ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 418 ท่านอ๋องหึงหวงและโกรธเคือง
“ท่านอ๋อง…” น้ำเสียงของอวี๋เฟิวสื่อความขี้ขลาดเล็กน้อย เมื่อเห็นสีหน้าอย่างแย่ของกู้โม่หาน เขาอดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงออกมาเบา ๆ
ไม่นึกเลยว่าพระชายาเฉิงจะทะเยอทะยานขนาดนี้ ยั่วยุท่านพระชายาอย่างเปิดโปง และบอกว่านางจะฆ่าท่านพระชายาให้ตายในที่สุด ท่านอ๋องต้องโกรธแน่!
ดวงตาที่ยาวแคบและแหลมคมของกู้โม่หาน ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหมึกที่ไม่ละลายน้ำพร้อมสื่อความรู้สึกเย็นชาออกมา
เขาคิดเหมือนกับหนานหว่านเยียน เขารู้สึกว่าคนในวังที่หนานชิงชิงกล่าวถึงนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าฮ่องเต้และผู้ที่ปรารถนาตำแหน่งไท่จื่อ แต่ส่วนคนที่อยู่นอกวัง…
ไม่รู้ทำไม เขาก็นึกถึงหยุนอี่ว์โหรวโดยไม่รู้ตัว
และรวมไปถึงคำถามของหนานหว่านเยียน ก็ทำให้เขาคิดอย่างลึกซึ้ง
เรื่องลูกถูกเปิดเผย คือหยุนอี่ว์โหรวและหนานชิงชิงร่วมมือกันทำหรือไม่?
หนานชิงชิงเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของหยุนอี่ว์โหรวหรือเปล่า? งั้นเรื่องเสิ่นอี่ว์ … ก็คือทำโดยหนานชิงชิงและหยุนอี่ว์โหรวหรือไม่? !
กู้โม่หานยังคงคิดไปลึก แต่เสียงที่ทำให้เขาไม่พอใจอย่างยิ่งก็ดังขึ้น
“พี่สะใภ้หก ปรากฎว่าท่านยังไม่ได้ไปไหนไกล ดีจัง!”
ที่ประตูจวนกั๋วกง กู้โม่หลิงยิ้มเดินไปหาหนานหว่านเยียน เขาสวมชุดสีเขียวกระพือและดวงตาจิ้งจอกของเขาก็ปิดลงครึ่งหนึ่งเผยให้เห็นรอยยิ้ม
อ๋องเจ็ด?
หนานหว่านเยียนเกิดความสงสัยขึ้นมา หันหน้าไปมองที่กู้โม่หลิง แล้วก็ตั้งสติและยิ้มให้เขาทันที “เสด็จน้องเจ็ด เกิดอะไรขึ้นหรอ”
กูโม่หลิงจ้องมองไปที่นางด้วยใบหน้าที่สดชื่นซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“วันนี้พี่สะใภ้หกฉายแววเจิดจรัส และทำให้น้องชายเองเปิดสายตากว้างขึ้น ทั้งชำนาญในการแต่งบทกวี และก็เป็นเซียนในการเล่นหมากรุก และยิ่งเหมือนการเกิดใหม่ของหมออัจฉริยะ ทำให้ข้าประทับใจมาก ข้าก็ได้คิดถึงวันนั้น พี่สะใภ้หกได้ช่วยชีวิตน้องเองในที่อุทยานหลวง”
พอกู้โม่หานพูดถึงอุทยานหลวง หนานหว่านยานก็ได้นึกถึงบาดแผลมีดที่ผิดปกติบนร่างกายของเขาได้
นางถามดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจ: “เป็นเรื่องเล็ก ๆเท่านั้น แต่วันนั้นข้ายังไม่ทันถามว่าทำไมเสด็จน้องเจ็ดถึงมีบาดแผลมีดลึกบนร่างกายขนาดนี้”
เขาชอบอ่านหนังสือในจวนไม่ใช่หรือ และเขาไม่ต่อสู้หรือไขว่คว้าอะไร นางไม่เคยได้ยินว่ามีคนลอบสังหารตัวเขา เป็นไปได้อย่างไรเล่าที่มีบาดแผลมีดบนร่างกายของเขา?
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของกู้โม่หลิงก็มืดลงเล็กน้อย แต่ต่อไปเขาก็ยิ้มเบาๆ พับด้ามจิ้วในมือแล้วเคาะมันบนฝ่ามือ
“นั่นเป็นแผลเก่า ไม่น่าจะต้องพูดถึง แต่ฉันยังคงชื่นชมทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของพี่สะใภ้หก ตั้งแต่นั้นมา บาดแผลของน้องเองก็ไม่เจ็บปวดจนทนไม่ไหวอีกต่อไป”
เขาเปลี่ยนเรื่องอย่างชาญฉลาดและหลีกเลี่ยงปัญหาสำคัญ แต่การทำแบบนี้ให้หนานหว่านเยียนยิ่งเกิดความสงสัยขึ้นมา
โดยสัญชาตญาณนางจึงไม่อยากเข้าใกล้กับโก้โม่หลิงมากเกินไป
ดังนั้น นางจึงยิ้ม “เสด็จน้องเจ็ดหายดีก็ดีแล้ว”
เซียงอวี้เป็นคนประหม่ามากและเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
“อ๋องเจ็ดทรงมีความสามารถในการประเมินคนได้จริง ๆ ท่านพระชายาของเราเคยเป็นไข่มุกที่ปกคลุมด้วยฝุ่น ความจริงแล้วพระชายาทรงเชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ ท่านพระชายามีญาณพิเศษในการสั่งสอนเจ้าคุณหนูทั้งสอง ทักษะทางการแพทย์ของท่านก็ไม่มีใครมาเทียบได้ ท่านก็มีความสวยงามดังเหมือนนางฟ้าเช่นกัน สมกับท่านอ๋องของเราผู้กล้าหาญและเก่งกาจในการต่อสู้ ถือได้ว่าเป็นบุพเพสันนิวาสจริง ๆ!”
เดิมที ดวงตาของกู้โม่หลิงโค้งงอเป็นเสี้ยว แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเซียงอวี้ในช่วงครึ่งหลัง ดวงตาของเขาก็สื่อความหมายอะไรบางอย่าง
เขาหัวเราะเบา ๆ เปิดด้ามพัดอีกครั้งแล้วเขย่า
“คุณเซียงอวี้พูดถูก พี่สะใภ้หกทรงพลังและเป็นวีรสตรีอย่างแท้จริง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพี่สะใภ้หกมีความรักอย่างลึกซึ้งต่อเสร็จพี่หกในตอนนั้นและยืนกรานที่จะแต่งงานกับเสด็จพี่หก ตอนนี้แต่งงานกับใครก็ยังไม่แน่เลย”
“อย่างไรก็ตาม พี่สะใภ้หกกำลังส่องแสงเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า และเสด็จพี่หกก็สามารถเห็นความดีของพี่สะใภ้หกได้ ซึ่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับพระชายารองอีกต่อไปแล้ว ก็ดีนะครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สายตาของกู้โม่หานเสมือนน้ำแข็งและอากาศที่เย็นยะเยือกปกคลุมทั่วร่างกายของเขา
กู้โม่หลิงหมายถึงอะไร?
มีความคิดอะไรต่อหนานหว่านเยียนหรือ?
ถึงได้จงใจเอาเรื่องของหยุนอี่ว์โหรวเพื่อหว่านความขัดแย้งระหว่างเขากับหนานหว่านเยียน!
แล้วหนานหว่านเยียนนางคิดว่าอย่างไร?
สีหน้าของกู้โม่หานแย่ลงทันที และอวี้เฟิงก็รู้สึกถึงความกดดันอย่างรุนแรง
เขามองไปที่กู้โม่หานและไม่กล้าที่จะหายใจ
วันนี้ท่านพระชายาได้แสดงความเฉียบแหลมของท่านและก็ดึงดูดความสนใจจากคนอื่นได้ง่ายจริง ๆ มีการแอบรักมากมายนับไม่ถ้วน
ตอนนี้ความหึงหวงของเจ้าชายแทบจะล้นทะลัก ไม่รู้ว่าท่านพระชายาจะตอบอย่างไร ถ้าตอบว่าเกลียดท่านอ๋อง ท่านอ๋องน่าจะโกรธเคืองแน่ ๆ…