ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 377
ตอนที่เหลียงซื่อเดินเข้ามาก็ไม่ได้เป็นจุดสนใจอะไร เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่มีงานเลี้ยงหรืองานรื่นเริงอะไรในจวน นางก็มักจะเดินวุ่นไป ๆ มา ๆ อยู่แล้ว
แต่ว่าครั้งนี้นางได้เดินตรงเข้ามานั่งลงทันที จากนั้นก็เอ่ยถามมหาเสนาบดีเซี่ย “จริงสิ เรื่องที่เกิดเพลิงไหม้ในวันแต่งงานของท่าน ท่านได้ตรวจสอบให้กระจ่างหรือยัง?”
จิ้นกั๋วกงก็ไม่พอใจที่จู่ ๆ นางก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ใบหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย และกล่าวตำหนิ “ฮูหยินรอง วันนี้ไม่เหมาะที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ค่อยคุยกันวันหลังเถิด”
เหลียงซื่อกลับยิ้มออกมาเบา ๆ เป็นรอยยิ้มที่เยือกเย็นเกินจะพรรณนาออกมาได้ “ไม่เหมาะสมอย่างไรหรือเจ้าคะ? ทุกคนล้วนก็อยู่ที่นี่กันหมดแล้ว เราก็ควรใช้โอกาสนี้พูดคุยถึงเรื่องนั้นกันไปเลยสิเจ้าคะ”
ซีเหมินเสี่ยวเยว่เหลือบมองไปที่นายท่านรองซีเหมิน เรื่องนี้เขาเองก็รู้เรื่องในภายหลัง เพราะหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น นางก็ได้บอกกับเขาไปแล้ว หลังจากที่ต้องอดทนอดกลั้นกับเรื่องที่เกิดขึ้น มหาเสนาบดีเซี่ยก็จะเสนอชื่อให้เขาเป็นรองเสนาบดีกรมอากร
นายท่านรองซีเหมินได้กลับมาเล่าให้จิ้นกั๋วกงฟังแล้ว ซึ่งเขาก็พอใจกับการตัดสินใจของซีเหมินเสี่ยวเยว่ เพราะว่ารองเสนาบดีกรมอากรถือเป็นตำแหน่งที่รายได้ดี ปีนึงมีการใช้จ่ายเงินจำนวนมากมาย
ที่สำคัญก็คือเขาจะถูกเลื่อนตำแหน่งให้เป็นเสนาบดีกรมคลังได้เร็วมาก ตำแหน่งรองเสนาบดีกรมคลังอยู่ไม่ไกลแล้ว เพียงแค่ได้รับการสนับสนุนจากมหาเสนาบดีเซี่ย ตำแหน่งรองเสนาบดีกรมอากรก็แค่ชั่วคราว ตำแหน่งรองเสนาบดีกรมคลังถึงจะคือเป้าหมายสูงสุด
เป็นเวลานานแล้วที่ตระกูลของจิ้นกั๋วกงไม่มีใครได้เป็นถึงขุนนางขั้นสอง
รองเสนาบดีกรมคลัง เป็นตำแหน่งขุนนางชั้นผู้ใหญ่ขั้นสอง สำหรับจวนกั๋วกงกล่าวได้ว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่
เขาถูกลิขิตให้ล้มเหลว โง่เขลามายี่สิบกว่าปี ก็เป็นได้แค่ตำแหน่งกระจอก ๆ ในศาลาว่าการ เขาหวังเพียงว่าจะมีสักคนที่สามารถเชิดหน้าชูตาได้ อย่าว่าแต่สังเวยชีวิตเหลียงซื่อเลย ให้สังเวยชีวิตตนเองเขาก็ยอม
“ท่านมหาเสนาบดี ตรวจสอบแล้วได้เรื่องว่าอย่างไรบ้าง?” เหลียงซื่อเมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบ ก็เลยถามเขาอีกครั้ง
มหาเสนาบดีตอบด้วยใบหน้าที่ดูซับซ้อน “ฮูหยินรองไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เรื่องนี้ได้ส่งให้กับทางศาลาว่าการตรวจสอบแล้ว แต่จากการสรุปเบื้องต้นแล้วก็น่าจะเป็นอุบัติเหตุ”
เหลียงซื่อยิ้มเย้ยหยัน “ในเมื่อมีคนของทางศาลาว่าการตรวจสอบให้แล้ว เช่นนั้นก็ควรมาถามข้าสิเจ้าคะ โดยเฉพาะที่ในวันนั้น ข้ากับคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเซี่ยก็อยู่ในกองเพลิงนั่นด้วยแล้ว”
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็ตกใจขึ้นมาในทันที
เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่จวนมหาเสนาบดีในวันแต่งงาน คนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนรู้เรื่อง รวมถึงไท่เป่าด้วย
แต่เพราะว่ามีศพเดียวที่ถูกยกออกมาจากกองเพลิง และสุดท้ายก็ได้ยืนยันแล้วว่าเป็นเซี่ยฉวน อีกทั้งเซี่ยจื่ออันกับเหลียงซื่อแม้ว่าจะมีคนบอกว่าพวกนางอยู่ด้านใน แต่ว่าพอดับไฟแล้ว เซี่ยจื่ออันก็ปรากฏตัวขึ้นมา ดังนั้นหลายคนจึงคิดว่า ตอนที่เกิดเพลิงไหม้พวกนางก็ได้ออกกันมาก่อนแล้ว
ฮูหยินผู้เฒ่าเมื่อได้ยินที่เหลียงซื่อพูด ก็รู้ได้ว่าท่าจะไม่ดีแล้ว เหลียงซื่อนางต้องการตอบโต้กลับ
นางรีบไกล่เกลี่ยข้อพิพาท “พอเถอะ วันนี้ถือเป็นวันที่ดี ยากนักที่ทุกคนจะมารวมตัวกันที่นี่ และใต้เท้าไท่เป่าก็มาแล้ว อย่าพูดถึงสิ่งที่ไม่น่ายินดีเลย”
จิ้นกั๋วกงเหลือบมองเหลียงซื่อ แสดงท่าท่างให้ทุกคนเห็นว่าเขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากแล้ว “เจ้าไปดูซิว่าอาหารกลางวันเตรียมไปถึงไหนแล้ว? เดิมทีเรื่องในจวนเจ้าก็เป็นคนดูแลจัดการได้ดีมาโดยตลอด ในเมื่อวันนี้ได้เชิญลูกเขยมา ก็อย่าได้ทำให้จวนกั๋วกงของเราขายหน้า”