ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 720
หลังจากคิดได้แบบนี้ เกี๊ยวน้อยก็เห็นว่ากู้โม่หานมองมาที่นาง ในแววตามองหาความช่วยเหลือ
เด็กหญิงตัวน้อยเช็ดมุมปาก กะพริบดวงตาโตไร้เดียงสามองไปที่หนานหว่านเยียนด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านแม่พูดถูก!”
จากนั้นนางก็ลูบแขนของหนานหว่านเยียน ทำท่าภาคภูมิใจเอ่ยเสียงใส “แต่ตอนที่ท่านแม่พูดเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องมองไปที่เสด็จพ่อด้วย เป็นเพราะเสด็จพ่อทำอะไรกลับไปกลับมาหรือ?”
หนานหว่านเยียนอึ้งไป เมื่อครู่นางตั้งใจจะข่มกู้โม่หาน แต่ตอนที่นางพูดเรื่องนี้ก็ไม่ได้มองกู้โม่หานนี่ นางยังไม่ทันเอ่ยปาก เกี๊ยวน้อยก็เท้าเอววางมาดเป็นผู้ใหญ่ทันที “แบบนี้ไม่ได้นะ!”
จากนั้นนางก็หันไปมองกู้โม่หาน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แม้ว่าเสด็จพ่อจะดีมาก หน้าตาก็ดี ดูแลเอาใจใส่ข้าอย่างดี มีความรับผิดชอบสูง แต่สองเดือนที่ผ่านมาข้าก็เห็นว่าเสด็จพ่อมักจะละเลยการกินการนอน วันๆ เอาแต่นั่งอยู่ในห้องทรงพระอักษร แต่ว่า…”
“คนเราต้องมีสัจจะ หากเสด็จพ่อไม่มีสัจจะ ก็จะถูกท่านแม่ตีก้นและสั่งสอนบทเรียน”
สองพี่น้องเซียงอวี้สงสัยครู่หนึ่งแล้วจึงตระหนักในทันที องค์หญิงใหญ่กำลังช่วยฮ่องเต้คลี่คลายสถานการณ์!
ดูเหมือนว่าหลังจากใช้เวลาสองเดือนที่ผ่านมาตามลำพัง ความสัมพันธ์ระหว่างองค์หญิงและฮ่องเต้ก็ผ่อนคลายลงบ้าง
ดวงตาของกู้โม่หานหลุบลง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เกี๊ยวน้อยทำหน้าเหมือน “เด็กโตแล้วพอจะถ่ายทอดวิชาได้” จากนั้นก็พูดกับหนานหว่านเยียนอีกว่า “ถ้าเสด็จพ่อทำผิด ท่านแม่ก็ตีเขาก็พอ!”
“เหมือนกับเมื่อก่อนที่ข้ากับซาลาเปาน้อยวิ่งสุ่มสี่สุ่มห้าออกไป ท่านแม่ก็ตีก้นพวกเรา กลับไปเสด็จพ่อต้องจำเป็นบทเรียนแน่นอน!”
พูดจบ นางก็ยังตั้งใจใช้ข้อศอกเล็กๆ ดันกู้โม่หาน “ท่านว่าจริงไหม เสด็จพ่อ?”
คำพูดใสซื่อของเด็กนั้นช่างน่าทึ่ง หนานหว่านเยียนรู้สึกอึดอัดเหมือนมีอะไรติดคอ
กู้โม่หานสามารถเอามาเปรียบเทียบกับสาวน้อยทั้งสองของนางได้หรือ?
แต่ก่อนที่นางจะได้พูดอะไร กู้โม่หานก็ทำตามขั้นบันไดของเกี๊ยวน้อย พูดออกมาอย่างจริงใจ
“ข้าผิดไปแล้ว”
“ข้าผิดสัญญาก่อน แล้วแต่ฮองเฮาจะลงโทษ ขอเพียงเจ้ามีความสุข อยากตีตรงไหนก็ได้ ข้าจะปรับปรุงตัวให้ดี”
คำพูดนั้นคลุมเครืออย่างบอกไม่ถูก บรรดาแม่นางในตำหนักก็หน้าแดงและพากันก้มหน้าลง
“ท่าน…” หนานหว่านเยียนเห็นสาวใช้ในวังรอบตัวนางหน้าแดงหูแดง ก็รู้ว่ากู้โม่หานกำลังพูดเรื่องหยาบคายอีกแล้ว!
อะไรคือการตีตรงไหนก็ได้ เขาพูดอะไรต่อหน้านาง มาล้อเล่นแบบนี้
เมื่อมองไปที่เกี๊ยวน้อยอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเข้าข้างกู้โม่หาน ช่วยกู้โม่หานแก้ไขสถานการณ์
หนานหว่านเยียนกัดริมฝีปาก รู้สึกสะอิดสะเอียนอยู่ในใจ
ตอนแรกทำไมเกี๊ยวน้อยถึงไปได้ครึ่งทางก็กลับมาที่วัง ตอนนี้นางยังไม่รู้ ดูเหมือนว่าคืนนี้จำเป็นต้องถามให้รู้เรื่อง
“ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาด บางคนสามารถให้โอกาสครั้งที่สองในการปรับปรุงตัวเองได้ แต่กับบางคนก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลา”
“อีกอย่างฮ่องเต้ก็พูดเล่นไป ลองมองไปรอบๆ ใต้หล้านี้ มีใครกล้าลงมือตีท่านจริงๆ บ้าง?”
เขาคิดว่าสามารถใช้ลูกสาวเพื่อให้ได้รับความกรุณาจากนาง แต่กลับไม่รู้ว่าหัวใจของนางมั่นคงราวกับหินผา จะสั่นคลอนง่ายๆ ได้อย่างไร
ยิ่งกว่านั้นเรื่องระหว่างพวกเขาทั้งสอง ไม่จำเป็นต้องมีใครเข้ามาแทรกแซง แล้วนับประสาอะไรกับการดึงเด็กเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
คำพูดของหนานหว่านเยียนเย็นชาไร้หัวใจ กู้โม่หานไม่อาจข่มความเจ็บปวดในหัวใจได้เลย ดวงตาเล็กเรียวดุจหงส์เชยขึ้นมองใบหน้าที่ไร้ที่ติของหนานหว่านเยียน พูดตามตรง
“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะไม่รักษาสัจจะ เพียงแต่ว่า…ข้าอยากให้ครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข”
“ข้าคือฮ่องเต้ เจ้าคือฮองเฮา สถานะของพวกเราไม่เคยมีขีดจำกัด ข้าในฐานะสามี เจ้าคือภรรยา เจ้าไม่จำเป็นต้องทำตามกฎ ข้าก็ไม่เคยขอให้เจ้าทำตามกฎด้วย”
เวลานางโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ก็ยังทุบตีเหมือนเดิม ไม่เคยเห็นนางจะกลัวตัวตนของเขาเลย
ยิ่งกว่านั้น นอกจากเรื่องผิดสัญญาแล้ว เขาก็ไม่เคยทำอะไรผิดมาก่อน
คำรักหวานซาบซึ้งกินใจนี้ ผู้หญิงคนไหนได้ฟังก็ต้องสะเทือนใจทั้งนั้น
เซียงอวี้และเซียงเหลียน ทั้งสองมองไปที่กู้โม่หาน อดทอดถอนใจไม่ได้
ฮ่องเต้คือจักรพรรดิก็จริง สถานะสูงส่ง เป็นที่น่าเกรงขาม แต่ก็เพราะบัลลังก์จักรพรรดินี้ ทุกครั้งที่เขาอยู่ต่อหน้าฮองเฮาเหนียงเหนียงและบรรดาคุณหนู สถานะของเขาก็ลดต่ำลงอย่างมาก…
หนานหว่านเยียนไม่มีอะไรเปลี่ยนไป น้ำเสียงเคร่งขรึมดุดัน “ครอบครัวเดียวกันควรจะกลมเกลียวก็จริง แต่ว่ามีบางคนทัศนคติสามประการไม่ลงรอยกัน อยู่ด้วยกันไม่ได้ อยากจะแยกทางไม่ได้หรือ?”
ดวงตาเล็กเรียวดุจหงส์ของกู้โม่หานทั้งเย็นชาและกดดัน “ถ้าอย่างนั้นเจ้าบอกข้ามาทีว่าทัศนคติสามประการคืออะไร ทำไมถึงไม่แยกทางไม่ได้ ข้าทำผิดไปแล้ว เจ้าให้โอกาสข้าปรับปรุงตัวใหม่ ให้ข้าชดเชย ให้ข้าชดใช้ได้ไหม ไม่ใช่ยืนกรานที่จะจากไป”
“เจ้าตัดหนทางถอยของข้าแล้ว ข้าควบคุมเจ้า เจ้าเสียใจ ถ้าไม่ควบคุมเจ้า ก็ครอบครัวแตกแยก เจ้าว่า…ทำยังไงถึงจะบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น?”