ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 311
งานเลี้ยงตอนเที่ยงนั้นอยู่ในลานบ้าน ตอนเย็นจึงจะเป็นงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ
โต๊ะหนึ่งร้อยโต๊ะจัดวางราวสายน้ำไหล จำต้องรอให้ญาติสนิทนั่งลงก่อน แล้วแขกคนอื่น ๆ จึงนั่งลงได้
ฝั่งจิ้นกั๋วกงที่มาร่วมนั้นเป็นท่านลุงรอง อาสะใภ้รอง และคนหนุ่มสาวทั้งหลายในสกุล เพราะว่าในตอนที่กราบไหว้ฟ้าดินนั้น คนของบ้านฝั่งมารดามิอาจเข้าร่วมได้ เมื่อครู่เรื่องที่เกิดในห้องโถงนั้น คนของสกุลซีเหมินจึงมิได้รู้เรื่องราว เพียงแต่รู้สึกว่าใช้เวลานาน ยังมิอาจออกมากินดื่มได้ เพราะว่าผู้ที่มาส่งเจ้าสาวแต่งงานนั้นจะต้องกินและดื่มแล้วจึงจะกลับได้ เหล้ายังมิได้ดื่ม ก็มิอาจจะจากไปได้
ผู้ที่มาส่งเจ้าสาวแต่งงานนั้นส่วนมากแม้แต่ข้าวเช้าก็ยังมิได้กินมา เข้าประตูจวนในตอนเที่ยง แม้แต่ในตอนที่ทำพิธีก็มิอาจกินข้าวเที่ยงได้ คนเหล่านั้นหิวจนหน้าอกพลิกกลับหลังไปแล้ว แต่รัชทายาทกับผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิก็ยังไม่ออกมา และไม่อาจไปเร่งรัดได้
ไม่ง่ายเลยที่จะรอจนเริ่มงาน พวกเขาจึงลืมที่จะเข้าไปสอบถามจากซีเหมินเสี่ยวเย่ว รีบตรงเข้าไปนั่งกินข้าวในทันที
ซีเหมินเสี่ยวเย่วเองมิยินยอมที่จะดื่มเหล้ามงคลแล้ว แม้ว่าซีเหนียงจะพูดอยู่ตลอดว่าจะต้องดื่มเหล้ามงคล แต่ว่านางกลับบอกว่าปวดหัว มหาเสนาบดีเซี่ยรู้ว่านางในใจนั้นไม่มีความสุข จึงได้เอ่ย “เจ้าหากว่าไม่สบายแล้ว ก็ไม่ต้องไปดื่มเหล้ามงคลหรอก นั่งพักเถอะ กินเสร็จแล้วก็กลับไปพักผ่อน ข้าไปดื่มเหล้ามงคลก็พอ”
ซีเหมินเสี่ยวเย่วซาบซึ้งในน้ำใจของเขา แต่ว่าความกรุ่นโกรธในใจยังไม่หาย เพียงแค่ตอบกลับเขาไปแบบขอไปที “เจ้าค่ะ ลำบากท่านพี่แล้ว”
มหาเสนาบดีเซี่ยจับมือนางอยู่ใต้โต๊ะ ค่อย ๆ ยิ้ม “ต่อไปพวกเราก็จะเป็นสามีภรรยากันแล้ว เรื่องของเจ้า ในมุมของข้าแล้วนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่สุด”
ซีเหมินเสี่ยวเย่วรู้สึกซาบซึ้งใจ จ้องมองไปที่เขา พลางเอ่ย “ท่านพี่ ข้าถึงแม้ว่าจะไม่สบายนัก แต่ธรรมเนียมการดื่มเหล้ามงคลนั้น หากข้าไม่ไปก็กลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาท ควรจะไปดื่มเหล้ามงคลกันก่อนเถอะเจ้าค่ะ”
มู่หรงเจี๋ยและแขกคนสำคัญนั่งอยู่ด้วยกัน บรรดาขุนนางในวังทั้งหลาย ล้วนจะต้องเอ่ยทักทายทั้งสิ้น มู่หรงเจี๋ยดื่มเหล้าติดต่อกันหลายแก้ว จึงได้หยุดลงพูดคุยกับทุกคน นับว่าเสียมารยาทแล้ว
ในตอนที่ตอนที่ดื่มเหล้ามงคลนั้น เดิมควรจะเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่จะดื่มให้แก่แขก จากนั้นจึงรับอั่งเปา ใครจะรู้ว่า เป็นบุตรสาวทั้งหลายของบรรดาขุนนางในวังที่นำมาไปดื่มเหล้าให้แก่มู่หรงเจี๋ย
ไม่เพียงเท่านี้ พวกนางยังนำเหล้าของตนเองมา แม้ว่าจะเป็นไหเหล้าขนาดห้าชั่งสิบชั่ง แต่ว่าเมื่อกองรวมอยู่ตรงนั้นแล้ว กลับมีมากกว่ายี่สิบไห
เหล้าพวกนี้ พวกนางมิได้นำมาดื่มในตอนนี้ แต่มอบให้กับมู่หรงเจี๋ย
ทุกคนต่างก็รู้กันดีว่ามู่หรงเจี๋ยไม่เคยรับของขวัญ หากจะรับก็รับแต่เหล้าดี
เขาชอบเหล้าดี เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ในเมืองหลวงต่างรู้กันดี
มู่หรงเจี๋ยมองไปยังไหเหล้าพวกนั้น ดวงตาส่องประกาย ราวกับมองเห็นสิ่งสวยงามที่สุดในใต้หล้า
จนถึงตอนนี้ทุกคนยังไม่ได้ดื่มเหล้า เขากลับดื่มไปแล้วหลายแก้ว ตอนที่ขุนนางเหล่านั้นส่งเหล้ามานั้น ท่าทางเขาดูสดใสเป็นอย่างมาก คอยพูดคุยถกเถียงกันกับผู้อื่น ทุกคนต่างพากันแนะนำบุตรสาวของตน เขาก็คอยดูอยู่อย่างระมัดระวัง อีกทั้งยังชื่นชมว่าต่างก็งดงาม บ้างก็บอกว่าเป็นคนอ่อนโยน รอยยิ้มนั้นดูกว้างจนไปถึงหลังหู
จื่ออันมองมาจากที่ไกล ๆ รู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก ยังจะบอกว่าหากว่ามีคนเข้ามาพัวพันเขาแล้วให้นางเข้าไปช่วย มองรอยยิ้มของเขาแล้วมิรู้ว่ารื่นเริงเพียงใด ยังจะต้องการให้นางเข้าไปชาวยยอีกเหรอ?
เฉินหลิวหลิ่วจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตลอดเวลา จนถึงตอนนี้เซียวท่าก็ยังไม่มา ยังดีที่เหล้าปลาอาหารไม่เลวนัก เมื่อกินเสร็จแล้วพบว่าจื่ออันราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงได้เอ่ยถาม “เจ้าไม่มีความสุขหรือ?”
จื่ออันส่ายศีรษะ “มีความสุขมาก”
“มีความสุขทำไมถึงได้ไม่กินอะไร? กินตอนร้อนดีที่สุด” ตระกูลเฉินค่อนข้างที่จะประหยัดมัธยัสถ์ มีเพียงช่วงฉลองปีใหม่หรือเทศกาลต่าง ๆ เท่านั้นจึงจะมีอาหารจานเลิศรส แน่นอนว่าในวันปกติแล้วก็ไม่ได้แย่ เพียงแต่ไม่มีอาหารเลิศรสเพียงเท่านั้น