เจ้าพักฟื้นในเรือนจู๋หลานให้เพียงพอ พรุ่งนี้ตรวจสอบบัญชีจนเสร็จ ช่วงนี้อย่าออกไปข้างนอก”
สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวเปลี่ยนไปอีกครั้ง
กู้โม่หานต้องการให้นางปิดประตูไตร่ตรองหรือ?
หนานหว่านเยียนเหลือบมองหยุนอี่ว์โหรวที่กำลังเสแสร้งอย่างเย็นชา รู้สึกทนดูไม่ไหว จึงหันหลังเดินออกไป
เสิ่นอี่ว์โค้งคำนับนางด้วยความเคารพที่ประตู พ่อบ้านกาวก็โค้งคำนับด้วย
ตอนนี้หนานหว่านเยียนมีอำนาจจัดการจวนแล้ว ตำแหน่งในจวนอ๋องแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!
กู้โม่หานมองแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยรอยเลือดของหนานหว่านเยียน รู้สึกปวดหว่างคิ้ว
บาดแผลของนาง ไม่เจ็บแล้วหรือ?
ในขณะที่เขายังคงลังเล ว่าควรจะดึงนางไว้หรือไม่ หนานหว่านเยียนก็นึกถึงอะไรบางอย่าง หันกลับมาอีกครั้ง
กู้โม่หานมองนางทันที “ยังมีอะไรอีกเหรอ?”
หนานหว่านเยียนดึงเสิ่นอี่ว์ไว้ “ให้ข้ายืมตัวเสิ่นอี่ว์สักสองสามวัน ข้าจะหาเวลาไปรับท่านลุงกลับจวนอ๋อง”
เสิ่นอี่ว์ตกใจจนวิญญาณแทบจะออกจากร่าง
ครั้งก่อนพระชายาและคุณหนูทั้งสองทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม กู้โม่หานก็เกือบจะบีบคอเขาตาย วันนี้พระชายาดึงเสื้อของเขาอย่างโจ่งแจ้ง ไม่รู้ว่าเขาจะอายุสั้นหรือเปล่า…
คนอื่นๆ ที่เหลือต่างตกใจ
เสิ่นอี่ว์เป็นองครักษ์ข้างกายกู้โม่หานที่มีความสามารถมากที่สุด รักใคร่ฉันท์พี่น้องร่วมเป็นร่วมตายมากับกู้โม่หาน จะให้ยืมตัวกันง่ายๆ ได้อย่างไร?!
อันที่จริงกู้โม่หานไม่เต็มใจอย่างมาก แต่ไม่ใช่เพราะเสิ่นอี่ว์ แต่เป็นเพราะโม่หวิ่นหมิง
อย่างไรก็ตามสัญชาตญาณของกู้โม่หานไม่ผิดพลาด ทันทีที่โม่หวิ่นหมิงเข้ามาในจวน ความเจ็บปวดของเขาก็เริ่มต้นขึ้น…
ดวงตาอันลุ่มลึกของกู้โม่หานชำเลืองมองเสิ่นอี่ว์ แววตาอันเฉียบคมจับจ้องที่มือของหนานหว่านเยียนที่ดึงเสื้อเสิ่นอี่ว์อยู่
“ทำตามคำสั่งนาง อย่าให้มีอะไรผิดพลาด!”
เสิ่นอี่ว์ขยับลูกกระเดือก “พ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมเข้าใจแล้ว!”
ผู้คนต่างตกตะลึง
ท่านอ๋องยอมให้หนานหว่านเยียนเรียกใช้งานเสิ่นอี่ว์แล้ว…
หัวใจของหยุนอี่ว์โหรวบีบตัวในทันที ทั้งเจ็บทั้งแค้น
แม้แต่นางยังไม่มีคุณสมบัติที่จะเรียกใช้เสิ่นอี่ว์ แต่หนานหว่านเยียนทำได้!
กู้โม่หาน เขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ!
กู้โม่หานเดินเข้าไปหาหนานหว่านเยียน บาดแผลที่น่าสะพรึงกลัวบนแขนของนาง “ดูแผลของเจ้าก่อนหมอหลวงหลี่!”
หมอหลวงหลี่นิ่งเงียบมาตลอด พอได้ยินดังนั้นก็ตอบรับ “เดี๋ยวกระหม่อมดูให้…”
“ไม่จำเป็น” หนานหว่านเยียนดึงเสิ่นอี่ว์ออกไปข้างนอก
ใบหน้าอันหล่อเหลาของกู้โม่หานบึ้งตึง เขาจับมือนาง แล้วกล่าวอย่างไม่พอใจ “หนานหว่านเยียน แผลของเจ้าต้องพันผ้าพันแผล…”
ยังพูดไม่ทันจบ มือของเขาก็ถูกหนานหว่านเยียนสะบัดออกอย่างแรง
นางไม่ได้มองกู้โม่หานด้วยซ้ำ แต่ความรังเกียจและเหนื่อยหน่ายบนใบหน้า ไม่มีปิดบังไว้เลย
เดินไปข้างหน้าโดยไม่มองย้อนกลับไป
“เสิ่นอี่ว์ เร็วหน่อย!”
มือของกู้โม่หานว่างเปล่า มองหนานหว่านเยียนที่มีเลือดท่วมตัว หัวใจเต้นระรัวอย่างอธิบายไม่ถูก…