ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 372

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 372

เพราะเหตุนี้ จื่ออันจึงได้ให้เสี่ยวซุนคอยดูแลจัดการตาวเสี่ยวเอ้อให้เป็นอย่างดี และนำตาวเหล่าต้ากลับมายังจวน

จื่ออันไม่รู้ว่าในตอนนี้นั้น ผู้ที่ใช้สำเนียงท้องถิ่นเสียงเข้ม อย่างตาวเหล่าต้านั้น ขยับเพียงนิดก็จะฟาดลงไปที่ผู้คน หลังจากที่บุกเข้ามาอยู่ในชีวิตของนางโดยมิได้ตั้งใจแล้วนั้น เขาก็จะอยู่กับนางไปอีกทั้งชีวิต

เมื่อกลับมาถึงจวนแล้วนั้น ก็เป็นช่วงที่พระอาทิตย์กำลังอยู่ทางด้านทิศตะวันตกแล้ว

ฮูหยินผู้เฒ่าทำตามคำพูดได้ส่งสัญญาขายตัวของกุ้ยหยวนมาแล้ว ในที่สุดกุ้ยหยวนหลังจากที่ถูกพวกเขาทำร้ายมาแล้วหนึ่งวัน ก็สามารถกลับมายังเซี่ยจื่อหย่วนได้

แต่ว่าจื่ออันรู้ดีว่าหากกุ้ยหยวนยังคงอยู่ในจวน ยังคงอยู่ข้างกายนางก็คงจะยังไม่ปลอดภัย นางจึงคิดวิธี หาทางออกที่ดีให้แก่กุ้ยหยวน

เช้าวันรุ่งขึ้น มีพระราชเสาวนีย์ออกมาจากในวัง เป็นพระราชเสาวนีย์ของฮวงไท่โฮ่ว ผู้ที่นำพระราชเสาวนีย์มานั้นเป็นอ๋องหลี่ ไม่ใช่พระราชเสาวนีย์อภิเษกของจื่ออัน แต่เป็นพระราชเสาวนีย์แต่งตั้งหยวนซื่อให้เป็นเสี้ยนจู่

ฮวงไท่โฮ่วนั้นมิได้ชอบพอหยวนซื่อมากนัก แต่ที่นางออกพระราชเสาวนีย์ออกมาด้วยพระองค์เองนั้น เป็นเพราะว่าผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดินั้นได้เอ่ยออกมาแล้ว

อ๋องหลี่เมื่ออ่านพระราชเสาวนีย์เรียบร้อยแล้วนั้น จึงได้ให้หยวนซื่อเก็บของพระราชทานเอาไว้ให้ดี จากนั้นจึงได้เอ่ยออกมาต่อหน้าฮูหยินผู้เฒ่าและมหาเสนาบดีเซี่ยว่า “ฮวงไท่โฮ่วได้เอ่ยเอาไว้ในพระราชเสาวนีย์ว่า ที่ดินผืนนั้นที่จวนมหาเสนาบดีรุกล้ำ ตอนนี้ได้ประทานให้แก่ชิงตานเสี้ยนจู่ ดังนั้นข้าจะให้ศาลาว่าการนั้นรีบเข้ามาวาดโฉนดโดยเร็ว ให้แยกออกจากจวนมหาเสนาบดี”

ซีเหมินเสี่ยวเยว่เอ่ยออกมา “ท่านอ๋อง ที่ดินผืนนั้นจวนมหาเสนาบดีได้จ่ายเงินชดเชยออกไปแล้ว จะคิดรวมเข้าไปได้อย่างไรกันเพคะ?”

“ฮูหยินเสี่ยวเยว่จะให้ไต่สวนเรื่องนี้หรือ? ได้ ให้ศาลาว่าการยื่นเรื่องไต่สวนกันก่อน หากว่าได้มีการจ่ายเงินชดเชยออกไปแล้วจริง ๆ ราชสำนักจะนำเงินส่วนนี้คืนกลับมาให้”

ซีเหมินเสี่ยวเยว่เอ่ยเถียงออกมาด้วยเหตุผล “จะคืนได้อย่างไรกันเพคะ? มิใช่บอกว่านี่เป็นที่ดินของรางวงศ์หรอกหรือเพคะ? หากเป็นของราชวงศ์แล้ว จวนมหาเสนาบดีก็มิควรที่จะจ่ายเงินให้แก่ประชาชน และถ้าหากมิใช่ที่ดินของราชวงศ์แล้ว ก็ไม่ควรที่จะประทานให้แก่หยวน… ชิงตานเสี้ยนจู่!”

อ๋องหลี่มองไปยังนาง “แผ่นดินล้วนเป็นขององค์จักรพรรดิ ฮูหยินเสี่ยวเยว่หากว่าต้องถกเถียงเรื่องนี้ขึ้นมา ก็ย่อมที่จะถกเถียงได้ ทว่าเจ้าคิดว่าโทษของจวนมหาเสนาบดีรุกล้ำที่ดินของประชาชนนั้นจะเบากว่า หรือโทษของราชวงศ์ใช้สอยที่ดินเบากว่ากัน?”

ฮูหยินผู้เฒ่าเหลือบชำเลืองมองยังซีเหมินเสี่ยวเยว่ “พอแล้ว เจ้าก็หุบปากได้แล้ว”

ซีเหมินเสี่ยวเยว่เดิมคิดเพียงแค่จะช่วยระบายอารมณ์ให้แก่จวนมหาเสนาบดี และยังไม่อยากยินยอมที่จะมอบอีกครึ่งหนึ่งให้แก่หยวนซื่อ ไม่คิดว่าเบื้องหลังนั้นยังจะมีเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่ โดนฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยดุไปคำนึง ถึงแม้ในใจจะโมโห แต่ก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงออกมา

ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยดุนางออกมา จึงได้คำนับให้แก่อ๋องหลี่พร้อมเอ่ย “ลำบากท่านอ๋องแล้วเพคะ เรื่องนี้ไม่ได้เอ่ยถึงว่าจะไต่สวนหรือไม่ไต่สวน ทำตามนี้เถิด ชิงตานเสี้ยนจู่เองก็เป็นคนของจวนมหาเสนาบดีเช่นกัน ที่ดินผืนนี้มอบให้แก่นาง ก็เหมือนกับมอบให้จวนมหาเสนาบดีเช่นกันเพคะ”

อ๋องหลี่ยกมือขึ้น “นี้เป็นเรื่องในครอบครัวของพวกเจ้า ข้าไม่สะดวกจะถามนัก”

พูดจบจึงได้หมุนตัวนำคนจากไป

เมื่อรับพระราชเสาวนีย์เรียบร้อยแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าจึงได้ให้มหาเสนาบดีเซี่ยประคองตนเดินออกไป ไม่อยากจะอยู่ที่นี้ต่อเผชิญหน้าจืออันและหยวนซื่อ

จื่ออันไม่แม้แต่จะมองพวกเขาสักนิด เพียงแต่ให้ตาวเหล่าต้าดูแลนำของพระราชทานนี้กลับไปยังคลังของเรือนเซี่ยจื่อหย่วน

จวนมหาเสนาบดีนั้นในตอนนี้มีซีเหมินเสี่ยวเยว่เป็นผู้ดูแลเรื่องต่าง ๆ เมื่อพบว่ามีคนมาใหม่ที่ไม่ใช่เด็กรับใช้ภายในจวน จึงได้เอ่ยถามกับจื่ออัน “เขาเป็นใครกัน? ได้ลงชื่อในใบรายชื่อของจวนแล้วหรือไม่? หากว่ายังไม่ได้ลงชื่อแล้วนั้น จวนมหาเสนาบดีก็จะไม่ให้เงินเดือนแก่เขา”

จื่ออันเหลือบมองใบหน้าแดงของนาง บาดแผลของนางนั้นตอนนี้เริ่มจะมีหยดน้ำเล็ก ๆ ออกมา แต่ก็ยังคงทาแป้งลงไปที่ข้าง ๆ บาดแผล “ไม่จำเป็นต้องลงรายชื่อ เขาเป็นเพียงคนของเรือนเซี่ยจื่อหย่วน ไม่ใช่ของจวนมหาเสนาบดี”

“แต่เขาก็ยังอาศัยอยู่ในจวนมหาเสนาบดีมิใช่หรือ? เซี่ยจื่อหย่วนเองก็เป็นของจวนมหาเสนาบดี หากว่าไม่ใช่คนของจวนมหาเสนาบดีแล้ว ก็มิอาจจะอาศัยอยู่ในจวนมหาเสนาบดีได้” ซีเหมินเสี่ยวเยว่เอ่ยเสียงแข็งกร้าว

จื่ออันหยิบหยกขึ้นมาคู่หนึ่ง หันกลับไปมองยังซีเหมินเสี่ยวเยว่ “หากว่าข้าเป็นท่านแล้ว ข้าคงจะกังวลใจว่าฮูหยินรองซีเหมินจะมาหาเรื่องท่าน ไม่ใช่คอยจ้องแต่จะจับผิดผู้อื่น และทำให้ผู้อื่นมาดูถูกเหยียดหยามอยู่เช่นนี้”

“เจ้าพูดเหลวไหลอะไรกัน?” ซีเหมินเสี่ยวเยว่ในใจนั้นสั่นไหว จริง ๆ แล้ว นางกลัวว่าเหลียงซื่อจะคอยมาก่อเรื่องยุ่งยากอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นที่เรือนด้านข้างนั้น เพียงแค่คนที่มีความคิด ก็จะรู้ได้ว่าเรื่องราวนั้นเป็นมาอย่างไร

จื่ออันยิ้มเย็น “ใช่หรือมิใช่พูดจาเหลวไหล ฮูหยินเสี่ยวเยว่ในใจคงจะรู้ดีเป็นที่สุด ข้าได้ยินมาว่า วันนี้ตั้งแต่เช้า เหลียงซื่อก็ได้กลับจวนจิ้นกั๋วกงไปแล้ว จวนจิ้นกั๋วกงในตอนนี้นั้น ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นบ้าง?”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท