ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 676 นางคือท่านแม่ของเจ้า

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 676

เซียงอวี้กับอวี๋เฟิงล้วนพากันประหลาดใจ

ฝ่าบาทกำลังพูดอะไร? นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อใดกัน?

ฝ่าบาทกับฮองเฮาเหนียงเหนียง มีช่วงเวลาเช่นนี้ที่ไหนกัน! ตอนนั้น ฝ่าบาทคุมตัวฮองเฮาเหนียงเหนียงไปแท้ๆ และยังมีหยุนอี่ว์โหรวผู้นั้นอยู่ในเหตุการณ์ด้วย!

หนานหว่านเยียนยกยิ้มมุมปาก ด่ากู้โม่หานว่าไอ้คนหน้าไม่อายอยู่ภายในใจ

บุรุษผู้นี้ ฝีมืออื่นๆ ในสองเดือนนี้ไม่เห็นเพิ่มขึ้น แต่การพูดปดกลับยิ่งพูดได้โดยไม่ต้องคิด กุเรื่องความรักของนางกับเขาในอดีต ต่อหน้านางที่เป็น “คนแปลกหน้า” เช่นนี้

น่าเสียดายที่นางไม่สามารถเปิดโปงเขาได้ ทำได้เพียงเอ่ยสมทบเท่านั้น “ฮองเฮาเหนียงเหนียงช่างดีกับท่านจริงๆ ท่านทั้งสองรักกันลึกซึ้ง เรียกได้ว่าเป็นแบบฉบับที่ดีงามให้กับปุถุชนเลย”

“หากเหนียงเหนียงยังอยู่ ความรักความผูกพันระหว่างสามีภริยาของท่านกับเหนียงเหนียง คงมีชื่อเสียงอย่างยิ่งเป็นแน่ ผู้ใดจะไม่อิจฉาคู่รักที่สวรรค์บรรจงสรรค์สร้างเช่นนี้กัน?”

เกี๊ยวน้อยไม่เข้าใจเรื่องซับซ้อนระหว่างผู้ใหญ่ นางกัดนิ้ว และมองดูกู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนสลับกันไปมาด้วยสีหน้าฉงนสงสัย

เหตุใดถึงได้รู้สึกว่า ที่พวกเขาทั้งสองคนพูดอยู่ตอนนี้ ไม่เหมือนกับท่านแม่และท่านพ่อของนางเลย?

ท่านแม่กับพ่อเฮงซวย มีความสัมพันธ์ที่ดีถึงเพียงนี้เลยหรือ? เช่นนั้นเหตุใดท่านแม่ถึงอยากหนีไปเล่า……

ริมฝีปากบางของกู้โม่หานยกขึ้นเล็กน้อย เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มือทั้งคู่ที่เห็นข้อต่อกระดูกชัดเจนประสานกันวางไว้บนต้นขา ดูสงบและอ่อนเพลีย

“ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ฮองเฮาไม่เพียงใช้เวลาและทุ่มแรงมากมายในงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของข้าเท่านั้น แต่ในวันธรรมดา ก็ปฏิบัติตัวกับข้าดีอย่างยิ่ง”

“ข้าตีขิม นางก็อิงแอบอยู่ข้างกายข้า ข้าอ่านทำนองเสนาะ นางก็เอื้อนเอ่ยตามเบาๆ ยามหิมะตกดอกเหมยสีแดงบาน นางกับข้าก็เดินวนไปรอบๆ บนหิมะ วาดฝันถึงอนาคตด้วยกัน ครอบครัวของเราสี่คนรักใคร่กลมเกลียวกันอย่างมีความสุข”

“อากาศหนาวเย็น นางก็ก่อเตาผิงเพื่อให้มือข้าอุ่นด้วยตัวเอง อากาศร้อน นางก็จะใช้แนวคิดแปลกๆ ของนาง ให้พ่อครัวทำของว่าที่ดับร้อนหลายอย่างให้ข้า”

“ได้ภรรยาเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องโชคดีตลอดชีวิตข้า”

ได้ยินเช่นนั้น ก็อ้าปากค้างจนแทบจะถึงพื้น

ฟังจากที่ฝ่าบาทพูด นั่นคือเรื่องจริงหรือ! เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นการเพ้อฝันของเขา!

การสวรรคตของฮองเฮาเหนียงเหนียง สร้างความสะเทือนใจต่อฝ่าบาทมากยิ่งนัก สติวิปลาสจนกุเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มิน่าเล่าไทเฮาถึงได้เลือกนางสนมให้กับฮ่องเต้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ฝ่าบาทกลายเป็นอย่างไร……

หนานหว่านเยียนเองก็ชะงักงันเช่นกัน รู้สึกว่ากู้โม่หานตรงหน้านี้ที่พูดปดอย่างไม่อาย แปลกประหลาดและน่ากลัวอย่างอธิบายถูก

ที่เขาคุยกับนางพูดกับนางไม่หยุดนี้ มีจุดประสงค์อะไรกัน?

บอกคิดถึงนางหรือ?

กู้โม่หานยังคงสนใจแต่ตัวเอง ถึงขนาดดึงเกี๊ยวน้อยเข้ามาเกี่ยวข้อง “ข้าคือมกุฎราชกุมารของแคว้น ฮองเฮาไม่อยู่แล้ว ข้าจักต้องปลุกใจให้ฮึกเหิม”

“แต่อานผิงนั้นต่างออกไป นางอยู่กับฮองเฮาและอานเล่อมาตั้งแต่เด็ก ความปรารถนาหนึ่งเดียว ก็คืออยากเจอฮองเฮากับอานเล่ออีกครั้ง”

“ในสองเดือนนี้ นางใช้ชีวิตอย่างลำบาก หากฮองเฮากับอานเล่อกลับมาได้ใหม่อีกครั้ง นางคงจะมีความสุขใหม่ได้อีกครั้ง”

อวี๋เฟิงสังเกตเห็นบางอย่างแปลกๆ

เมื่อครู่นี้ฝ่าบาทพูดเช่นนั้น เขาเข้าใจได้ เพราะถึงอย่างไรฮองเฮาเหนียงเหนียงก็เป็นปมในใจของฝ่าบาทมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ ฝ่าบาทพูดถึงองค์หญิงใหญ่อานผิงมันเลยแปลกไปเล็กน้อย

ก็เหมือนกับ เหมือนกับกลยุทธ์ทุกข์กาย?

เกี๊ยวน้อยได้ยินกู้โม่หานพูดต่อหน้าหนานหว่านเยียนว่านางใช้ชีวิตอย่างลำบาก ก็ลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันที

สองเดือนนี้นางคิดถึงท่านแม่กับน้องสาวจริงๆ แต่นางกลัวว่าท่านแม่จะเป็นกังวล และสูญเสียการลำดับความสำคัญ เลยหันไปเอ่ยกับหนานหว่านเยียนอย่างตระหนกและเร่งรีบ

“ไม่ ไม่ใช่นะ สองเดือนดีข้าสบายดี ได้กินเต็มอิ่ม ใส่เสื้อผ้าอุ่นๆ แม้ข้าจะอยากเจอท่านแม่กับน้องสาว แต่ก็ไม่เคยคิดว่าท่านแม่ผิด”

“ข้า ข้ารักท่านแม่ที่สุด! จะให้การช่วยเหลือท่านแม่ตลอดไป!”

หนานหว่านเยียนได้ยินเช่นนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

ถึงอย่างไรเจ้าหนูน้อยก็ยังเด็ก ทนการเหน็บแนมเช่นนี้ของกู้โม่หานได้ที่ไหนกัน ตอนนี้พูดคำพูดเหล่านี้ออกมา ก็เป็นการพยายามปกปิดโดยไม่ต้องสงสัยเลย

นางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แววตาของกู้โม่หานกลับปรากฏความแน่วแน่ที่คนต้องยอมรับออกมา

เขายกริมฝีปากขึ้น ยิ้มอย่างน่าตกใจและเย็นยะเยือก “อานผิง นางไม่ใช่ท่านแม่ของเจ้าเสียหน่อย เหตุใดเจ้าต้องอธิบายกับนางมากมายเช่นนี้”

“เจ้ากำลังกลัวอะไรกัน หรือว่า……”

นัยน์ตาที่สวยงามของกู้โม่หานหรี่ลง แล้วจ้องมองหนานหว่านเยียนอย่างสนใจ

“นางคือท่านแม่ของเจ้า?”

อย่างไรเสียเด็กก็คือเด็ก และเพิ่งรู้ตัวว่ากู้โม่หานกำลังชักจูงนาง

ให้นางยอมรับว่าไป๋จื่อก็คือหนานหว่านเยียน!

เกี๊ยวน้อยตื่นตระหนกเล็กน้อยทันที

นางมองหนานหว่านเยียนด้วยสีหน้าลำบากใจ ในนัยน์ตาดำขลับเต็มไปด้วยความงุนงง

เซียงอวี้กับอวี๋เฟิงก็งงงวยเช่นกัน มองไป๋จื่ออย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย

ฝ่าบาทคิดว่าไป๋จื่อผู้นี้คือฮองเฮาเหนียงเหนียง?

แต่พอมองไป๋จื่อผู้นี้อย่างถี่ถ้วน ก็ไม่น่าจะใช่เหนียงเหนียงเป็นแน่! เหนียงเหนียงจากไปแล้ว!

หนานหว่านเยียนแอบกัดฟันอยู่เงียบๆ

กู้โม่หานนี่ใช้ได้เลยจริงๆ ชักจูงนางให้เปิดเผยความจริงไม่ได้ ก็คิดที่จะลงมือกับลูก เอาเจ้าหนูน้อยมาเป็นข้ออ้าง

แต่นางระงับความโกรธในใจทันที และแสร้งทำเป็นตระหนกตกใจและเอ่ยอย่างถ่อมตน “ฝ่าบาท พูดเช่นนี้ไม่ได้นะเพคะ ข้ามิบังอาจ!”

“เมื่อครู่นี้องค์หญิงอานผิงไม่ได้อธิบายกับข้า เพียงแค่เห็นท่านคุยกับข้าตลอด นางเพียงแค่มองข้าแล้วอธิบายตามสัญชาตญาณก็เท่านั้นเอง ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่น”

เกี๊ยวน้อยเองก็กลืนน้ำลาย “ใช่แล้ว ที่นี่มีแค่เราสามคน ข้าไม่มองพี่ไป๋จื่อ ก็ต้องมองเสด็จพ่อ ให้พี่ไป๋จื่อเป็นท่านแม่ที่ไหนกัน”

กู้โม่หานเพียงแค่ฟัง ริมฝีปากบางยกขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ภายในใจของหนานหว่านเยียนกลับกระวนกระวายมากยิ่งขึ้น

รู้สึกว่าเขาจะจำนางไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่ปล่อยนางไปเช่นนี้ แต่หากเขาจำนางไม่ได้ เหตุใดถึงได้มีกิริยาท่าทางและคำพูดผิดแปลกเช่นนี้กัน

นางยากที่จะเดาความคิดที่แท้จริงของกู้โม่หานได้ เพียงรู้สึกว่าไม่ควรอยู่ที่นี่นาน รีบออกจากวังให้เร็วที่สุดจะดีกว่า

“ฝ่าบาท ข้าอยู่ที่วังนานมากแล้ว ถึงเวลาต้องกลับไปหาแม่ทัพน้อยแล้ว”

คิ้วและตาของกู้โม่หานขยับเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธนาง “อืม ทานอาหารเช้าเสร็จก็กลับไปเถิด”

ได้ยินหนานหว่านเยียนพูดเองว่าต้องการไปแล้ว ภายในใจของเซียงอวี้โล่งใจไม่น้อย

ความประพฤติในด้านศีลธรรมของไป๋จื่อผู้นี้ไม่เลวเลย มีญาณทัสนะที่รู้ตัวเองดียิ่ง รู้ว่าตัวเองไม่ควรอยู่นาน และไม่ควรเพ้อฝันถึงตำแหน่งของฮองเฮาเหนียงเหนียง

หนานหว่านเยียนเห็นเขาตอบรับแล้ว แม้จะรู้สึกว่าราบรื่นเกินไป แต่สามารถออกจากวังได้ก็เป็นเรื่องที่ดี ภายในใจรู้สึกสงบขึ้นไม่น้อย

ทุกคนทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว กู้โม่หานก็ลุกขึ้นแล้วอุ้มเกี๊ยวน้อยไว้ในอ้อมกอด มองหนานหว่านเยียนแวบหนึ่ง

“อีกประเดี๋ยว เฉินกงกงจะไปส่งเจ้าออกจากวัง ด้านนอกวังเตรียมรถม้าไว้เรียบร้อยแล้ว”

พอพูดจบ เขาก็ไม่ได้รอให้หนานหว่านเยียนเอ่ยปาก ก็พาเกี๊ยวน้อยจากไปแล้ว……

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท