นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – บทที่ 107 เฟิ่งชิงเฉินผู้เฉิดฉาย!

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 107 เฟิ่งชิงเฉินผู้เฉิดฉาย!

ท่าทางเฉยเมยของเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้สามพ่อลูกตระกูลหวังต่างพากันสงสัย หวังชีอดไม่ได้จึงถามนางไปตรงๆว่า “เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าไม่ดีใจกับพี่ชายข้าหรือ? เขากลับมามองเห็นแล้วนะ เป็นฝีมือการรักษาของเจ้านะ”

เรื่องที่สมควรดีใจเช่นนี้ แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับทำเป็นนิ่งเฉย

หวังชีไม่เข้าใจเลยจริงๆ

คนอื่นๆก็ไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน เฟิ่งชิงเฉินดูแน่นิ่งยิ่งนัก

เฟิ่งชิงเฉินเลิกคิ้ว ก็นางบอกไปแล้วว่าดวงตาของหวังจิ่นหลิงจะสามารถกลับมามองเห็นได้ ตอนนี้ก็เป็นตามที่นางพูด ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นตรงไหน

แต่เมื่อเห็นสายตาของหวังจิ่นหลิงที่กำลังมองนางอย่างใจจดใจจ่อ เฟิ่งชิงเฉินจึงต้องตอบกลับไปว่า “ก็ดีใจน่ะสิ หวังจิ่นหลิง ยินดีด้วยนะที่ตาของท่านกลับมามองเห็นแล้ว ต่อไปนี้ไม่ต้องทนทุกข์กับการมองไม่เห็นแล้วนะ”

เฟิ่งชิงเฉินยื่นมือขวาออกไป นางเคยชินกับการจับมือ แต่เมื่อนางยื่นมือออกไปแล้วก็รู้ตัวว่าการทำเช่นนี้ไม่เหมาะสม จึงเปลี่ยนเป็นยื่นมือไปปิดตาหวังจิ่นหลิง ทำทีเป็นตรวจตา

คนอื่นๆต่างตกใจไปตามกัน

จะมีปัญหาอะไรอีก?

“มีอะไรหรือ? แม่นางเฟิ่ง ดวงตาของหลิงเอ๋อร์มีปัญหางั้นหรือ?” หวังซู่ตกใจกว่าผู้ใด

“ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ อาการปกติ แต่ว่าหลังจากใช้สายตานานๆจะทำให้ดวงตาล้าได้” ในตาของเขามีเส้นเลือดปรากฏขึ้นเล็กน้อย ไม่เป็นอะไรมาก กระจกตาก็ไม่ได้อักเสบ

ทุกอย่างเป็นปกติดี ไม่เสียแรงที่นางอยู่ทำการรักษาเป็นเวลากว่า 3 วัน

“ลืมตา” เฟิ่งชิงเฉินหยิบยาหยอดตาออกมาจากกระเป๋า แล้วหยอดยาลงในตาหวังจิ่นหลิง

“หลับตา”

“เย็นสบายดีจริงๆ ชิงเฉินเจ้าช่างยอดเยี่ยมนัก”

แม้ว่าเจ้าจะไม่เหมือนอย่างที่ข้าเคยจินตนาการไว้ แต่ในสายตาของข้าเจ้างดงามที่สุด

ข้าจะไม่มีวันลืมว่าคนแรกในชีวิตที่ข้ามองเห็นนั้นคือเจ้า!

หวังจิ่นหลิงหลับตา ไม่ให้ความคิดออกมาฟ้องทางสายตา

“ข้าเป็นหมอ นี่คือสิ่งที่ข้าควรจะทำ ยาขวดนี้ท่านเก็บเอาไว้นะ หากรู้สึกเคืองตาก็ให้หยอดลงในตา แต่ก็อย่าลืมเด็ดขาดว่าห้ามใช้สายตามากเกินไป ท่านอย่าเพิ่งอ่านหนังสือ หลังจากนี้ยังมีเวลาเหลือเฟือ ตอนนี้ท่านไม่ต้องรีบร้อน”

“ขวดช่างงามนัก ทำมาจากอะไรหรือ ราคาคงจะไม่ธรรมดา” ขวดเป็นขวดโปร่งใส น้ำด้านในก็ใสเช่นกัน ของเช่นนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

“เป็นความลับ ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องราคาหรอก ยาขวดนี้ค่าคิดเงินไว้ในยอดของทองคำ 1 พันตำลึงแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินยิ้ม

หวังจิ่นหลิงหัวใจเต้นรัวเพราะรอยยิ้มของนาง เขารีบหลับตาเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก

Smart address bar. th.readeraz.com นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 107 เฟิ่งชิงเฉินผู้เฉิดฉาย! – th.readeraz

“เฟิ่งชิงเฉิน ทองคำ 1 พันตำลึงเลยหรือ? ไม่ใช่หรอกกระมัง เจ้าคิดค่ารักษาแพงถึงเพียงนี้เชียวหรือ?” อวี่เหวินหยวนฮั่วกล่าว

มูลค่าทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขายังเทียบไม่ได้กับทองคำ 1 พันตำลึงเลย

“ท่านควรจะดีใจมากกว่านะ ข้าเพิ่งตัดสินใจว่าจะไม่เก็บเงินท่านอีกไปตลอดชีวิต” สำหรับมิตรภาพ นางไม่มีทางคิดเงินอย่างไร้ซึ่งเหตุผล ที่นางเรียกเก็บค่ารักษาหวังจิ่นหลิง ก็เพราะไม่ต้องการให้คนในตระกูลหวังคิดมาก

หลังจากที่ตกอยู่ภายใต้ความมืดมนมานาน เมื่อหวังจิ่นหลิงลืมตาแล้วก็ได้พบกับรอยยิ้มเฟิ่งชิงเฉิน จึงอดกล่าวชมไม่ได้ว่า “ชิงเฉิน เจ้าน่าจะยิ้มบ่อยๆนะ เวลาเจ้ายิ้มเจ้างามมากๆเลย”

เฟิ่งชิงเฉินเวลาที่ไม่ยิ้ม ดูเยือกเย็นและสร้างความรู้สึกที่เหินห่าง

“ขอบคุณสำหรับคำชม ข้าจะยิ้มบ่อยๆนะ ตอนนี้ข้ามีเรื่องที่จะต้องรบกวนคุณชายใหญ่” นางเองก็อยากยิ้มทุกๆวัน แต่อาชีพของนาง บวกกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้นางต้องเก็บซ่อนรอยยิ้มไว้

“เรื่องอะไรหรือ?” หวังจิ่นหลิงเห็นความมาดมั่นของเฟิ่งชิงเฉินถูกปกคลุมไปด้วยความทุกข์ระทม เขาเองก็เห็นใจนางไม่น้อย

เขาลืมมองไปว่า เพื่อรักษาดวงตาของเขาแล้ว เฟิ่งชิงเฉินต้องแบกรับความกดดันอันหนักหน่วง ด้านนอกก็มีฝูงชนคอยดูถูกนางมากมาย เขาลืมมองไปว่า ผู้หญิงคนนี้ต้องเอาชีวิตที่มีค่าของตัวเองเข้ามาเสี่ยง เพื่อที่จะได้มอบความช่วยเหลือให้กับเขา

“รอข้าก่อนนะ ข้าขอเปลี่ยนชุดก่อนแล้วเดี๋ยวจะออกไป” หวังจิ่นหลิงพูดในขณะที่ก้มมองดูเสื้อยับๆของตัวเอง

เขาจะต้องออกไปช่วยเฟิ่งชิงเฉินยืนยันว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่คนลวงโลก เขาจะออกไปประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ ว่าเฟิ่งชิงเฉินคือหมอที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตงหลิง

……

เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่าหวังจิ่นหลิงเป็นชายหนุ่มรูปงาม บุคลิกดี การวางตัวก็เป็นเลิศ แต่เมื่อเห็นหวังจิ่นหลิงเดินออกมาแล้ว นางก็ถึงกับตกตะลึง

ชุดผ้าไหมสีฟ้าครามประดับด้วยลายเมฆและใบไผ่ สีขาวที่แซมเสื้ออยู่นั้นช่างเข้ากับที่เสียบผมหยกขาวบนศีรษะของเขายิ่งนัก เขาหล่อเหลาปานเทพบุตรที่เดินออกมาจากภาพวาด

รอยยิ้มที่แสนอ่อนละมุน ดูเหมือนจะสยบความโหดร้ายต่างๆได้ เหมือนตอนที่พบกันครั้งแรกที่นอกเมือง แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว

ใช่แล้ว ดวงตาคู่นั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ดวงตาคู่นั้น ก่อนหน้านี้มีเพียงความมืดมิด ตัดขาดจากโลกอย่างสิ้นเชิง แต่ในตอนนี้กลับมีแววตาที่แสนจะอบอุ่นและแฝงไปด้วยความเชื่อมั่น

หวังจิ่นหลิงในตอนนี้ได้รับการเติมเต็มดวงตาแล้ว

“เฟิ่งชิงเฉิน จ้องมองตาหวานเยิ้มเชียวนะ” หวังชีกล่าวด้วยความไม่พอใจ

พี่ชายของเขารูปงามก็จริงอยู่ แต่คงไม่ถึงขั้นทำให้หญิงสาวจ้องมองตาหวานเยิ้มถึงเพียงนั้น

หากเป็นผู้หญิงทั่วๆไป เมื่อมาเจอสถานการณ์เช่นนี้คงจะก้มหน้าเพราะเขินอาย แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับพูดจาอย่างมาดมั่น ไม่มีความเอียงอายแม้แต่น้อย “เวลาเห็นคนรูปงามกับสิ่งของที่สวยงามก็ทำให้คนมองอารมณ์ดีเป็นธรรมดา”

ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ หวังจิ่นหลิงในตอนนี้หาใช่คุณชายที่อยู่ในโลกที่มืดมิดอีกต่อไป แต่เป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหวังผู้ล้ำเลิศ

“ชิงเฉินพูดได้ดีนี่” หวังจิ่นหลิงยิ้ม

เฟิ่งชิงเฉินหันไปมองทางอื่น นางไม่ต้องการมองหวังจิ่นหลิง แต่หันไปพูดกับอวี่เหวินหยวนฮั่ว “ไม่มีอะไรแล้ว เช่นนั้นเราออกไปกันเถอะ แม่ทัพอวี่เหวิน ต้องรบกวนท่านแล้วล่ะนะ”

หวังจิ่นหลิงมีท่าทางที่ผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็รู้จักประเมินสถานการณ์

เฟิ่งชิงเฉินจะจำหน้าที่การงานผู้อื่นได้ก็ต่อเมื่อนางสั่งคนอื่นให้ทำนู่นทำนี่ อวี่เหวินหยวนฮั่วเคยชินกับนิสัยเช่นนี้ของเฟิ่งชิงเฉินแล้ว หากเฟิ่งชิงเฉินเกรงใจเขาเมื่อใดจึงจะถือเป็นเรื่องแปลก

“วางใจได้เลย ข้าได้ส่งคนให้นำข่าวเรื่องหวังจิ่นหลิงกลับมามองเห็นได้ส่งไปยังวังหลวงแล้ว มีเสด็จอาเก้าอยู่ทั้งคน ไม่มีผู้ใดกล้าสร้างปัญหาหรอก” อวี่เหวินหยวนฮั่วกล่าวด้วยสายตามาดมั่น

……

เฟิ่งชิงเฉิน หวังจิ่นหลิง หวังซู่ หวังชีและอวี่เหวินหยวนฮั่ว ทั้งห้าคนเดินออกไปด้านนอก เมื่อเดินออกมาได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงเซ็งแซ่ของชาวบ้าน

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าไม่กล้าออกมาสู้หน้าใครเลยสินะ?”

“คนลวงโลก เฟิ่งชิงเฉินเป็นจอมหลอกลวง”

“ฮ่าๆๆ เจ้าคนไม่มีหัวคิด คิดว่ามีแม่ทัพอวี่เหวินคอยหนุนหลังอยู่แล้วนึกจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ? ช่างโง่เง่าจริงๆเลย”

“พวกผู้ใหญ่ในจวนก็กระไร ไปหลงเชื่อคำของเจ้าเด็กบ้านั่นว่าสามารถรักษาดวงตาให้กับคุณชายใหญ่ได้ เสียเวลาจริงๆ”

“ไม่แน่นะพวกเรา เฟิ่งชิงเฉินอาจจะหนีไปนานแล้วก็ได้ พวกเรามารอเก้อแล้วกระมัง”

……

ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ความตึงเครียดได้เข้ามาปกคลุมทั้งคนในจวนเฟิ่งและคนนอกจวนเฟิ่ง วันนี้จะเป็นวันชี้ชะตาของใครหลายๆคน……

“แม่ทัพอวี่เหวิน ให้คนของท่านเปิดประตูได้เลย” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวด้วยสีหน้านิ่งเฉย แววตาของนางดูเย็นชายิ่งนัก

อวี่เหวินหยวนฮั่วยกมือขึ้น พลันทหาร 2 นายก็รีบเข้ามาหาในทันที แววตาของพวกเขาดูเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ

พวกเขารอช่วงเวลาที่ผู้คนนอกจวนจะได้พบกับคุณชายใหญ่ตระกูลหวังแทบไม่ไหว

“แอด” ประตูจวนเฟิ่งถูกเปิดแล้ว ผู้คนมากมายยืนรอเต็มไปหมด

“ออกมาแล้ว ออกมาแล้ว” ไม่รู้ว่าผู้ใดตะโกนขึ้น ชาวบ้านที่กำลังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์อยู่จึงเงียบลงในทันที

ไม่ต้องรอให้อวี่เหวินหยวนฮั่วออกคำสั่ง เหล่าทหารก็รีบออกไปเปิดทางเดินให้เฟิ่งชิงเฉินและหวังจิ่นหลิง

แน่นอนว่า ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี หมอหลวงหยวนประจำจวนเซี่ย และกลุ่มคนที่เรียกตนเองว่าหมอได้ถูกเชิญให้มายืนอยู่แถวหน้า

“ออกไปได้เลย” อวี่เหวินหยวนฮั่วเห็นว่าด้านนอกไม่มีปัญหาแล้ว ก็หันมาพยักหน้าให้กับเฟิ่งชิงเฉิน แล้วตนเองก็ก้าวเท้าถอยหลังไป

ไม่ว่าเขาจะยิ่งใหญ่สักเพียงใด แต่ในเวลานี้ บุคคลที่ทุกคนต้องการพบมากที่สุดมีเพียงเฟิ่งชิงเฉินและหวังจิ่นหลิงเท่านั้น

วันนี้เป็นวันของเฟิ่งชิงเฉิน ผู้เดียวที่จะเฉิดฉายได้จะต้องมีเพียงเฟิ่งชิงเฉินเท่านั้น!

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

Status: Ongoing
ในยามวันมงคลสมรสของตนเอง นางตื่นสะลึมสะลือขึ้นมาที่ย่านชานเมือง ด้วยอาภรณ์ที่บางเบาและทั่วร่างที่สั่นเทา พร้อมกับสายตาดูหมิ่นที่จับจ้องมองมาที่นางมากมาย ทุกย่างก้าวที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังย่างกรายเข้าสู่ราชวัง นางคือสตรีกำพร้าที่ไร้บิดามารดาคอยดูแล ส่วนเขาเป็นท่านอ๋องหน้ากากเหล็กที่อยู่เหนือกว่าทุกคนในใต้หล้า ทั่วร่างของนางที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ทั้งยังถูกทำให้อับอายขายขี้หน้า; เขาผู้ที่ไปมาไร้ร่องรอย หาผู้ใดมาเทียบเคียงได้ยาก นางต้องก้มหน้าคุกเข่าอย่างนอบน้อม เขาคือผู้ที่จ้องมองลงมาจากเบื้องบน เส้นทางของคนทั้งสองคนที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่กลับมาบรรจบพบพานด้วยความบังเอิญ อาภรณ์ที่อบอุ่นผืนนั้น ปกปิดคราบสกปรกบนเนื้อตัวของนาง โดยแลกมาด้วยความรักชั่วชีวิตของตนเอง แพทย์หญิงผู้มากความสามารถจากยุคศตวรรษที่ 21 ทั่วทั้งกายและใจของนางมอบให้แต่เขาเพียงผู้เดียว เขาผู้อยู่เหนือผู้คนในใต้หล้า คมดาบที่อาบไปด้วยเลือดมากมาย นางสามารถละทิ้งทุกอย่างได้ ขอเพียงแค่ชาตินี้ ขอให้นางได้ครองรักเช่นสามีภรรยา ความรักที่ไร้ขอกังหา ไม่ว่าจะเป็นหรือตายนางล้วนไม่สนใจ แต่เขากลับมอบคมดาบเพื่อปลิดชีพนาง…………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท