ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 429 ท่านอ๋องสูญเสียการควบคุม

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 429 ท่านอ๋องสูญเสียการควบคุม

เมื่อเอ่ยจบ นางเห็นนิ้วมือที่หนานหว่านเยียนจับพู่กันชะงัก แต่เดี๋ยวเดียวก็เขียนขึ้นมาอีกครั้ง

พระชายามีปฏิกิริยา!

ดวงตาเซียงอวี้เปลวไฟลุกโชน เอ่ยเสริมด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย “พระชายาเพคะ เพราะท่านอ๋องรู้ว่าท่านถูกรังแกที่จวนกั๋วกง จึงวางแผนสถานการณ์นี้โดยเฉพาะ ท่านดูจุดจบของฮูหยินเฉิงเซี่ยงสิเพคะ คนที่วางแผนทำร้ายท่าน น่าอนาถสิ้นดี ท่านอ๋องเพียงกำลังช่วยท่านระบายความโกรธ เขาชอบท่าน ไม่อย่างนั้นจะลงมือ ลุยน้ำขุ่น1เองทำไมเพคะ!”

“ท่านอ๋องเป็นคนที่พูดไม่เก่ง การกระทำสำคัญกว่าคำพูดเสมอ อยากทำอะไรก็ทำ ท่านดูตอนที่ท่านอ๋องพาท่านกับพวกคุณหนูออกจวนไปครั้งที่แล้ว ไม่เพียงซื้อเครื่องประดับ เสื้อผ้า และของเล่าแปลกตาให้ท่านมากมายหรือ กระทั่งเอาถังหูหลูทั้งหมดกลับมาด้วย ท่านอ๋องเพียงพูดไม่เก่ง แต่เขาก็ชอบพะเน้าพะนอท่านกับพวกเสี่ยวจวิ้นจู่ จนทำให้หลายคนอิจฉาตาร้อนเสมอ!”

หลังคำพูดยืดยาวพูดจบลง เซียงอวี้ก็กะพริบตาอย่างน่าเวทนา “พระชายา ท่านอย่าโกรธอีกเลย คืนดีกับท่านอ๋องเถอะเพคะ…”

นางก็รู้อยู่แล้วตอนอวี๋เฟิงส่งนางกลับมาเมื่อวาน ท่านอ๋องเป็นห่วงพระชายา เลยเฝ้าดูอยู่ที่ห้องใต้หลังคาตลอด เพราะงั้นพระชายาถูกใครข่มเหงรังแก และมีใครเข้าใกล้ ท่านอ๋องล้วนรู้เรื่องทั้งหมด

แต่อวี๋เฟิงบอกว่า เรื่องนี้ไม่อาจให้พระชายารู้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงเปลี่ยนวิธีบอกพระชายา ท่านอ๋องนั้นดีมากจริงๆ รักและห่วงใยนางมาก

นางกับอวี๋เฟิงยังหวังจากใจว่าท่านอ๋องกับพระชายาจะกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง และเรือนเซียงหลินจะมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเฮฮาเหมือนเมื่อก่อน

หนานหว่านเยียนมองตัวเลขถี่ยิบบนกระดาษ ฟังคำพูดเซียงอวี้ถอนหายใจอย่างจนปัญญา เงยหน้าขึ้นมองเซียงอวี้

“เซียงอวี้เจ้าคิดว่ากู้โม่หานหลงรักหน้ามืดตามัวจริงๆ หรือ”

เซียงอวี้ผงะทันที งงงวยเล็กน้อย “รัก…หน้ามืดตามัว?”

มันคืออะไร

หนานหว่านเยียนจัดการบัญชีเรียบร้อยก็ใส่ไว้ในตู้ข้างมือ พูดอย่างเฉยเมยว่า “ข้ายอมรับว่ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ที่เรื่องสถานการณ์วุ่นวายในวังเป็นกู้โม่หานที่ผลักดัน ต้องบอกว่าร้ายกาจมาก แต่ว่า หากสามารถลงโทษและกดต่ำจวนเฉิงเซี่ยงได้ เขาย่อมทำมัน แล้วจะเป็นการทำเพื่อข้าได้อย่างไร”

“ต่อให้จะบอกว่า เขาระบายความโกรธเพื่อข้าจริงๆ แล้วอย่างไรเล่า ข้าไม่ได้มีความสัมพันธ์กับกู้โม่หานไม่จำที่เข้าต้องมาทำดีกับข้าเช่นนี้ เพราะอย่างไรข้าไม่ได้รักเขา และไม่มีทางมีความเป็นไปได้กับเขา”

นางจะไปมีอนาคตอะไรกับกู้โม่หานได้อย่างไร ไม่ว่ากู้โม่หานจะสงสัย ดูถูก และกระทำรุนแรงใส่นางก่อนหน้านี้ ยังมีโบยสามสิบไม้นั้น หรือเรื่องที่ต่อมาเขาบังคับให้นางช่วยหยุนอี่ว์โหรวช่วยศัตรู

กู้โม่หานกับนางไม่อาจเดินมาบรรจบกันได้ มันกำหนดไว้ทุกอย่างแล้ว

ต่อให้กู้โม่หานจะช่วยนางไว้ นางก็เคยช่วยชีวิตกู้โม่หานทั้งไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ระหว่างพวกเขาเสมอกันมาตั้งนานแล้ว

เกณฑ์การเลือกสามีของนาง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกู้โม่หานเลย

ตอนนี้นางกับกู้โม่หานก็ควรจะจดจ่อกับการยึดอำนาจ แล้วหย่ากันเร็วหน่อย

ตอนนี้จวนเฉิงเซี่ยงเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทางหนานชิงชิงก็ถูกหางเลขด้วย จะต้องมีหลายคนเริ่มลังเลใจอย่างแน่นอน ถือเป็นโอกาสดีที่กู้โม่หานจะเอาชนะใจผู้คน

พระชายาไม่ได้รักท่านอ๋องเลยรึ

มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน!

เซียงอวี้ตกใจมาก

“พระชายา ท่านเคยชอบท่านอ๋องมากที่สุดไม่ใช่หรือเพคะ บ่าวรู้ว่าเมื่อก่อนท่านอ๋องปฏิบัติไม่เหมาะสมต่อท่านหลายครั้งจริงๆ แต่ แต่ว่าขอเพียงต่อไป…”

“ไม่มีต่อไปแล้ว” สายตาหนานหว่านเยียนไม่มีความรู้สึกสักเท่าไร “มีหลายสิ่งหลายอย่างไม่ใช่ว่าวัวหายล้อมคอกแล้วจะแก้ไขได้”

จากนั้น หนานหว่านเยียนจับมือของนาง แล้วเอ่ยกำชับอย่างจริงจังว่า “เซียงอวี้เจ้ายังไม่รู้จักโลกภายนอกดี แต่ข้าอยากบอกเจ้าว่า ความรักน่ะ…ก็แค่เมื่อเจ้าเลือกตัดสินใจที่จะใช้ชั่วชีวิตร่วมกับใครสักคน แต่หากถูกคนคนนั้นทำร้ายจิตใจ ก็อย่าได้ทำผิดรอยเดิมอีกเด็ดขาด”

“ผู้ชายเยอะแยะมากมาย ไม่จำเป็นต้องยึดมั่นในคนคนเดียว การรักตัวเอง คือจุดเริ่มต้นของความโรแมนติก เข้าใจไหม”

เซียงอวี้ฟังด้วยความงุนงง รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “พระชายาเพคะ…”

ขณะนั้นเอง กู้โม่หานที่ยืนอยู่นอกประตูหนานหว่านเยียน สวมเสื้อผ้าสีดำกาฬ ผมสีดำสลวย แสงและเงาพลิ้วไหว

บทสนทนาของหนานหว่านเยียนกับเซียงอวี้เข้าได้ยินหมดไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว

ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเขา ปกคลุมไปด้วยความเย็นยะเยือก

เหมือนมีความโกรธไม่รู้สาเหตุกับความไม่สบายใจเล็กน้อยเดือดดาลอยู่ในใจไม่หยุด กระทั่งเริ่มเสียการควบคุม

อะไรที่เป็นไปไม่ได้?

เมื่อห้าปีก่อนตอนนางเกี้ยวเขาบอกชอบเขา ยืนกรานจะแต่งงานกับเขาอย่างไร้ยางอาย ทำไมถึงไม่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้!

แต่ตอนนี้คิดว่าเป็นไปไม่ได้ แล้วคิดจะจากไป

เหอะ

นางอาศัยอะไรถึงคิดว่าเขาจะอนุญาต

กู้โม่หานเตะเปิดประตูทันที ประตูกระแทกเข้ากับผนังส่งเสียงดังปึง การเคลื่อนไหวใหญ่มาก

ทั้งสองคนในห้องต่างตกอกตกใจ หนานหว่านเยียนกับเซียงอวี้มองไปตรงประตู ก็เห็นร่างสูงใหญ่ของกู้โม่หานทั้งมีกลิ่นสุราจางๆโชยมา ในอากาศ ทั้งคู่ก็ตกตะลึง

เซียงอวี้ชักมือกลับทันที ทำความเคารพกับกู้โม่หาน“บ่าวถวายพระพรท่านอ๋องเพคะ”

ท่านอ๋องดื่มสุรามารึ แต่เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยดื่มสุรานี่

หนานหว่านเยียนรู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง และกลับมาสงบนิ่งได้อย่างรวดเร็ว

แก้มกู้โม่หานยังแดงระเรื่อเล็กน้อย เขากวาดตามองเซียงอวี้ด้วยใบหน้าเย็นชา “ออกไป”

เซียงอวี้เหลือบมองหนานหว่านเยียน โค้งกายเอ่ยว่า “บ่าวทูลลาเพคะ”

นางสาวเท้าเร็วถอยออกไป พลางปิดประตูลงตามหลัง เหลือบมองหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานอย่างเป็นกังวล

ทำไมนางรู้สึกว่า ท่าทางเช่นนี้ของท่านอ๋อง เหมือนได้ยินคำพูดที่นางกับพระชายาคุยกันแล้วเล่า

ท่านอ๋องไม่มีทางกระฟัดกระเฟียด แล้วทำอะไรบางอย่างกับพระชายาหรอกกระมัง

เมื่อประตูปิดลง ภายในห้อง เงียบเชียบไร้เสียง

ดวงตาเย็นชาของกู้โม่หานจ้องมองสตรีงดงามตรงหน้าตาไม่กะพริบ

สีหน้าหนานหว่านเยียนเย็นชา ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขา

“กู้โม่หานตอนเจ้าให้ข้าช่วยหยุนอี่ว์โหรวข้าเคยบอกว่านับแต่นี้เป็นต้นไป ไม่อนุญาตให้เจ้าเหยียบเท้าเข้ามาในเรือนเซียงหลินแม้แต่ครึ่งก้าวอีก ตอนนั้นเจ้าก็ได้รับปากข้าแล้ว”

ในเมื่อรับปากแล้ว ก็ควรทำตามให้ได้

กู้โม่หานกลับไม่ไป เขาไม่เพียงไม่ไป แต่ร่างสูงใหญ่ยังเดินเข้ามาประชิดนางไม่หยุด หนึ่งก้าว สองก้าว…

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว รู้สึกได้ถึงความกดดันที่มองไม่เห็นอย่างบอกไม่ถูก ก้าวถอยหลังโดยจิตใต้สำนึก “ที่ข้าพูด เจ้าไม่ได้ยินหรือ”

กู้โม่หานเห็นนางถอยหลังอีกก้าว ความโกรธในใจก็เพิ่มขึ้นทันใด เขาโอบรอบเอวคอดของนางทันที หลังมือกดนางเข้ากับกำแพง ก้มหน้าลงมา นัยน์ตาหงส์สั่นด้วยความโกรธจัด

“ที่นี่คือจวนของข้า ข้าอยากไปที่ใด ก็ได้ทั้งนั้น ที่นี่ของเจ้าก็เช่นกัน!”

ตอนนี้เขาทนมาพอแล้ว วันนี้จะต้องสั่งสอนหนานหว่านเยียนดีๆ ให้ได้!

เขาต้องทำให้นางรู้ว่า หากคนบางคนถูกยั่วยุแล้ว จะไม่มีทางถอยกลับเด็ดขาด…

(1) ลุยน้ำขุ่น หมายถึง ทำเรื่องไม่ดีตามผู้อื่น

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท