ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 730 เจ้าท้องแล้วใช่หรือไม่

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 730

รูปร่างสูงใหญ่ของเขาถูกปกคลุมอยู่ภายใต้แสงแดด กลับเผยความเย็นเยือกไร้ที่เปรียบออกมา รอบตัวล้วนมีลักษณะพลังที่ถึงจะไม่โกรธแต่มีความน่าเกรงขามอยู่

เสิ่นอี่ว์ก็ขมวดคิ้วมองหยุนอี่ว์โหรวเหมือนกัน

หยุนอี่ว์โหรวกลับพูดอย่างตกใจ “หรือว่าฮ่องเต้ไม่ทรงทราบหรือเพคะ?”

“เมื่อคืนอี่ว์โหรวให้คนไปถวายอาหารเย็นให้ฮองเฮาเหนียงเหนียง เดิมคิดว่าจะเลี้ยงต้อนรับแก่ฮองเฮาเหนียงเหนียง อาหารพวกนั้นล้วนเป็นของที่เมื่อก่อนฮองเฮาเหนียงเหนียงชอบเสวย ปรากฏว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงไม่เพียงไม่เสวย ยังให้คนส่งกลับมาอย่างไม่แตะต้องสักนิดด้วยเพคะ บอกว่าร่างกายไม่สบาย”

เมื่อคืนนี้ นางกินอาหารยังปกติมาก มีปัญหาตรงไหนกัน

กู้โม่หานขมวดคิ้วแล้ว เพิ่งอยากบอกไม่ให้หยุนอี่ว์โหรวเข้าใกล้หนานหว่านเยียน อย่ารบกวนนาง ก็ได้ยินเสียงหยุนอี่ว์โหรวอีกแล้ว

“ฮ่องเต้เพคะ ฮองเฮาเหนียงเหนียงชอบเสวยของเย็นและสด ตอนนี้อากาศเริ่มร้อนขึ้นมาแล้ว เหนียงเหนียงเสวยของเย็นจะได้สดชื่นขึ้นมาเพคะ”

“อากาศร้อนอบอ้าวนี้ น่าเสียดายหม่อมฉันตั้งครรภ์แล้ว ไม่มีทางกินได้ แม้แต่มองก็มองไม่ได้สักนิด ไม่เช่นนั้นหม่อมฉันย่อมไปส่งด้วยตนเองแล้วเพคะ”

“กลับไม่คิดว่าร่างกายของฮองเฮาเหนียงเหนียงจะไม่สบาย อี่ว์โหรวไม่มีข้ออ้างไปพบฮองเฮาเหนียงเหนียง และเลี้ยงต้อนรับกับฮองเฮาเหนียงเหนียงแล้วเพคะ”

“แต่ว่าพูดไปก็น่าแปลกนะเพคะ เหตุใดฮองเฮาเหนียงเหนียงถึงแสลงปากขึ้นมากะทันหัน มิใช่เป็นหญิงตั้งครรภ์……”

พูดประโยคนี้จบ หยุนอี่ว์โหรวลูบท้อง แอบสังเกตความเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของกู้โม่หานแบบเหมือนกำลังครุ่นคิด ในสายตาแอบเผยแววความชั่วร้ายผ่านไป

เสิ่นอี่ว์มึนงงไปโดยตรง เมื่อสักครู่หยุนอี่ว์โหรวบอกเป็นนัยอย่างชัดเจนว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงนางตั้งครรภ์แล้ว

แต่นี่จะเป็นไปได้อย่างไรเล่า? ฮองเฮาเหนียงเหนียงออกไปจากวังหลวงสองเดือนแล้ว

สีหน้าของกู้โม่หานกลับอึมครึมฉับพลัน นิ้วมือที่ถือดอกไม้ไว้อย่างระวังพอออกแรงเข้า ก้านดอกของดอกไอริสดอกหนึ่งก็หักแล้ว ร่วงลงบนพื้น

เขามองทางท้องของหยุนอี่ว์โหรว และพลอยนึกถึงท้องน้อยที่กลมโตของหนานหว่านเยียน เหมือนกันโดยแท้ หนำซ้ำหนานหว่านเยียนในตอนนี้ กินมากกว่าเมื่อก่อน และแสลงปากจริงด้วย

หรือว่านางจะ……

เม้มริมฝีปากบางจนเป็นเส้นตรง กู้โม่หานไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น สะบัดแขนเสื้อกดความโกรธไว้แล้วเดินไป

เสิ่นอี่ว์ชายตามองหยุนอี่ว์โหรวแวบหนึ่ง กัดฟันไว้แล้วยังรีบตามกู้โม่หานโดยเร็ว

หยุนอี่ว์โหรวมองภาพเบื้องหลังของกู้โม่หาน โค้งตัวอย่างเสแสร้งแกล้งทำ “ทูลลาฮ่องเต้เพคะ”

ตอนที่เงยหน้าอีกที นางกลับค่อยๆ หัวเราะแล้ว ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของนาง

“กลับไปเถิด” นางเอามือพาดไว้บนแขนของปี้หยุน หมุนตัวออกไปจากอุทยานหลวงแล้ว ก่อนจะออกไป ยังมองพุ่มดอกไอริสที่หายไปแวบหนึ่ง หัวเราะเยาะอย่างดูถูกเหยียดหยามแล้ว

ความรักคือดาบสองคม สามารถทำให้คนอยู่บนสรวงสวรรค์ในชั่วพริบตา และสามารถทำให้คนตกนรกได้ในชั่วพริบตาเช่นกัน

หนานหว่านเยียน รอเก็บศพตนเองเสียเถิด

……

กู้โม่หานมุ่งหน้าไปยังตำหนักหยูซิน ถือดอกไม่ไว้แบบหน้าตาไร้ความรู้สึก ก้าวเท้าฉับไว

เสิ่นอี่ว์กลับสัมผัสได้อย่างง่ายดายว่ากู้โม่หานกำลังกดความโกรธเอาไว้ เขายังอกสั่นขวัญแขวนอยู่บ้างเช่นกัน ไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง สีหน้าเคร่งขรึม

แต่เขายังหวังว่า อีกเดี๋ยวฮองเฮาเหนียงเหนียงกับฮ่องเต้พอจะพูดคุยอย่างสงบนิ่งได้

เลี่ยงจะมีความเข้าใจผิดอะไรกัน

แต่ว่า……ฮ่องเต้ไม่เคยแตะต้องฮองเฮาเหนียงเหนียง เหนียงเหนียง……ไม่อาจตั้งครรภ์ได้จริงกระมัง

หนานหว่านเยียนที่ยังไม่รู้เรื่องราวพวกนี้สักนิด กำลังเล่นกับเกี๊ยวน้อยอย่างสนุกสนานที่ด้านนอกตำหนักหยูซิน

เซียงอวี้กับเซียงเหลียนยังมีอวี๋เฟิงกำลังอยู่ด้วยกันกับเกี๊ยวน้อย คนกลุ่มหนึ่งเล่นวิ่งไล่จับกันอยู่ สถานการณ์คึกคักและอบอุ่น

ถ้าวันเวลาแบบนี้สามารถยาวนานต่อไป จะดีสักแค่ไหนเชียว

สักครู่หนึ่ง กู้โม่หานก็รีบเข้ามาถึงตำหนักหยูซินแบบหน้าตาอึมครึมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

ในอ้อมอกของชายหนุ่มยังกอดดอกไอริสช่อหนึ่งไว้ ทุกคนมองเห็นสีม่วงที่สะดุดตาเข้ามาก่อน กลับไม่สังเกตเห็นการแสดงออกของกู้โม่หาน

เซียงอวี้กับเซียงเหลียนสองพี่น้องยิ้มมองหน้ากันและกัน ยังคิดว่ากู้โม่หานเริ่มเข้าใจบ้างแล้ว รู้ว่าต้องใช้ของที่มีสีสันพวกนี้มากล่อมหญิงสาวให้เบิกบานใจ

“เสด็จพ่อ” เกี๊ยวน้อยหรี่ดวงตาแอบหัวเราะ หนานหว่านเยียนกวาดสายตามองดอกไม้ในอ้อมอกเขา เม้มริมฝีปาก จิตใจซับซ้อนอยู่บ้าง

ทุกคนต่างทำความเคารพต่อกู้โม่หาน

“ถวายบังคับฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ”

ความอึมครึมบนใบหน้าของกู้โม่หานยิ่งเข้มข้นขึ้น ดวงตาแคบและยาวจ้องมองนางราวกับคมมีดแหลม พยายามกดไฟโกรธและความตกใจเอาไว้

“พวกเจ้าพาเกี๊ยวน้อยกลับตำหนักบรรทมไป ข้ามีบางเรื่อง อยากพูดกับฮองเฮาตามลำพัง”

สิบนิ้วอันเรียวยาวบีบก้านดอกไม้ในอ้อมอกไว้แน่น กู้โม่หานเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง ทุกคนถึงรู้สึกว่าไม่ค่อยสู้ดีนัก

นี่คือฮ่องเต้ เป็นอะไรแล้ว?

อยู่ดีๆ ทำไมทรงกริ้วมากปานนี้แล้ว?

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วแน่น สายตาค่อยๆ เย็นเยือกลงไป

แต่ยังไม่รอหลายคนนี้ถามออกมา เสิ่นอี่ว์ก็ขมวดคิ้วแล้วส่ายหน้า หมายความว่าให้ทุกคนออกไป

เซียวอวี้กับเซียงเหลียนไม่กล้าพูดมาก อุ้มเกี๊ยวน้อยที่ทำหน้าไม่เข้าใจออกไปแล้ว อวี๋เฟิงกับเสิ่นอี่ว์ก็ตามออกไปติดๆ

แต่พวกเขามีลางสังหรณ์ว่า ไม่นานตำหนักหยูซิน ก็คงเปลี่ยนเป็นสนามรบ……

หน้าประตูตำหนักที่เมื่อสักครู่ยังครึกครื้นเป็นพิเศษ เวลานี้เงียบงันลงมาแล้ว

ประหนึ่งว่าเสียงเข็มร่วงลงยังพอจะกระตุ้นให้เกิดคลื่นยักษ์ได้ทุกเมื่อ กู้โม่หานหรี่ตาครึ่งหนึ่ง บีบเข้ามาหาหนานหว่านเยียนทีละก้าว บนใบหน้าอันงดงาม มาพร้อมลักษณะดุร้ายที่ความสามารถเผยคมออกมาให้เห็น

หนานหว่านเยียนรับรู้ถึงความไม่สงบส่วนหนึ่งอย่างไร้สาเหตุ นางขมวดคิ้วสบสายตาที่เต็มไปด้วยไฟโกรธนั้นของกู้โม่หาน ถอยหลังครึ่งก้าวแล้วถามด้วยเสียงเย็นชา “มีธุระ?”

เมื่อสักครู่นางยังคิดว่าเขามาอย่างเป็นมิตร แต่เห็นลักษณะดุดันอันนี้ เดิมทียังไม่เหมือน

สุดท้ายกู้โม่หานอดกลั้นไฟโกรธในใจไว้ไม่ไหว ขวางดอกไอริสทั้งหมดที่อยู่ในอ้อมอกลงพื้นโดยตรง

กลีบดอกสีม่วงร่วงโรยอยู่ท่ามกลางลมอย่างกระจัดกระจาย โอบล้อมระหว่างทั้งสองคน ความงดงามอันกระจัดกระจายกลับทำให้คนหายใจไม่ออก

เขายื่นมือโอบเอวของนางไว้อย่างแรงแล้ว ดึงนางมาในอ้อมอกตนเอง ลมหายใจเดือดดาลจนทำให้คนวิงเวียนศีรษะ

เขาจ้องนางตาไม่กะพริบ เสียงหนาวเหน็บพ่นออกมาจากริมฝีปาก คำพูดชัดถ้อยชัดคำ

“ข้าถามเจ้า เจ้าท้องแล้วใช่หรือไม่——”

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท