ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 609
หนานหว่านเยียนเบิกตากว้างอย่างโกรธเคือง จูบของเขาลึกซึ้งมากเกินไป มันทำให้นางอึดอัด นางพยายามผลักเขาออกไปอย่างสุดกำลัง แต่ยิ่งผลักเขาเท่าไร เขาก็ยิ่งควบคุมนางไว้มากเท่านั้น
หนานหว่านเยียนพยายามทุบตีไหล่ของเขาอย่างโกรธเคือง กู้โม่หานไอ้คนสารเลว มาทำแบบนี้กับนางได้ยังไงกัน!
แต่เขาไม่ได้สนใจ เขาปล่อยให้นางทุบตีและบังคับจูบนางอย่างรุนแรงและเผด็จการ
หัวใจของผู้คนล้วนมีเลือดเนื้อ ไม่ใช่ว่ากู้โม่หานไม่เจ็บ เพียงแค่เข้าใจว่าที่ผ่านมาเขาเสียเปรียบหนานหว่านเยียนมากแค่ไหน เขาไม่กล้าและไม่คู่ควรบังคบนาง
แต่เมื่อพิจารณาจากการกระทำของเขาในสองวันที่ผ่านมา เขายิ่งค้นพบว่า การใช้วิธีที่อ่อนโยน ไม่สามารถรักษานางไว้ได้
กู้โม่หานไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ มือเรียวยาวของเขาลูบไล้ไปที่เอวบางคอดของนาง ตอนนี้เขากระสับกระส่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่จู่ๆหลังมือก็เจ็บขึ้นมาอย่างกระทันหัน เขาร้องเสียงต่ำออกมาด้วยความเจ็บปวด ทันใดนั้นสติก็กลับคืนมาจากความสับสนและความหลงใหล เขาปล่อยนางออกเล็กน้อย
ชายคนนั้นก้มลงมองไปที่เข็มสีเงินบนหลังมือของเขา หนานหว่านเยียนหอบเล็กน้อย เข็มสีเงินในมือของนางถูกแทงอย่างแรงเป็นพิเศษ
“ได้สติแล้วหรือยัง?”
กู้โม่หานได้ทั้งสติสัมปชัญญะและสติปัญญา เขาเงยหน้าขึ้นมองนาง ริมฝีปากของเขายิ้มเยาะ และเอ่ยออกมาอย่างเย้ยหยัน “เจ้าต้องการจะฆาตกรรมสามีหรือไง หืม?”
นางมักจะชอบใช้เข็มเงินประหลาดๆพวกนี้ เขาดึงเข็มออกมา ใช้แรงเพียงน้อยนิด เข็มเงินเหล่านั้นก็เปลี่ยนเป็นผงละเอียดและสลายหายไปในอากาศ เพียงแต่ มือซ้ายที่ถูกเข็มสีเงินเล่มนั้นปัก กลางฝ่ามือเริ่มมีอาการชาและแผ่ซ่านไปทั้งแขน
จู่ๆชายคนนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย หนานหว่านเยียนรู้ทันทีว่ายาชาใช้ได้ผล นางปกป้องท้องของนางและหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยการคุกคามและการตักเตือน
“กู้โม่หาน แม้ว่าข้าจะไม่แข็งแรงเท่าเจ้าในแง่ของการใช้กำลังบังคับ แต่หากข้าอยากจะเปลี่ยนเจ้าให้เป็นขันที ก็คงไม่ใช่เรื่องยากนัก”
“ถ้าเจ้ายังฟังภาษาคนรู้เรื่องอยู่ ก็รีบไสหัวออกไปจากพื้นที่ของข้าเดี๋ยวนี้!!”
นางรู้สึกได้ว่าเขากำลังจะทำอะไรบางอย่าง แต่ในช่องว่างของนางยังมียาอีกหนึ่งเม็ดที่ทำให้ผู้ชายองคชาตเสื่อม หากว่ากู้โม่หานยังบังคับนาง เพียงแค่นางกระดิกนิ้ว นางจะทำให้เขาองคชาตเสื่อมไปตลอดชีวิต!
แขนทั้งสองข้างของกู้โม่หานล้วนเป็นเหน็บชา เขาไม่สบายตัวอย่างมาก แต่ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็ไม่ได้แสดงความผิดปกติใดๆออกมา สายตามองกวาดไปยังริมฝีปากแดงก่ำของนาง ความกลัดกลุ้มที่อัดแน่นอยู่ในใจของเขาก็หายไป
“ข้าจะไม่ทำให้เจ้าโกรธแล้ว แต่เจ้าก็อย่าทำให้ข้าโกรธด้วยเช่นกัน เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้า และคงทนมองไม่ไหวหากเจ้าไปเข้าใกล้ผู้ชายคนอื่น หืม?” เขายื่นมือออกมาจับปอยผมเหน็บข้างใบหูของหนานหว่านเยียนให้เรียบร้อย นางขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ และปัดมือของเขาออก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากเขานั้นช่างไพเราะและตราตรึงใจ
“ข้ายังมีหลายสิ่งที่ต้องทำ เจ้ารอหน่อยแล้วกันนะ เดี๋ยวขาจะให้หนูน้อยทั้งสองมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”
“ในเรื่องการยึดอำนาจ เสด็จย่าช่วยพวกเราได้ไม่น้อยเลย ตอนนี้เจ้าเข้าวังมาแล้ว หากมีเวลาว่าง เจ้าก็ไปเยี่ยมนางเถอะ”
ปัญหาที่ต้องจัดการภายในวังมีมากมายนัก เขาจะรีบจัดการทั้งหมดโดยเร็ว และกลับมาอยู่เป็นเพื่อนนางอีกครั้งในช่วงเย็น
ตอนนี้เขาไม่มีอะไรต้องกดดันตนเองอีกแล้ว หนานหว่านเยียนเป็นภรรยาของเขา อนาคตก็จะเป็นฮองเฮาของแคว้นซีเหย่ หากเขาอยากทำอะไรกับหนานหว่านเยียน ก็ล้วนสมเหตุสมผลทั้งนั้น
นอกจากนี้ เขาขึ้นเป็นจักรพรรดิแล้ว ก็เป็นเวลาอันสมควรแล้วที่เขาจะมีทายาท
หนานหว่านเยียนเบิกตามองกู้โม่หานอย่างเย็นชา “ไปได้แล้วไป อย่ามาพูดไร้สาระ……”
แต่ก่อนที่จะพูดจบ นางก็ถูกกู้โม่หานขโมยจุ๊บที่ริมฝีปากไปเสียก่อน
“กู้โม่หาน!” หนานหว่านเยียนโกรธจนอยากจะทุบตีเขา แต่ทว่าชายคนนั้นกลับพึงพอใจ หยิบใบวัดขนาดตัวที่จดเอาไว้ แล้วเดินออกจากตำหนักไป
ด้านนอกตำหนัก เซียงเหลียนและเซียงอวี้กำลังรออยู่เงียบ ๆ ทันทีที่กู้โม่หานออกมา พวกนางก็รีบทำความเคารพด้วยความนอบน้อมทันที “จักรพรรดิ”
ใบหน้าขาวผ่องของกู้โม่หานรีบเก็บสีหน้าอ่อนโยนที่เขามีต่อหนานหว่านเยียนทันที ดวงตาสีเข้มของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาดังเดิม
“ฮองเฮาสามารถไปได้ทุกหนแห่งที่นางต้องการ แต่พวกเจ้าต้องติดตามนางไปด้วยทุกย่างก้าว”
เซียงเหลียนและเซียงอวี้พยักหน้าตอบรับ “บ่าวจะปฏิบัติตามคำสั่ง”
กู้โม่หานสะบัดแขนเสื้อ แขนของเขาชาทันทีเมื่อขยับ และน้ำเสียงก็เย็นเยียบยิ่งขึ้น
“นอกจากนี้ นางไม่ได้รับอนุญาตให้พบกับโม่หวิ่นหมิงอย่างส่วนตัวโดยเด็ดขาด ต่อให้อยู่ห่างกันแค่ไหนก็ไม่ได้!”