ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 723
สิ่งที่แตกต่างจากที่ผ่านมา ก็คือกู้โม่หานดื่มสุราไปประมาณหนึ่ง จึงค่อนข้างสะลึมสะลือ แววตาท่วมท้นไปด้วยความแข็งกร้าวที่พร้อมจะจู่โจมได้ทุกเมื่อ
หนานหว่านเยียนที่พยายามดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของเขาก็ไม่ค่อยกล้าออกแรงมากเท่าไหร่นัก เพราะกลัวว่าจะทำให้เกี๊ยวน้อยตื่น และก็กลัวว่าจะกระทบต่อเด็กในครรภ์
นางหัวเราะอย่างเย็นชา “พระองค์ฝันต่อไปเถิด หม่อมฉันจะไม่ตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น!”
ปรนนิบัติ? ก็ลองเขาทำซี้ซั้วดูสิ
เข้ามาแนวตั้ง นางจะให้กลับไปแบบแนวนอนเลยเชียว!
ชายหนุ่มฉีกยิ้มด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน จากนั้นก็เชยคางนางขึ้น บังคับให้นางสบตากับเขา ดวงตาคู่สวยซุกซ่อนไปด้วยทางช้างเผือกที่ระยิบระยับเป็นประกาย ทำให้เขาไม่อาจละสายตาได้
“เจ้าดุขนาดนี้ แต่ข้าก็ยังชอบเจ้าอยู่ดี หว่านเยียนสองเดือนมานี้ เจ้าไม่เคยคิดถึงข้าเลยหรือ?”
ก่อนหน้านี้เพราะเขาไม่กล้าที่จะเข้าใกล้นางจนเกินไป ทั้งๆ ที่เขาคิดถึงนางประหนึ่งน้ำที่แทบจะปริ่มล้นอยู่แล้ว แต่เขากลับต้องหักห้ามใจและระมัดระวังอยู่เสมอ เพราะกลัวว่าหนานหว่านเยียนจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
แต่ตอนนี้เขาอาศัยฤทธิ์สุรา ความคิดถึงและความโหยหาปะทุขึ้นมาราวกับไม่อาจควบคุมได้อย่างไรอย่างนั้น ความปรารถนาค่อยๆ กัดกร่อนประสาทที่เหลืออันน้อยนิดของเขา พลอยทำให้สติของเขาเลอะเลือนไม่ชัดเจน
หนานหว่านเยียนและกู้โม่หานสบตากัน เหตุใดถึงรู้สึกว่าทุกครั้งที่เขาเมาสุรา ก็มักจะติดคนราวกับสุนัขตัวใหญ่ก็ไม่ปาน
หวนนึกถึงตอนกู้โม่หานอยู่ที่จวนอี้อ๋อง กู้โม่หานดื่มสุราแล้วมาอาละวาดที่เรือนของนาง
หนานหว่านเยียนรีบหันหน้าหนีทันควัน นางเอื้อมมือจะไปหยิบยาในช่องว่าง ทว่ากลับถูกฝ่ามือที่หนาใหญ่ของกู้โม่หานคว้าไว้เสียก่อน
นางจึงทำได้เพียงขบฟันแน่น ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความเย็นชา “กู้โม่หาน หม่อมฉันจะให้เวลาพระองค์สามวินาที ไสหัวออกไปจากเตียงของหม่อมชั้นเดี๋ยวนี้”
กู้โม่หานจ้องมองใบหน้าที่งดงามของหนานหว่านเยียน พลางชะงักไปสามวินาที กรอบตาของเขาค่อยๆ แดงก่ำขึ้นมาด้วยความน้อยใจ
“ข้าไม่ไป ข้าจะนอนกับเจ้า สองเดือนที่ไม่มีเจ้า ข้าไม่เคยหลับสนิทเลยแม้แต่คืนเดียว”
“เจ้าเองก็เคยจับชีพจรของข้ามิใช่หรือ เจ้าคงจะรู้ ว่าหัวใจของข้ากำลังทรมาน รู้สึกจุกแน่น และหายใจไม่ออก”
พูดจบเขาก็จับข้อมือของนางขึ้นมา จากนั้นก็วางมือที่ทั้งขาวและอ่อนนุ่มของนางลงบนแผงอกของเขา
หัวใจของกู้โม่หานเต้นเร็วเป็นอย่างมาก แผงอกของเขาร้อนระอุดั่งไฟเผาก็ไม่ปาน หนานหว่านเยียนตกใจสะดุ้งโหยง พยายามจะดึงมือกลับ แต่ถูกกู้โม่หานกดมือของนางไว้ ไม่ยอมปล่อยเป็นอันขาด
นางขมวดคิ้วแน่น พลางจ้องมองดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของกู้โม่หาน ในใจรู้สึกรำคาญและโมโหเป็นอย่างมาก
“พระองค์ทำตัวเองทั้งนั้น! ปล่อย!”
เรื่องการนอนไม่หลับ ใครๆ ก็เป็นกันทั้งนั้น หญิงตั้งครรภ์เช่นนางยิ่งแล้วใหญ่
กู้โม่หานกลับไม่ได้รู้สึกว่าเขาแส่หาเรื่องเองแต่อย่างใด “คิดถึงคนที่ตนเองชอบ จะขมขื่นแค่ไหนก็ยังหวาน ขอเพียงเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีกแล้ว”
เส้นผมที่ดำคลับทิ้งตัวลงมาปกคลุมใบหน้าอันหล่อเหลาทั้งสองข้างของเขา น้ำเสียงที่เย็นชาแฝงความเคว้งคว้างเล็กน้อย ฟังดูเหมือนกำลังบ่นนางพึมพำ ทว่าก็เหมือนกับกำลังแสดงความรู้สึกต่อนาง “ตอนนี้เจ้ากลับมาแล้ว ข้าดีใจเป็นอย่างมาก”
“หว่านเยียน ข้าไม่อยาก…ข้าไม่อยากจะเสียเจ้าไปอีกแล้ว”
ความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไปในทุกๆ ครั้งที่เขาลืมตาตื่น ได้ทรมานเขามาร่วมสองเดือนซ้ำไปซ้ำมาครั้งแล้วครั้งเล่า
ในความฝันรอยยิ้มของหนานหว่านเยียนสามารถเยียวยาทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ทุกครั้งที่เขาตื่นขึ้น ในใจก็รู้สึกเคว้งคว้างไปหมด ความรู้สึกแบบนั้นทุกข์ทรมานกว่าการนอนไม่หลับเสียอีก
หนานหว่านเยียนยังไม่ทันจะตั้งตัว ก็รู้สึกว่าแก้มของนางถูกริมฝีปากบางที่อ่อนนุ่มหอมเข้า
นัยน์ตาคู่สวยหดเล็กลงทันควัน นางตั้งใจจะหันหน้าหนี แต่ถูกกู้โม่หานพลิกตัวมาคร่อมบนตัวนางเสียก่อน พลางจับนางไว้แน่น
นางขบฟันแน่นพลางจ้องมองกู้โม่หานตาเขม็ง แต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงโวยวาย จึงทำได้เพียงใช้คำพูดที่ฉุนเฉียวพูดทะลุผ่านช่องไรฟัน “กู้โม่หาน! พระองค์คิดจะทำอะไรน่ะ?!”
“เกี๊ยวน้อยนอนอยู่ข้างๆ พระองค์กล้าทำเรื่องไร้ยางอายก็ลองดูสิ?!”
ไม่รู้ว่ากู้โม่หานไม่ได้ยินหรือแกล้งไม่ได้ยินกันแน่
ภาพเหตุการณ์ในอดีตที่งดงามมากมายค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้า เขาจ้องมองชุดสีแดงสดประหนึ่งสีเลือดก็ไม่ปาน ผิวพรรณที่เรียบเนียนและเกลี้ยงเกลาของหญิงสาว เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคออย่างช้าๆ
ความรู้สึกที่มีให้กับคนคนหนึ่ง เป็นสิ่งที่ไม่อาจปิดบังซ่อนเร้นได้
ความรู้สึกยิ่งถูกเก็บกด ก็จะยิ่งลุกไหม้และแผดเผา
เขาก้มหน้าลงต่ำ จากนั้นก็ค่อยๆ จูบริมฝีปากของหนานหว่านเยียนอย่างอ่อนโยน แต่ด้วยความที่หิวกระหายจนเกินไป ทว่าก็ยังพยายามจะทะนุถนอม ริมฝีปากของเขาจึงสั่นเครือเล็กน้อย
“หว่านเยียน…หว่านเยียน…”
จุมพิตของกู้โม่หานทั้งลึกซึ้งและเร่าร้อน ทั้งหวงแหนและสงสาร เขาไม่ได้อ่อนประสบการณ์เฉกเช่นเมื่อก่อน ฝีมือเก่งกาจกว่าเมื่อก่อนมาก นางถูกเขาจูบจนลืมทิศลืมทาง ประหวั่นพรั่นพรึงไปหมด
นางจ้องมองกู้โม่หานตาเขม็ง กรอบตาแดงก่ำ พยายามดิ้นสุดแรง
ให้ตายเถอะ ทำไมชายสารเลวผู้นี้ถึงได้กล้าขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจรังแกนาง เพราะรู้ว่าลูกหลับแล้วนางจะไม่กล้าโวยวายเสียงดัง
นับวันกู้โม่หานก็เจ้าคิดเจ้าแผนการมากขึ้นเรื่อยๆ
นางพยายามผลักแผงอกเขาออก แต่กำลังของผู้หญิงและผู้ชายนั้นแตกต่างกันเกินไป จึงทำได้เพียงกั้นเขาไว้ไม่ให้เขาเข้ามาใกล้ครรภ์ของนางมากกว่านี้
การเคลื่อนไหวของทั้งสองยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง เกี๊ยวน้อยที่หลับลึก กำลังหัวเราะเริงร่าอยู่ในความฝันอย่างมีความสุข
หนานหว่านเยียนถูกกู้โม่หานจูบจนหายใจแทบไม่ทัน แก้มเนียนแดงระเรื่อ ลมหายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ดูเหมือนว่ากู้โม่หานจะสังเกตเห็นอาการของนาง จึงยอมปล่อยนางอย่างจำใจ เขาหลุบตาลงต่ำพลางจ้องมองหนานหว่านเยียนด้วยความเสน่หา จากนั้นก็เอื้อมมือไปช่วยนวดหว่างคิ้วที่ขมวดแน่นของนางให้คลายลง
“ข้าทำเจ้าเจ็บหรือ ข้าขอโทษ ไม่ได้สัมผัสเจ้ามานานมากแล้ว จึงควบคุมตนเองไม่ค่อยได้”
ไร้ยางอาย! ต่ำช้าที่สุด!
ใบหน้าของหนานหว่านเยียนแดงก่ำจนไปถึงหู รู้สึกหายใจติดขัดไปหมด
นางกัดฟันกรอด พลางเอื้อมแขนข้างที่อิสระหยิกเอวของเขาอย่างเต็มแรง อากัปกิริยาคล้ายกับแมวตัวเล็กที่พองขน ยังคิดจะเอาเข็มมาแทงเขาให้สลบ ทว่ายังไม่ทันที่เข็มในมือของนางจะไปถึงคอของเขา ก็ถูกเขารวบข้อมือไว้ก่อน
นางยกขาถีบเขาพลางด่าเสียงเบา “กู้โม่หาน พระองค์ไร้ยางอาย! ต่อหน้าเกี๊ยวน้อยยังกล้ากระทำสิ่งเหล่านี้ หากหม่อมฉันสู้พระองค์ไหว หม่อมฉันจะตีขาพระองค์ให้หัก!”
กู้โม่หานฉีกยิ้มกว้าง
คำด่าและอารมณ์ขุ่นเคืองที่คุ้นเคย ท่าทีที่น่ารักและร่างกายที่บอบบางของหญิงสาว ท่าทีที่นางคิดจะเอาอะไรต่อมิอะไรมาแทงเขา น่าดูกว่าสีหน้าท่าทีที่เย็นชาไร้ซึ่งความรู้สึกเฉกเช่นที่ผ่านมา
เขาไม่ได้โกรธ แต่ลูบผมของหนานหว่านเยียนอย่างอ่อนโยนแทน จากนั้นก็พลิกตัวนอนลงบนเตียง รวบตัวของหญิงสาวเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หยอกเย้า
“หายโมโหได้แล้ว ข้าไม่แกล้งเจ้าแล้ว รีบนอนเถอะ”
หนานหว่านเยียนได้ยินแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกโมโหมากขึ้นกว่าเดิม นางอยากจะถีบเขาลงจากเตียงเสียประเดี๋ยวนี้ “ท่าน…”
แต่ยังไม่ทันจะได้ลงมือ ก็ถูกกู้โม่หานจิ้มไปยังจุดฝังเข็ม ภาพตรงหน้าดับมืดลง จากนั้นก็หมดสติในอ้อมกอดของเขา…