ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 329
ซีเหมินเสี่ยวเยว่ทำท่าทางเหมือนรู้สึกผิด “ที่ท่านแม่พูดมาก็มีเหตุผล เป็นเพราะอาสะใภ้รองประมาทเกินไป และก็ต้องโทษนางด้วยที่ไว้ใจเซี่ยหว่านเอ๋อ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเมื่อเห็นว่านางวกกลับมาที่จวนมหาเสนาบดีอีก ในใจก็รู้สึกโกรธ ซีเหมินเสี่ยวเยว่ผู้นี้ดูท่าจะไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย ๆ เสียแล้ว
มหาเสนาบดีเซี่ยกล่าวถาม “ตอนนี้ฮูหยินรองวางแผนจะทำเช่นไรเล่า?”
ซีเหมินเสี่ยวเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “เรื่องนี้… นางคิดว่าการที่บุตรชายของนางถูกดึงเข้าไปข้องเกี่ยวด้วย แต่เซี่ยจื่ออันกลับไม่ได้รับอันตรายอันใดเลยสักนิด แน่นอนว่านางก็คงจะรู้เจ็บใจ ไม่ทราบว่า…”
นางเงยหน้าขึ้นแล้วมองมหาเสนาบดีเซี่ยและก็หยุดพูด แต่ใจนางรู้ดีว่าที่นางแสดงอาการเช่นนี้ ฮูหยินผู้เฒ่ากับมหาเสนาบดีจะต้องเข้าใจสิ่งที่นางต้องการจะสื่อ
มหาเสนาบดีเซี่ยมีสีหน้าที่เคร่งขรึม “วันนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่ควรจะลงมือ เจ้าก็น่าจะรู้”
“ข้ารู้ ข้าทราบดี” ซีเหมินเสี่ยวชิ่งรีบพูด “ข้าไม่เคยรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน เพียงแต่อาสะใภ้รองมาที่เรือนหอของข้า ข้าก็อดไม่ได้ที่จะระบายความคับข้องใจ เพื่อข้าแล้วนางได้ออกหน้าเรียกเซี่ยหว่านเอ๋อมาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ อยากสอนบทเรียนให้เซี่ยจื่ออันเสียหน่อย นึกไม่ถึงเลยว่าจะดึงชิ่งเอ๋อเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จะว่าไปแล้วนางก็แค่อยากทำให้ข้าสบายใจ หากข้ายืนดูอยู่เฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรเลย ข้าเองก็ทำไม่ได้”
พูดพลาง หางตาของนางก็เปียกเล็กน้อย
มหาเสนาบเซียรู้สึกรำคาญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขาเข้าใจความหมายที่ซีเหมินเสี่ยวเยว่สื่อออกมาดี ก็คืออยากให้พวกเขาลงมือกำจัดเซี่ยจื่ออันให้
แต่ว่าวันนี้ยังจะลงมือได้เช่นไร? มีแขกเหรื่อมาร่วมงานมากมาย และก็เกิดเรื่องโกลาหลไปแล้วด้วย
ซีเหมินเสี่ยวเยว่เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่ได้พูดอะไร จึงกล่าว “ความหมายของอาสะใภ้รองก็คือ หากจัดการกับเซี่ยจื่ออันได้ อย่างน้อย ๆ ท่านปู่ด็จะได้ระบายความโกรธออกไปบ้าง การที่ชิ่งเอ๋อต้องเข้าไปเกี่ยวข้องจะได้ถือว่าคุ้มค่า ใช่หรือไม่? จะให้ตระกูลของจิ้นกั๋วกงโชคร้าย แต่เซี่ยจื่ออันกลับมีความสุขและอิสระเช่นเดิมได้อย่างไร?”
ฮูหยินผู้เฒ่าเบื่อหน่ายกับคำขู่เช่นนี้ “เสี่ยวเยว่พูดถูกแล้ว แต่จิ้นกั๋วกงก็เป็นคนที่มีเหตุผล หากลองพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจังดูแล้ว มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับจวนมหาเสนาบดีของเรา เป็นเพราะฮูหยินรองจัดการด้วยตนเอง”
ซีเหมินเสี่ยวเยว่ที่ได้ยินฮูหยินผู้เฒ่าพูดดังนั้นก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ เพียงแต่พูดออกไปด้วยท่าทางที่เจียมเนื้อเจียมตัว “ท่านแม่พูดได้ถูกต้อง เรื่องนี้จะโทษจวนมหาเสนาบดีของพวกเราก็ไม่ได้ แต่องค์รัชทายาทก็เข้ามาพัวพันด้วย ถึงแม้ท่านปู่จะโกรธ ก็ไม่อาจระบายใส่จวนมหาเสนาบดีได้ เพียงแต่ ได้ยินมาว่าวันนี้องค์รัชทายาทกับหว่านเอ๋อดูเหมือนจะมีปากเสียงกัน อีกทั้งองค์รัชทายาทยังเชื่อฟังท่านราชครูมาโดยตลอด เวลาท่านปู่อยู่กับท่านราชครูและฮองเฮาจะต้องพูดอะไรบ้างเป็นแน่ อีกทั้งหวงไท่โฮ่วก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของวังหลังมาเป็นเวลานานแล้วใช่หรือไม่? บางทีท่านปู่อาจจะช่วยได้”
ฮูหยินผู้เฒ่าหยุดพูดไปในทันที อันที่จริงแล้วจวนมหาเสนาบดีในตอนนี้จำเป็นต้องใช้ความมั่นคงจากการอภิเษกของเซี่ยหว่านเอ๋อกับองค์รัชทายาทมาก
มหาเสนาบดีเซี่ยยังคงกล่าวด้วยความลำบากใจเล็กน้อย “เสี่ยวเยว่ อันที่จริงแล้ว ถึงเจ้าไม่พูด แต่เกี่ยวกับเซี่ยจื่ออันบุตรสาวคนนี้ ข้าก็ไม่ได้มีความรู้สึกผูกพันธ์กับนางเลยสักนิดเดียว เพราะนางก่อเรื่องมากมายเพื่อทำลายจวนมหาเสนาบดี ดังนั้นไม่ช้าก็เร็วก็ต้องกำจัดนางไปอยู่แล้ว อีกทั้งในใจข้าก็มีแผนอยู่แล้วด้วย แต่ต้องดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน หากดึงดันจะให้ลงมือในวันนี้ ไม่ใช่ว่าไม่ได้นะ แต่ว่าผลลัพธ์ที่ได้คงไม่เป็นดั่งที่คาดหวังไว้”
มหาเสนาบดีเซี่ยเตรียมแผนการไว้แล้วจริง ๆ แต่ซีเหมินเสี่ยวเยว่คิดว่าเขากำลังหลบเลี่ยง แล้วนางจะรอแผนการที่ไม่รู้ว่ามีจริงไหมได้อย่างไร?
เรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไข และทางจวนมหาเสนาบดีต้องลงมือเองด้วย มิเช่นนั้นจะอธิบายให้ท่านปู่ฟังได้เช่นไร
“อันที่จริงแล้ว ข้าเองก็มีแผน” ซีเหมินเสี่ยวเยว่ทำตาหลุกหลิก
ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าว “เจ้าลองว่ามาซิ!”
ซีเหมินเสี่ยวเยว่ลดเสียงของนางลง และพูดแผนของนางออกมา
หลังจากฮูหยินผู้เฒ่าได้ฟังแล้ว ก็จ้องไปที่นางอย่างว่างเปล่าโดยที่ไม่ได้พูดอะไรเป็นเวลานาน
นางรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเบิกบานใจเช่นกัน