ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 386
ตอนนี้ทางจวนกั๋วกงก็ยังไม่ทันได้เข้าไปเกี่ยวข้อง อันที่จริงก็ไม่ควรไปแปดเปื้อนกับเรื่องสกปรกพวกนี้อยู่แล้ว
“ท่านปู่!” ซีเหมินเสี่ยวเยว่สะอื้นไห้คร่ำครวญ นึกไม่ถึงว่าปู่ของตนเองจะทำตัวห่างเหินเหมือนคนที่ไม่รู้จักกันเช่นนี้
ไท่เป่ามองไปที่จิ้นกั๋วกง แล้วกล่าวเสียงเข้ม “เจ้าพูดเช่นนี้ ข้าเองก็วางใจได้แล้ว ต่อไปก็เตือนคนของเจ้าด้วยว่า ช่วยเก็บหางให้มิดชิดหน่อย หากก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ข้าก็จะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น”
จิ้นกั๋วกงกล่าวด้วยใบหน้าที่สลด “ขอบคุณไท่เป่าที่ตักเตือน ข้าจะจดจำคำของท่านไว้”
จิ้นกั๋วกงรู้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เดิมทีสามารถพูดให้กระจ่างได้ แต่ว่าไท่เป่าก็ไม่ได้ไล่บี้ต่อไป ถือเป็นการไว้หน้าจวนกั๋วกงแล้ว รักษาไว้ซึ่งเกียรติ ส่วนเรื่องที่ทางกรมอาญากับทางศาลาว่าการจะตรวจสอบหรือจับกุมใครอย่างไร เพียงแค่ไม่ได้เกิดเรื่องขึ้นในจวนกั๋วกง เขาก็จะได้ไม่ต้องไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
“ในเมื่อวันนี้วันเป็นการเลี้ยงฉลองต้อนรับลูกเขย อาหารก็จัดเตรียมไว้แล้ว ก็ทานอาหารมือนี้กันให้เบิกบานใจกันเถิด เรื่องของวันพรุ่งนี้ ก็ค่อยคิดกันวันพรุ่ง จะได้ไม่ทำให้การมาของเหล่าผู้อาวุโสเป็นการสูญเปล่า”
คำพูดนี้ของไท่เป่า ทำให้หลายคนคิดไปต่าง ๆ นา ๆ อาหารมื้อนี้ในงานเลี้ยงฉลองนอกจากจะเป็นการรักษาหน้าของจวนกั๋วกงแล้ว ยังเท่ากับว่าเป็นการป่าวประกาศให้คนในตระกูลรู้ว่า ทั้งสองตระกูลได้เกี่ยวดองกันแล้ว ต่อไปไม่ว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับซีเหมินเสี่ยวเยว่ นางก็เป็นเพียงคนของจวนมหาเสนาบดี ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลซีเหมินแต่อย่างใด
มหาเสนาบดีเซี่ยอยากกล่าวอะไรบ้าง แต่ว่าก็ถูกฮูหยินผู้เฒ่าดึงตัวเอาไว้ตลอด สิ่งที่ฮูหยินผู้เฒ่าต้องการจะสื่อนั้นชัดเจนมาก ถึงแม้ซีเหมินเสี่ยวเยว่จะแต่งเข้ามาในจวนมหาเสนาบดีแล้ว แต่ว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น หากไม่ดึงทางจวนมหาเสนาบดีไปเกี่ยวข้องได้ ก็ให้ทำเสีย แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ แล้วก็ค่อยหาข้อแก้ตัว
สายตาของไท่เป่าเฉียบแหลม หากพูดไปก็อาจจะมีปัญหา แต่ถ้าไม่พูด ก็จะไม่โดนจับผิด
ความจริงแล้วจื่ออันก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เดิมคิดว่าไท่เป่าจะไล่บี้ต่อไป
แต่ว่าส่งเรื่องนี้ให้ทางศาลาว่าการก็ดี อย่างน้อย ทั้งสองตระกูลก็ยังสามารถแสร้งทำเป็นว่าเรื่องทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีได้อยู่
อาหารมื้อนี้ ไม่มีใครทานลง นอกจากตาวเหล่าต้า
เขาถูกพาไปนั่งร่วมโต๊ะกับพวกบ่าวรับใช้ที่ติดตามเหล่าผู้อาวุโสมา อาหารมื้อนี้ดีมาก มีทั้งหมดแปดอย่าง และยังมีซุปอีกหนึ่งชาม นอกจากชามที่เป็นผักกวางตุ้งแล้ว นอกนั้นก็เป็นอาหารคาวทั้งหมด
หากเจ้าไม่เคยเห็นสิ่งที่เรียกว่าสวาปามจนไม่เหลือซาก เช่นนั้นเจ้าก็สามารถเชิญตาวเหล่าต้าไปทานอาหารมื้อใหญ่สักมื้อได้เลย แล้วเจ้าก็จะได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ
อย่างไรก็ตาม เสี่ยวซุนก็ไม่เคยพบเคยเห็น
นางโกรธมาก วันนี้ก็ออกมากันตั้งแต่เช้าตรู่ เตรียมหมั่นโถวเอาไว้สี่ลูก ตอนที่อยู่บนรถม้าก็ให้เขาทานไปจนหมดแล้ว เดิมทีคิดว่าถ้าหิวขึ้นมาเมื่อไปถึงจวนกั๋วกงก็จะได้ทานสักมื้อ นางค่อย ๆ ดื่มซุปไปเรื่อย ๆ แต่แล้วอาหารทั้งแปดอย่างนั้น ก็หมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ
แม้กระทั่งน้ำแกงจากหมูตุ๋นที่เหลือติดชามเพียงน้อยนิด เขาก็ยังเอาหมั่นโถวมาปาดไปทานจนเกลี้ยง
นอกจากจะโมโหแล้ว นางยังรู้สึกอับอายขายหน้ามาก เพราะว่าบ่าวรับใช้พวกนั้นต่างมองมาที่นางกับตาวเหล่าต้า เพราะนางกับเขามาด้วยกัน
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ไท่เป่ากับคนอื่น ๆ ก็ขอตัวกลับกัน
ฮูหยินผู้เฒ่ากับมหาเสนาบดีก็อยากกลับด้วย แต่จู่ ๆ เหลียงซื่อก็ได้เข้ามาหยุดซีเหมินเสี่ยวเยว่ไว้
และค่อย ๆ ยิ้มอย่างมีเลศนัย “จะกลับแล้วหรือ? ข้ายังไม่ได้คิดบัญชีกับเจ้าเลยนะ”