ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 347

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 347

ดวงตาของจื่ออันก็เปล่งประกายราวกับดวงดาวเช่นกัน นางมองเขาอย่างหนักแน่น แล้วถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก “ขอบพระทัยเพคะ!”

ขอบคุณที่ท่านเข้ามาตามหาข้า ขอบคุณที่ไม่เพิกเฉยต่อความปลอดภัยของข้า และขอบคุณที่ดูแลข้าเสมือนเป็นสหายของท่าน

มู่หรงเจี๋ยมีท่าทางที่แลดูผิดปกติไปจริง ๆ หากไม่ใช่เพราะทำสีหน้าให้น่ากลัว เกรงว่าครั้งนี้บนใบหน้าเขาคงจะปรากฎสีแดงระเรื่อขึ้นมาแทน

“บอกข้ามา ว่าเจ้าหนีออกมาได้อย่างไร?” มู่หรงเจี๋ยกล่าวถามอย่างจริงจัง ย่าของนางก็อยากรู้มากเช่นกัน ทั้งที่เรือนด้านข้างนั่นก็ถูกปิดไว้อยู่ ประตูและหน้าต่างก็ปิดอย่างสนิท แล้วนางจะหนีรอดออกมาได้อย่างไร

เมื่อจื่ออันกำลังจะเล่า ก็ได้เห็นซูชิง เซียวท่า และจ้วงจ้วงชะโงกหน้าออกมาจากด้านหลังของต้นไม้ รอฟังนางเล่าอย่างเงียบ ๆ

จื่ออันยิ้มแล้วยิ้มอีก “เอาล่ะ ไฟในเรือนหอก็ยังไม่ดับดี และในสนามหญ้าก็รกไปเสียหมด ไม่ทราบว่าทุกคนสนใจจะไปนั่งที่เรือนเซี่ยจื่อหย่วนเพื่อดื่ม… สุราสักจอกกันหรือไม่?”

นางเหลือบมองไปที่มู่หรงเจี๋ย วันนี้เขาสามารถดื่มสุราจอกนึงได้

มู่หรงเจี๋ยพูดไม่ออกในทันที เมื่อได้ยินที่นางชวนให้ไปนั่งดื่มอะไรสักอย่างที่เรือนเซี่ยจื่อหย่วน และพอได้ยินคำต่อมา เขาก็เข้าใจได้ในทันที “ไม่ไป…ได้อย่างไรกัน? มันจะเป็นการเสียมารยาทถ้าไม่ตอบรับคำเชิญของเจ้า ไปนั่งพักสักหน่อยก็ดี”

“ใช่แล้ว ต้องไป ต้องไปแน่ ถ้าไม่ไปจะเป็นการเสียมารยาท!” เซียวท่าก้าวออกมา เน้นย้ำคำพูดของมู่หรงเจี๋ย

จื่ออันเหลือบมองเซียวท่าเล็กน้อย “คนที่ถูกพิษไม่ควรดื่มสุรา เลือดจะไหลออกมา และพิษของท่านก็จะกำเริบขึ้นมาอีก”

“ไม่เป็นอุปสรรคหรอกน่า ทานยาลูกกลอนแก้พิษไปแล้ว” เซียวท่าพูดพลาง แล้วก็มองนางไปพลาง ผู้หญิงคนนี้สายตาไม่เลวเลย มองออกด้วยว่าเขาถูกพิษ ช่างเถิด หากถูกงูกัดก็ถือว่าถูกพิษก็แล้วกัน วันนี้เขากระทำการผิดพลาดเพราะประมาทเกินไป คนที่คลุกคลีกับพวกงูพิษมาเป็นเวลานาน กลับถูกงูเขียวตัวเล็ก ๆ กัดเสียได้ ยังโชคดีที่เขานำยาแก้พิษงูติดตัวมาด้วยจึงเอามาใช้แก้พิษได้

พวกเขาเดินไปที่เรือนเซี่ยจื่อหย่วนพลางพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เดินผ่านสนามหญ้าที่รกร้าง และผ่านทางเดินเข้าไป ก็มาถึงสนามหญ้าเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ

เมื่อเทียบกับภายนอกแล้ว ที่นี่ต่างออกไปเหมือนเป็นคนละโลก เพราะแต่เสียงที่ดังอยู่ภายนอก เมื่ออยู่ที่นี่แล้วก็แทบจะไม่ได้ยินอะไรเลย

ผมของเหลียงซื่อถูกเผาไหม้ไปมาก และยังมีรอยไหม้ที่ใบหน้า แต่โชคดีที่มันไม่สาหัสมากมายนัก นางนอนอยู่บนเตียงอย่างอ่อนแอ ยังไร้ซึ่งเรี่ยวแรงเช่นเดิม เมื่อเห็นว่าจื่ออันพาทุกคนมาที่นี่ นางก็อยากจะลุกขึ้นมา เสี่ยวซุนรีบหยุดนางไว้ “ฮูหยินรอง ท่านยังต้องนอนพักต่อไป อย่าพึ่งลุกขึ้นมานะเจ้าคะ”

มู่หรงเจี๋ยเหลือบมองเหลียงซื่อเล็กน้อย และเหลียงซื่อก็ได้โค้งคำนับด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ “ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ ถวายบังคมองค์หญิงเพคะ”

เมื่อเห็นว่ามู่หรงเจี๋ยมองเหลียงซื่ออย่างเอาเป็นเอาตายขนาดนั้น จื่ออันก็พูดขึ้นมา “เอาล่ะ เรื่องของวันนี้ที่เกิดขึ้นในตอนเที่ยงก็ปล่อยมันไปก่อน อย่างไรเสียทุกคนก็ต่างเอาชีวิตแทบไม่รอดมาพร้อมกัน ไว้หน้ากันก่อนเถิด”

เหลียงซื่อพอนึกถึงเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น นางก็อ่อนแรงขึ้นมา อีกนิดเดียวก็จะตายอยู่ในนั้นแล้ว

มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเฉยเมย “เจ้าพานางออกมาใช่ไหม? เจ้ายังถูกคนทำร้ายไม่เพียงพออีกหรือ?เจ้านี่ช่างโง่เขลาเสียจริง ถึงเวลานั้นถ้าเจ้าตายขึ้นมาก็ไม่รู้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาบ้าง”

อันที่จริงแล้วจื่ออันก็เกลียดเหลียงซื่อมาก เพราะแผนการของนางกับซีเหมินเสี่ยวเยว่เกือบจะทำให้กุ้ยหยวนตายไปแล้ว แต่ว่าเกลียดก็ส่วนเกลียด แต่ในท้ายที่สุดจื่ออันก็เลือกที่จะพานางออกมา เพราะประโยคสุดท้ายที่นางได้กล่าวออกมา

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท