ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 631
ทุกคนตกตะลึงในใจ แล้วมองกู้โม่หานด้วยความเห็นอกเห็นใจไม่ก็ตกใจ
“ฝ่าบาท…”
ฮองเฮาเหนียงเหนียงถูกไฟคลอกตาย ทุกคนต่างเห็นชัดตำตา ทำไมกู้โม่หานถึงเชื่อมั่นว่านางยังมีชีวิตอยู่
ดูท่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมาก ทนการกระตุ้นเช่นนี้ไม่ไหว…
และการระเบิดอารมณ์ของกู้โม่เฟิง ต่อให้ตอนนี้ถูกกู้โม่หานคว้าคอเสื้อไว้ ก็ไม่ได้รู้สึกเดือดดาล กลับเหลือบมองกู้โม่หานอย่างลึกซึ้ง สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลโศกเศร้า
เขาไม่พบศพของหนานหว่านเยียน แต่มีคนไม่น้อยเห็นนางกับโม่หวิ่นหมิงเข้าไปในตำหนักใหญ่ และตอนที่เขาช่วยกู้โม่หาน ก็เห็นเสื้อผ้าของหนานหว่านเยียนถูกทับอยู่ล่างสุด หลังจากจัดการเพลิงไหม้แล้ว ก็เจอปิ่นระย้าอยู่ตรงนั้น
เพลิงไหม้เป็นจุณขนาดนั้น ทั้งตำหนักใหญ่พังยับเยิน หนานหว่านเยียนจะยังมีชีวิตรอดอยู่ได้อย่างไร!
แต่อย่างไรการสูญเสียภรรยา และลูกสาวสุดที่รักไปในวันมงคล แล้วกู้โม่หานจะรู้สึกโศกเศร้าทุกข์ระทม ปฏิเสธที่จะเชื่อความจริงก็เป็นเรื่องปกติ
กู้โม่เฟิงพยักหน้า ปฏิบัติตามความตั้งใจของกู้โม่หาน “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเตรียมการ เฝ้าประตูพระราชวังและทางเข้าออกของเมืองหลวงเดี๋ยวนี้ ไม่ให้ฮองเฮาเหนียงเหนียงออกไปได้พ่ะย่ะค่ะ!”
กู้โม่เฟิงพูดจบ กู้โม่หานถึงปล่อยมือ
กู้โม่เฟิงประสานมือให้เขาแล้ว ก็ออกตำหนักหยูซินไป
ทันใดนั้นดวงตาเย็นเยือกน่าหวาดผวาของกู้โม่หานก็จ้องมองไปที่ฝูงชน น้ำเสียงแฝงความบีบบังคับอย่างหนักหน่วง
“ใครเป็นผู้รับผิดชอบพิธีการในวันนี้ เกิดอะไรขึ้นกับดินปืน!”
ทันทีที่คำพูดจบลง บรรยากาศในตำหนักหยูซินก็เปลี่ยนเป็นหนาวเหน็บทันที
ขุนนางชราคนหนึ่งก้าวออกมาคุกเข่าลงตรงหน้ากู้โม่หานอย่างสั่นเทา เหงื่อเย็นผุดขึ้นที่หน้าผาก ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด
“กระหม่อม รองเสนาบดีกรมพิธีการ… ติงหยวนสมควรตายเป็นหมื่นๆ ครั้งพ่ะย่ะค่ะ!”
“พิธีการในวันนี้ เป็นกรมพิธีการจัดเตรียมทั้งหมด ในฐานะรองเสนาบดีกระหม่อมมีหน้าที่รับผิดชอบทั้งหมด ตะ แต่ฝ่าบาท…ก่อนดอกไม้ไฟจะถูกส่งเข้าวัง ก็ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบมากมาย ผลออกมาเรียบร้อยดีไม่มีปัญหา กระหม่อมไม่ทราบจริงๆ ว่าดอกไม้ไฟกลายเป็นดินระเบิดได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ!”
เขาไม่ได้กลัวภาระหนักจากกู้โม่หาน หรือโทษประหารชีวิต ถึงอย่างไรเรื่องนี้เกิดขึ้นในความรับผิดชอบของกรมพิธีการ ฮองเฮาเหนียงเหนียงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว เขาตายเป็นร้อยๆ ครั้งก็ไม่พอ
แต่ เพียงก่อนตายเขาก็อยากค้นหาความจริง อยากรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลบเลี่ยงหูตาในวัง วางแผน “ลอบสังหาร” ที่อันตรายเช่นนี้ได้อย่างไร
สายตาเย็นชาเฉียบคมของกู้โม่หานจับจ้องที่ร่างติงหยวน ดวงตาเต็มไปด้วยการตรวจสอบและสงสัย
“เจ้าไม่รู้จริงรึ”
คนในกรมพิธีการ เป็นคนของเขา ไม่น่าจะถูกหนานหว่านเยียนซื้อตัวไปได้
อีกอย่าง…ตั้งแต่นางเข้าวัง ทุกการเคลื่อนไหวของนางก็ภายใต้การเฝ้าติดตามของเขา ไม่มีทางที่จะมีโอกาสได้ติดต่อกับผู้อื่น
ทันใดนั้น กู้โม่หานก็นึกถึงโม่หวิ่นหมิง แต่โม่หวิ่นหมิงก็ถูกเขาจับตาดูแล้ว ซึ่งโม่หวิ่นหมิงเป็นคนนอกคนหนึ่ง จะซื้อตัวขุนนางของเขา ไป “ระเบิด” ฮองเฮาองค์ปัจจุบันได้อย่างไร
ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วรึ
แล้วใครที่เป็นคนช่วยนางกันแน่!
เขากำลังจะเอ่ยปาก ขณะเดียวกัน เสิ่นอี่ว์ที่จัดการเรื่องที่เกี่ยวกับการระเบิดแล้วรีบเดินเข้ามา
เสิ่นอี่ว์เหนื่อยจนเหงื่อท่วมตัว เดินเข้าไปในตำหนักหยูซิน ก็เห็นกู้โม่หานกำลังถามหาความรับผิดชอบ
เขาไม่กล้าชักช้าทันที ก้าวไปคุกเข่าข้างติงหยวน ขมวดคิ้วแล้วรายงานกู้โม่หานว่า “ฝ่าบาท เมื่อครู่ข้าน้อยเพิ่งส่งคนไปตรวจสอบ ข้าหลวงที่รับผิดชอบการขนส่งดอกไม้ไฟล้วนไม่มีใครรู้ว่าดอกไม้ไฟถูกสับเปลี่ยน ข้าน้อยซักถามแล้ว ตอนพวกเขาส่งเข้ามานั้น เหมือนจะเปลี่ยนเป็นดอกไม้ไฟปลอมพ่ะย่ะค่ะ”
“คนที่ร่วมสอบสวนตรวจสอบทั้งหมด ได้ยืนยันว่า ดอกไม้ไฟน่าจะถูกเปลี่ยน ระหว่างทางไปวันนี้ หรือถูกคนเปลี่ยนเป็นดินระเบิด ตอนเก็บไว้ที่ห้องเก็บของพระคลังพ่ะย่ะค่ะ”
“วันนี้เป็นพิธีบรมราชาภิเษกของพระองค์กับฮองเฮาเหนียงเหนียง ใต้หล้าต่างรู้ดี หากกล้าก่อเรื่อง ณ เพลานี้ ข้าน้อยสงสัยว่าคนผู้นี้คิดจะกำจัดพระองค์ ฮองเฮาเหนียงเหนียง และองค์หญิงน้อยทั้งสองจนถึงตายพ่ะย่ะค่ะ แต่บังเอิญที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่านน้าของฮองเฮาเหนียงเหนียง…”
ทันทีที่เสิ่นอี่ว์แสดงความเห็น สมองของกู้โม่หานพลันฉายภาพกู้โม่หลิงที่ไม่ลังเลที่จะสูญเสียแขน ก่อนจากเมืองหลวงตอนนั้นทันที
“เจ้าหมายถึงกู้โม่หลิง?”
ท่านอ๋องเจ็ด?!
ติงหยวนกับบรรดาขุนนางใหญ่ที่เหลือมองหน้ากัน ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
แม้หลังจากการกบฏของชี่กุ้ยเฟย พวกเจ้าก็รู้ว่ากู้โม่หลิงหักห้ามใจตนเองได้ แต่ก็ไม่เคยคาดคิดว่า เขาจะเก็บความแค้นไว้ได้นาน ขนาดคิดจะฉวยโอกาสสังหารฝ่าบาทเลยรึ
แต่เสิ่นอี่ว์กลับส่ายหัว เอ่ยกับกู้โม่หานด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“คนของข้าน้อยแอบดูท่านอ๋องเจ็ดอยู่ตลอด เขาซื่อสัตย์มาก ทั้งเขาก็กลับไปที่แคว้นเทียนเซิ่งพร้อมกับองค์หญิงฮั่นเฉิงแล้ว คนของแคว้นเทียนเซิ่งก็เฝ้าดูท่านอ๋องเจ็ดอย่างใกล้ชิด เขายังเอาตัวไม่รอด น่าจะไม่มีโอกาสลงมือ ข้าน้อยกลัวว่า จะมีกองกำลังที่พวกข้าไม่เคยค้นพบ รุกรานแคว้นซีเหย่พ่ะย่ะค่ะ…”
ใครอยู่เบื้องหลัง เขาก็ไม่แน่ใจ
อย่างไรพ่อบ้านกาวก็เป็นคนแคว้นต้าเซี่ย แคว้นเทียนเซิ่งก็กำลังจ้องเขมือบอยู่…
หลังกู้โม่หานเชื่อมั่นว่าหนานหว่านเยียนยังไม่ตาย ก็สงบลงมาก
สีหน้าเขาซีดเซียว แต่ดวงตากลับเย็นชา
ไม่ต้องพูดถึงว่าทุกคนในวังต่างถูกแทนที่ด้วยคนของเขาโดยไม่เสียเลือด ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของกู้โม่หลิง ไม่เพียงขัดขวางการสอดแนมของแคว้นซีเหย่ แต่ยังเป็นเพราะสถานะราชบุตรเขยของแคว้นเทียนเซิ่งอีกขั้นหนึ่ง จึงต้องคำนึงถึงหลายเรื่อง
กู้โม่หลิงแยกร่างไปทำอะไรไม่ได้แน่ๆ ตอนนี้ น่าจะคิดหาทางได้รับความไว้วางใจจากแคว้นเทียนเซิ่ง ไม่มีเวลามาคิดแก้แค้น
แต่ถ้าไม่รวมกู้โม่หลิง แล้วจะมีใครที่มีศักยภาพเล็งเป้าหมายที่เขากับหนานหว่านเยียน จัดฉากสถานการณ์ใหญ่เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ามีการเตรียมพร้อม
แม้เขาจะเชื่อมั่นว่าหนานหว่านเยียนไม่ได้ถูกไฟคลอกตาย แต่เขาก็ยังอัดอั้นเสียใจ คนตรงหน้าหายตัวไปอย่างแปลกประหลาด ตอนนี้เด็กทั้งสองเป็นตายยังไม่รู้ แล้วจะให้เขาสงบลงได้อย่างไร
ตอนนี้เขากลัวเพียงอย่างเดียว คือหนานหว่านเยียนกับเด็กทั้งสองคนยังไม่ตาย แต่ตกอยู่ในอันตราย
และเขาก็ยังไม่แน่ใจว่า คนที่ช่วยนางจะดีหรือร้ายต่อนาง จะหลอกลวงนางหรือไม่ เหมือนเขาที่วางแผนกับนางมานาน…
ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้น กู้โม่หานกำฝ่ามือร้อนแน่น
เมื่อกดความเสียใจอย่างท่วมท้นลงไป กู้โม่หานระงับหัวใจที่เต้นแรงไม่หยุด มือทั้งสองข้างเจ็บปวดอย่างรุนแรง พูดอย่างเย็นชาว่า
“สืบทุกซอกทุกมุมของพระราชวัง อย่าปล่อยให้หลุดพ้นไปได้ ทุกคนที่เข้าร่วมพิธีบรมราชาภิเษกในวันนี้ ตั้งแต่มนเทียรบาลจนถึงขันทีนางใน สอบสวนให้หมด ใครที่น่าสงสัยก็จับกุมมาสอบสวน หาตัวฮองเฮาและองค์หญิงทั้งสองคนให้เจอโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ ไม่ต้องแจ้งเรื่องของข้ากับไท่เฟย และไทเฮาด้วย”
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” ทุกคนไม่กล้าปฏิเสธ เมื่อก้มหน้าขานรับแล้ว ก็ถูกกู้โม่หานไล่ออกไป
ทุกคนถอยออกไปทีละคน เซียงอวี้ก็จากไปด้วยความงุนงง มีเพียงเสิ่นอี่ว์ที่กำลังสับสน จ้องมองใบหน้าขาวซีด และดวงตาเย็นชาของกู้โม่หาน สุดท้ายก็กัดฟันถอยออกไป
เขาจำท่าทางกู้โม่หานสิ้นสติ บุกเข้าไปกองเพลิงได้อย่างชัดเจน หนานหว่านเยียนมีความสำคัญต่อกู้โม่หานเพียงใด ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ
ตอนที่มีหนานหว่านเยียนอยู่ กู้โม่หานเต็มไปด้วยความโกรธ ทุกข์สุขเศร้ายินดี แต่ตอนนี้ เขาเหมือนกับคนเสียสติบ้าคลั่งปึ่งชา ไม่ว่าเขาจะพูดหรือทำอะไร ก็แฝงจิตสังหารรุนแรง
หากฮองเฮาเหนียงเหนียงยังมีชีวิตรอดอยู่จริงๆ เพียงคิดจะหลบหนีฝ่าบาทก็เท่านั้น
อย่างน้อย ก็ทำให้ฝ่าบาทมีความหวังขึ้นมาบ้าง…