ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 335
จื่ออันมองกลับไป พบว่าใบหน้าของเซียวท่าดูซีดเซียวจริง
นางเดาว่าเป็นเพราะในตอนที่เข้าไปในป่าไผ่โดนงูพิษกัดเอา ป่าไผ่แห่งนั้นมีงูเขียวตัวเล็กอยู่ พิษร้ายแรงนัก แต่ว่าพวกเขาในเมื่อกล้าเข้าไปแล้ว คงจะนำยาถอนพิษติดตัวไปด้วย
หากว่ายังไม่ได้ถอนพิษ มู่หรงเจี๋ยก็คงจะมาหานางแล้ว แต่กลับนั่งอยู่ตรงนั่นดุจภูเขาไท่ซานรอดื่มเหล้าอยู่
จื่ออันจริง ๆ แล้วไม่ได้คิดว่าเซี่ยหว่ายจุนจะบ้าคลั่งได้ถึงกับแอบคนไว้ในจวนมหาเสนาบดีได้ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าจวนมหาเสนาบดีจะจัดงานเลี้ยงแต่งงาน ก็ไม่ควรจะทำเยี่ยงนี้
มู่หรงเจี๋ยทำเยี่ยงนี้ ใช่ไม่ใช่ว่าทำเกินไป?
มู่หรงจ้วงจ้วง ฮูหยินผู้เฒ่า ชุยไท่เฟย เหล่าไท่จวิน และเหลียงซื่อนั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน นางพบจื่ออันและหลิวหลิ่ว จึงได้ทักทายพวกนางกลับไป
จื่ออันนำหลิวหลิ่วเดินเข้ามา เดิมคิดเพียงว่าจะเข้ามาทำความเคารพชุยไท่เฟยและเฉินไท่จวิน แต่ว่าจ้วงจ้วงกลับให้พวกนางทั้งสองนั่งลง
ความหมายของจ้วงจ้วงนั้นจื่ออันเข้าใจเป็นอย่างดี มีเหล่าไท่จวิน และชุยไท่เฟยอยู่ด้วยแล้ว ต่อให้ฮูหยินผู้เฒ่าต้องการจะเอาเปรียบนาง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
จื่ออันนั่งด้านข้างของเหล่าไท่จวิน เฉินไท่จวินเอ่ยเสียงต่ำ “เรื่องของหลานสาวข้า จัดการเป็นอย่างไรแล้วบ้าง?”
จื่ออันเผยยิ้มออกมา “ไท่จวินมิต้องใจร้อนเจ้าคะ “เมื่อน้ำมาคลองก็คงจะเกิดในเร็ว ๆ นี้เจ้าคะ”
ชุยไท่เฟยได้ยินมาจากด้านข้าง จึงยิ้มก่อนที่จะเอ่ยออกมา “ อ่า เหล่าเฉิน เจ้าไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ข้ารู้ว่าพวกเจ้าวางแผนอะไรเกี่ยวกับหลานสาว คงจะเป็นเรื่องงานแต่งงานของหลิวหลิ่วใช่หรือไม่?
เฉินไท่จวินสีหน้ากังวลใจ “จะไม่ใช่หรือ? ข้ากังวลจนจะแย่แล้ว”
“วาสนาเป็นเรื่องที่จะไปกังวลมันไม่ได้ เจ้าดูองค์หญิงของพวกเราสิ ยี่สิบแปดเข้าไปแล้ว ก็ยังไม่ลงตัวอีก” ชุยไท่เฟยไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะยกเรื่องของมู่หรงจ้วงจ้วงขึ้นมาพูดถึง นี่ก็มิอาจกล่าวโทษชุยไท่เฟยได้ ทุกครั้งที่เข้าวังไปถวายพระพรให้แก่เหล่าไท่โฮ่วนั้น เหล่าไท่โฮ่วมักจะเอ่ยถึงงานอภิเษกของจ้วงจ้วง บอกว่ารับสั่งของไท่ฮวงไท่โฮ่ว ยังไม่สำเร็จสักที ในใจจึงไม่สงบสุขนัก
เฉินหลิวหลิ่วได้ฟังอยู่ข้าง ๆ เอ่ยอย่างสงสัย “องค์หญิงเพิ่งจะอายุสิบหกปี?”
เฉินไท่จวินหัวเราะเอ่ยออกมา “เด็กโง่ องค์หญิงอายุยี่สิบแปดปีแล้ว”
จ้วงจ้วงใบหน้าเริ่มจะมืดมน “ไท่จวินก็ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงอายุของข้าก็ได้ ข้าจำได้”
“อายุยี่สิบแปดปียังอ่อนเยาว์อยู่ หม่อมฉันเองอายุเจ็ดสิบแปดปีแล้ว” เหล่าไท่จวินนึกถึงช่วงเวลาอ่อนเยาว์ของตน ค่อยๆถอนหายใจ
“เหล่าไท่จวิน วันนี้ท่านช่างมีวาสนาดีนัก ได้ลูกสะใภ้ที่มีคุณธรรม แตกกิ่งผลิใบให้แก่ตระกูลเฉิน แม่ทัพทั้งสิบสองท่านนี้ช่างโดดเด่นยิ่งนัก เป็นปราการสำคัญให้แก่ต้าโจวของพวกเรา” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยยิ้ม
เหล่าไท่จวินมองไปยังด้านข้างของนาง “ในด้านการเลือกลูกสะใภ้นี้ ข้าแข็งแกร่งกว่าเจ้าจริง ๆ ลูกสะใภ้ทั้งสี่ของเจ้านี้ นอกจากหยวนซื่อแล้ว ผู้อื่นต่างไม่ได้มีอะไรดีนัก”
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยออกมาเพียงเพราะอยากจะเข้าใกล้นาง คาดไม่ถึงว่ากลับถูกเหล่าไท่จวินเอ่ยตอบกลับมา ใบหน้าแสดงออกว่าไม่พอใจ แต่เมื่อนึกถึงเฉินหลิงหลง หลิวซื่อและซีเหมินเสี่ยวเยว่ จริง ๆ ก็ไม่ได้ดีอะไรมากนัก
ไม่มีคำอธิบายออกมา นางได้แต่นั่งเงียบ ทำได้เพียงแต่ในใจจดจำความโกรธแค้นต่อเหล่าไท่จวิน
ชุยไท่เฟยนั้นมีจิตใจที่เมตตา จึงได้รีบร้อนแทรกกลางหัวข้อสนทนานั้น แต่ว่ากลับเสียดแทงเข้าไปกลางใจของจ้วงจ้วง “องค์หญิง เจ้าคนสารเลวเซียวเซียวนี้ ท่านก็ไม่ต้องกังวลใจกับมันมากนัก”
จื่ออันก็ได้ฟังถึงชื่อเซียวเซียวนี้อีกครั้ง นางมองมายังจ้วงจ้วง พบว่าในหน้าของนางจู่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว เหมือนกับว่าโดนผู้อื่นตีลงไปที่หน้าท้อง พึ่งจะพบว่ามีผู้อื่นที่มีพื้นที่สำคัญอยู่ในใจของนาง
นางมองมายังหลิวหลิ่ว หลิวหลิ่วเองก็กำลังมองจ้วงจ้วง แม่เด็กสาวผู้นี้ดูราวกับน่าสงสารเล็กน้อย
“ไท่เฟยจะบังคับให้ข้าต้องไปนั่งที่อื่นหรือ?” จ้วงจ้วงเอ่ยด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
ไท่เฟยถอนหายใจเบา ๆ “ได้ ข้าไม่พูดแล้ว กลับไปข้าก็คงจะดูเป็นคนเลว ดูสิ เริ่มบริการแล้ว”
ฮูหยินสั่งให้คนรินเหล้า เด็กรับใช้สองคนเริ่มรินเหล้า แต่มีหนึ่งในนั้นคนนึงที่รินให้เพียงจื่ออันและเหลียงซื่อ จากนั้นจึงได้เร่งถอยออกไป
ในตอนที่รินเหล้านั้น ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยยิ้มเล็กน้อย “ขาหมูน้ำแดงในวันนี้พวกท่านต้องลองชิม เริ่มทำลงหม้อกันตั้งแต่เช้ามืด ใช้ไฟอ่อนตุ๋น เข้าปากไปก็ละลายทันที รสชาติดียิ่งนัก”