ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 436 ท่านรู้จักข้าหรือ

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 436 ท่านรู้จักข้าหรือ

“เสด็จแม่ทรงฟื้นแล้วหรือ?!”

กู้โม่หานลุกขึ้นยืนพรวด ตะลึงงันนิ่งไปทั้งตัว ทว่ากลับมีแสงระยับอยู่ในดวงตา

เขาพลิกตัวลงจากเตียงนอน ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

ครั้นเห็นท่าทางกู้โม่หานดีใจลิงโลดเช่นนี้ เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยจึงสบตากันทีหนึ่ง มิได้ส่งเสียง

ขณะกู้โม่หานกำลังจะใส่เสื้อผ้าให้เด็กๆ พาพวกนางไปด้วย แต่แล้วจู่ๆ เขาก็หยุดชะงัก ทำหน้าย่นยู่ขึ้นมา

กู้โม่หานก้มหน้ามองเด็กน้อยแววตางุนงงที่อยู่ในอ้อมอกทั้งสอง เอ่ยเสียงเบา “เกี๊ยวน้อย ซาลาเปาน้อย ท่านแม่ที่ป่วยมาสิบกว่าปีของข้าฟื้นแล้ว ข้าจะไปเยี่ยมนาง วันนี้พวกเจ้าอยู่ในเรือน ตั้งใจร่ำเรียนวิชากับพวกท่านอาจารย์นะ เอาไว้ค่ำหน่อยท่านแม่ของพวกเจ้าก็กลับมาอยู่เป็นเพื่อนพวกเจ้าแล้ว หืม?”

ทีแรกเขาคิดจะพาเด็กน้อยทั้งสองไปด้วย

ทว่าสติทำให้เขาข่มความคาดหวังแบบอดรนทนไม่ไหวนี้ไว้

เสด็จแม่หลับใหลมาสิบกว่าปี ผ่ายผอมไปมาก หน้าเหลืองผิวซีดโทรมยิ่งนัก หากทำให้พวกเขาสองคนตกใจจะไม่ค่อยดี

อีกอย่าง สำหรับเสด็จแม่แล้ว ในช่วงที่นางนิทราสิบกว่าปีนี้ บุตรชายตนไม่เพียงแต่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ทั้งยังเป็นฝั่งเป็นฝา กระทั่งลูกยังหลายขวบแล้ว

เรื่องราวมากมายเช่นนี้…เกรงว่าเสด็จแม่จะรับไม่ได้ในทันที

เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยที่ไม่เข้าใจสถานการณ์เป็นทุนเดิม ตอนนี้ยิ่งงุนงงเหมือนอยู่ในเมฆหมอก เห็นกู้โม่หานไม่คิดพาพวกนางไปด้วย จึงมิได้โวยวาย

“ทราบแล้ว”

ขอเพียงท่านแม่ปลอดภัยก็พอ

แต่พอได้เห็นกู้โม่หานดีใจอย่างนี้ พวกนางก็รู้สึกดีใจอยู่นิดๆ เหมือนกัน

กู้โม่หานนวดศีรษะของเด็กน้อยทั้งสองก่อนจะออกจวนไป

ด้านนอก เซียงเหลียนกับเซียงอวี้พากันคำนับเขา ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

เซียงอวี้เอ่ย “ท่านอ๋อง ข้าน้อยจะดูแลคุณหนูทั้งสองเป็นอย่างดี ให้พวกนางเรียนหนังสืออยู่ในเรือนดีๆ เจ้าค่ะ”

“ท่านรีบไปดูที่เรือนจิ้งฉานเถอะเจ้าค่ะ พระชายากำลังรอท่านอยู่แน่ะ!”

พระชายายุ่งงวดกับหยีเฟยเหนียงเหนียงมาทั้งคืน ตอนนี้หยีเฟยเหนียงเหนียงฟื้นแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพระชายากับท่านอ๋องต้องคลี่คลายมากขึ้นแน่ๆ

กู้โม่หานพยักหน้า ดวงหน้าคมสันจริงจังขึ้นบางส่วน

“เซียงอวี้ ดูแลเสี่ยวจวิ้นจู่ทั้งสองให้ดีเล่า”

เซียงอวี้รับคำทันที “เจ้าค่ะ”

กู้โม่หานย่างเท้าจากไปเดี๋ยวนั้น เงาร่างสูงตรงประหนึ่งฉาบแสงทองชั้นหนึ่ง ลำพังหนึ่งเดียว บุคลิกไม่เป็นรองใคร

เซียงเหลียนตามกู้โม่หานอยู่ข้างหลัง ทว่าระหว่างคิ้วกลับมีความกังวลบางส่วน

การที่พระชายาช่วยให้หยีเฟยเหนียงเหนียงฟื้นขึ้นมาได้นั้นเป็นเรื่องดี

แต่พระชายาคือบุตรสาวในภรรยาเอกของจวนเฉิงเซี่ยง ไม่รู้ว่าหยีเฟยเหนียงเหนียงจะทรงถือที่บุตรสาวศัตรูกลายเป็นลูกสะใภ้หรือไม่…

ระหว่างทาง กู้โม่หานไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น แต่เซียงเหลียนเห็นชัด มือทั้งสองของเขาสั่นเทาเล็กน้อย

แววตานางขยับนิดๆ สาวเท้าไปถึงข้างตัวกู้โม่หาน

“ท่านอ๋อง หยีเฟยเหนียงเหนียงทรงขยับพระวรกายตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว หวางหมัวมัวจึงมาเชิญพระชายาไปที่เรือนจิ้งฉาน เพื่อช่วยให้เหนียงเหนียงทรงรู้สึกพระองค์ พระชายาอดหลับอดนอนมาทั้งคืน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เสวยอะไรเลยเจ้าค่ะ”

“คนในจวนร่ำลือกันให้ทั่ว ว่าวิชาแพทย์ของพระชายาไม่เคยมีมาก่อนแต่โบราณ อนาคตก็ไม่มีผู้ใดทัดเทียม ล้ำลึกยิ่งนัก แต่พระชายาไม่ได้พักผ่อนมาทั้งคืน ข้าน้อยเกรงว่าร่างกายของพระชายาจะรับไม่ไหว”

นางเป็นสายของกู้โม่หาน ย่อมพูดอะไรมากไม่ได้อยู่แล้ว ได้แต่บอกกู้โม่หานแบบอ้อมๆ ถึงความลำบากตลอดทั้งคืนของหนานหว่านเยียน

ต่อให้ทำเพื่อคุณหนูทั้งสอง นางก็ปรารถนาให้ท่านอ๋องและพระชายาดีกันเหมือนก่อน

ครั้นกู้โม่หานได้ยินดังนั้น นัยน์ตาลึกเล็กน้อย ทว่าจิตใจกลับซับซ้อนมากกว่าเดิม

หนานหว่านเยียน ขอเพียงเกี่ยวกับการช่วยคน ก็มักจะไม่สนใจตัวเอง

นิสัยดื้อรั้นยังแล้วไป แต่กลับไม่รู้จักกระทั่งดูแลตัวเอง

เขาปวดใจกับความเหน็ดเหนื่อยของหนานหว่านเยียน แต่ก็ยินดีกับการฟื้นคืนมาของเสด็จแม่ด้วย

เสด็จแม่กลายเป็นคนเป็นที่เหมือนกับคนตายมาสิบกว่าปี และสิบกว่าปีมานี้มีหมอชาวบ้านและหมอหลวงมาตรวจอาการนางไม่ต่ำกว่าร้อยคน ต่างบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้น

เขาฟังคำพูดเช่นนี้มาหลายครั้งเหลือเกิน จนแม้แต่ตัวเขาเองก็จวนจะสิ้นหวัง แต่หนานหว่านเยียนกลับรักษาจนเสด็จแม่ฟื้นขึ้นมาได้…

แววตาของเขากลายเป็นลุ่มลึกกว่าเดิม นิ้วมือเรียวยาวรวบแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ ขาเรียวยาวของเขาก้าวย่างไปทางเรือนจิ้งฉานแบบเร็วรี่

เสด็จแม่ที่กู้โม่หานคิดถึงมาตลอด กำลังนอนอยู่บนเตียง ลืมตาทั้งสอง จ้องหนานหว่านเยียนไม่ขยับ

หนานหว่านเยียนแววตางุนงง แต่ไม่ได้แสดงออกมา ก้มหน้าตรวจการทำงานของร่างกายอย่างง่ายๆ นิดหน่อย

อดหลับอดนอนมาทั้งคืน นางเพิ่งทำให้หยีเฟยฟื้นขึ้นมาสำเร็จได้ไม่นาน จากนั้นก็เรียกหวางหมัวมัวเข้ามาในห้อง

ครั้นหวางหมัวมัวเห็นหยีเฟยฟื้นแล้วก็คุกเข่าลงกับพื้นด้วยความทึ่ง ประเดี๋ยวก็น้ำตาไหลพรากพูดคุยกับหยีเฟย ประเดี๋ยวก็จับมือกล่าวขอบคุณกับนางไม่หยุด

ถึงหยีเฟยจะฟื้นแล้ว แต่เพราะเป็นสภาพผักมานานสิบกว่าปี การทำงานของร่างกายจึงลดลงไปมาก ตอนนี้ยังไม่กลับคืนสู่สภาพเดิม ยังพูดและขยับไม่ได้ชั่วคราว ขยับลูกตาได้เท่านั้น

หนานหว่านเยียนทดสอบสติปัญญาของนาง ไม่มีปัญหา แต่หลังจากหยีเฟยฟื้นแล้วก็จ้องนางอยู่ตลอด

นางตรวจร่างกายให้หยีเฟย หยีเฟยจ้องนาง นางให้คนไปตามกู้โม่หาน หยีเฟยก็ยังจ้องนาง ราวกับเห็นอะไรจากใบหน้านางอย่างไรอย่างนั้น

หากมิใช่เพราะว่าตอนที่หยีเฟยเกิดเรื่อง หนานหว่านเยียนเพิ่งจะสองสามขวบ หยีเฟยไม่รู้จักนางแน่นอน หนานหว่านเยียนก็อยากจะถามหยีเฟยจริงๆ ว่า “ท่านเคยพบข้ามาก่อนหรือ?”

หนานหว่านเยียนจับชีพจรให้หยีเฟย แล้วกวาดตามองหยีเฟยทีหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ

หยีเฟยมองนางอยู่แน่ะ หนานหว่านเยียนอดกัดฟันเป็นไม่ได้

ทำไมกู้โม่หานยังไม่มาอีกนะ!

ตอนนี้เอง ก็มีเสียงความเคลื่อนไหวมาจากทางเข้า

หนานหว่านเยียนหันไปมองทางปากประตูพลัน เห็นชุดผาวสีหมึกกู้โม่หานปลิวว่อน เส้นผมดำยังยุ่งเหยิงเล็กน้อย สาวเท้ายาวเข้าห้องมาอย่างรีบร้อนและอดรนทนไม่ไหว…

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน