ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 336
ชุยไท่เฟยเอ่ยออกมา “ฟันข้าไม่ค่อยดีนัก ตุ๋นสักเล็กน้อยข้าก็กินได้แล้ว ลำบากฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว”
เหล่าไท่จวินเอื้อมมือไปหยิบเหล้า แต่กลับไม่ระวังทำตะเกียบตก ในตอนที่จื่ออันก้มตัวลงไปเก็บนั้น เหล่าไท่จวินเองก็ก้มลง ทั้งยังรีบเอ่ยข้างหูนาง “เหล้าของเจ้ามีปัญหา”
จื่ออันจริง ๆ แล้วก็ตรวจพบเช่นกัน แต่มิได้ส่งเสียงออกมา เด็กรับใช้ที่รินเหล้าให้นางและเหลียงซื่อนั้น เป็นเด็กรับใช้คนสนิทข้างกายฮูหยินผู้เฒ่า เซี่ยฉวนได้โยกย้ายคนจนเพียงพอแล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องให้คนในเรือนของฮูหยินผู้เฒ่าออกมาช่วยงาน
ต่อให้ออกมา ก็เพียงแค่คอยรับใช้ฮูหยินผู้เฒ่า ไม่จำเป็นต้องรินเหล้าให้แก่ผู้อื่น โดยเฉพาะในตอนที่มีเด็กรับใช้คอยรินเหล้าไว้ให้อยู่แล้ว
แต่ว่าแปลกนักทำไมนางถึงได้วางยาพิษลงไปในเหล้าของเหลียงซื่อ
ทาสรับใช้เริ่มจะนำอาหารเข้ามา แต่ละจานถูกจัดวางอย่างประณีต มีสีสัน มีกลิ่นหอม และรสชาติต่างมีครบครัน
แต่ว่าความกระหายอยากของแต่ละคนนั้นจริง ๆ แล้วก็ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะว่าเมื่อช่วยบ่ายได้มีการรับประทานไปแล้ว ตอนนี้เพิ่งถึงยามเย็น เพิ่งจะห่างกันเพียงแค่ครึ่งชั่วยามเท่านั้นเอง
ทุกคนเพียงแค่รอระบำมังกรไฟมาถึง เพราะว่าขุนนางที่สามารถเชิญระบำมังกรไฟได้นั้นจริง ๆ แล้วมีน้อยมาก โดยส่วนมากแล้วจะเป็นครอบครัวพ่อค้า คหบดีเป็นส่วนมาก
ในตอนที่ฮูหยินผู้เฒ่าดื่มเหล้ามงคลนั้น จื่ออันก็แสร้งทำเป็นว่ายกถ้วยเหล้าขึ้นมาด้วย หลังจากดื่มเหล้าเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ใช้แขนเสื้อแสร้งเป็นบิดบังแล้วจึงเงยหน้าขึ้น แต่ว่าเหล้านั้นกลับเทลงในแขนเสื้อทั้งหมด แม้แต่หยดเดียวก็ไม่ได้ดื่มลงไป
จื่ออันมองไปยังเหลียงซื่อ นางดื่มทั้งหมดลงไป ดูท่าแล้ว นางคงจะมียาถอนพิษไว้ตั้งแต่ต้น หรือไม่อาจจะไม่รู้ว่าในเหล้านั้นมีปัญหา
นางแสร้งไม่ตั้งใจมองไปยังฮูหยินผู้เฒ่า นางเดิมจ้องมองจื่ออันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ว่าเมื่อตอนที่จื่ออันหันกลับมามองเห็นนั้น นางก็รีบหันกลับไปอย่างเร็ว
กินไปพอประมาณแล้ว ซีเหนียงเดินเข้ามาเอ่ยกับฮูหยินผู้เฒ่า “ฮูหยินผู้เฒ่า บ้านฝั่งเจ้าสาวเมื่อทานอาหารเสร็จแล้วจะต้องกลับไปแล้วเจ้าคะ ตามธรรมเนียมแล้ว จะต้องให้คุณหนูรองนำของขวัญที่จะส่งกลับบ้านเจ้าสาวตรวจนับใส่ในใบรายการด้วยตนเองให้แก่บ้านฝั่งเจ้าสาว ท่านว่า ควรจะเรียกคุณหนูรองออกมาได้แล้วหรือยังเจ้าคะ?”
เรื่องการจัดการของขวัญตอบกลับเหล่านี้นั้น เดิมนั้นควรเป็นน้องสะใภ้หรือพี่สะใภ้ที่เป็นคนจัดการ แต่ว่าน้องสะใภ้หลิวซื่อนั้นได้ถูกขับไล่ออกไปแล้ว อีกทั้งยังไม่มีพี่สะใภ้ จึงทำได้เพียงแต่ให้ผู้ที่โขกหัวคำนับแล้วอย่างเซี่ยหว่านเอ๋อเป็นผู้จัดการ
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ย “ได้ ข้าจะให้คนไปเรียกหาเดี่ยวนี้”
นางเงยหน้าเหลือบมองอยู่ครู่นึง เห็นเพียงแต่ศีรษะผู้คนเต็มไปหมด แต่กลับไม่พบเซี่ยหว่านเอ๋อ
“เซี่ยฉวน ไปตามหาคุณหนูรองสักหน่อย” นางเอ่ยสั่ง
เซี่ยฉวนโค้งตัวคำนับ “ขอรับ บ่าวจะรีบสั่งคนให้ไปตามมาขอรับ”
เหล่าไท่จวินเอ่ยเบา ๆ “คุณหนูรองเมื่อครู่ตามองค์รัชทายาทออกไป หลังจากนั้นก็ไปก็ไม่พบนางอีกเลย”
ฮูหยินผู้เฒ่าตะลึงไปครู่นึง “ใช่หรือ? ข้ามิทันได้สังเกต เจ้าเด็กคนนี้ หรือว่าจะตามองค์รัชทายาทออกไปล่องทะเลสาบซะแล้ว?
ซุยไท่เฟยเอ่ยยิ้ม “งานอภิเษกของพวกเขาได้กำหนดไว้แล้ว ออกไปเที่ยวเล่นกันเพียงครู่ก็ไม่ได้ผิดอันใด เจ้าก็ไม่ต้องควบคุมมากนัก ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยอย่างไม่ชอบใจนัก “วันนี้เป็นวันมงคลของบิดา ก็ควรจะระวังสำรวมให้ดีสักหน่อย”
เซี่ยฉวนเอ่ย “ฮูหยินผู้เฒ่ามิต้องกังวลไป บ่าวจะไปหาเดี่ยวนี้ขอรับ” พูดจบก็หมุนตัวออกไป
เหล่าไท่จวินเงยสายตาขึ้น เหลือบมองไปทางฮูหยินผู้เฒ่าแวบนึง “ได้ข่าวมาว่างานอภิเษกของคุณหนูรองและฝ่าบาท ยังมิได้รับความเห็นชอบจากฮวงไท่โฮ่ว เป็นดังนี้หรือไม่?”
ฮูหยินผู้เฒ่าใบหน้าดูแข็งกระด้าง “ใช่หรือ?มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ?เหล่าไท่จวินไปได้ฟังข่าวมาจากที่ใดกัน?”
เหล่าไท่จวินยิ้ม “ไม่ใช่หรือ? ข้าเองก็ลืมไปเสียแล้วว่าฟังมาจากผู้ใด แต่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าบอกว่าไม่มี เช่นนั้นก็คงจะไม่มี”
เรื่องเหล่านี้นั้น ทุกคนต่างก็รู้กัน แต่ว่าไม่มีผู้ใดที่จะเอ่ยถามต่อหน้า
ฮูหยินผู้เฒ่าคิดว่า นางค่อนข้างที่จะไม่มีมารยาท เป็นแขกกลับไม่ไว้หน้าเจ้าบ้านแม้เพียงครึ่ง ดังนั้นสีหน้าจึงไม่ค่อยดีนัก