ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บททีี่ 414
จื่ออันแน่นอนว่ามิอาจจะจ้องมองกลับไปยังนางได้ ทำได้เพียงแต่ก้มหน้าลงอย่างเขินอาย
จริง ๆ แล้วนางก็พอจะรู้ได้ว่าหวงไท่โฮ่วไม่ค่อยจะชอบใจนางนัก
ไม่อาจที่จะโทษนางได้ ใครกันที่จะชอบหญิงสาวแบบนาง? สายตาของมู่หรงเจี๋ยนั้นช่างแย่เสียจริง
“ข้าเรียกเจ้าว่าจื่ออันได้ใช่ไหม” หวงไท่โฮ่วในที่สุดก็เอ่ยออกมา ทำลายการหยุดชะงักที่มีอยู่ แต่ว่า บรรยากาศก็ยังไม่ได้นับว่าดีนัก เพราะว่าคำพูดของนางถึงแม้ว่าจะดูอบอุ่น แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีความยิ่งใหญ่ที่จับต้องไม่ได้อยู่
“เพคะ!” จื่ออันตอบกลับ
หวงไท่โฮ่วมองยังนาง “ข้าได้ยินมาว่าบิดาและมารดาของเจ้าได้หย่าขาดกันแล้ว มารดาของเจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ขอบพระทัยไท่โฮ่วที่ทรงห่วงใยเพคะ ท่านแม่สบายดีเพคะ”
หวงไท่โฮ่วส่งเสียงอืมออกมา “ตอนนี้นางถูกแต่งตั้งให้เป็นเสี้ยนจู่ มีราชสำนักคอยดูแลเรื่องอาหารการกิน หย่าขาดกับบิดาของเจ้าก็ไม่ต้องกลัว ยังคงสามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้ ไม่ต้องคอยคิดถึงว่าจะต้องแต่งให้กับผู้อื่น แต่งออกไปมีเรื่องที่ไม่อิสระมากมายยิ่งนัก”
จื่ออันมองขึ้นไปอย่างประหลาดใจ คำพูดนี้ของหวงไท่โฮ่ว เหมือนจะสื่อถึงนัยอื่น
หวงไท่โฮ่วหัวเราะออกมา “เจ้าเป็นสตรีที่มีไหวพริบดี คงจะเข้าใจว่าข้าพูดถึงอะไร”
“หม่อมฉันไม่เข้าใจเพคะ” จื่ออันส่ายศีรษะ คำพูดนี้ยังคงต้องให้หวงไท่โฮ่วช่วยชี้แนะให้ถึงจะดี นางเข้าใจ แต่ว่าความหมายของหวงไท่โฮ่วดูคลุมเครือ นางเองก็มิอาจแสดงออกถึงความเห็นของนางได้อย่างชัดเจน
นางเองก็ไม่มีทางที่จะหยุดรั้งไม่ให้หยวนซื่อมองหาความสุขของตัวเอง
หวงไท่โฮ่วไม่ค่อยจะพอพระทัยนัก “เจ้าเข้าใจ แต่แกล้งไม่รับรู้ อ๋องอันนั้นมีใจให้กับมารดาของเจ้า ทุกคนก็ล้วนรับรู้ แต่ว่าข้าจะไม่มีทางยอมให้เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นเป็นแน่”
จื่ออันเอ่ยถาม “ไท่โฮ่วคิดว่าท่านแม่ของข้าไม่เหมาะสมกันกับท่านอ๋องหรือเพคะ?”
“นี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ข้อสองคือ เจ้าต่อไปจะต้องแต่งให้กับอาเจี๋ย อาเจี๋ยและเจ้าสองเป็นพี่น้องกัน พวกเจ้าแม่ลูกแต่งให้กับพี่น้อง จะทำให้ลำดับอาวุโสวุ่นวาย เจ้าเคยคิดมาก่อนหรือไม่?” หวงไท่โอ่วน้ำเสียงค่อย ๆ เข้มขึ้น แฝงความเย็นชา
จื่ออันไม่เคยคิดถึงปัญกาในข้อนี้จริง ๆ แต่หากเป็นเพราะการลำดับขั้นอาวุโสเหล่านี้ทำให้ท่านแม่และอ๋องอันพลาดไปจากความสุขแล้ว อย่างนั้นก็ช่างโง่เง่าเสียจริง
แต่ว่านางก็มิอาจที่จะเอ่ยออกมาต่อหน้าหวงไท่โฮ่วได้
“เรื่องราวมากมาย ไม่ใช่สิ่งที่หม่อมฉันสามารถควบคุมได้เพคะ” จื่ออันเอ่ยออกมา
หวงไท่โฮ่วแสดงออกว่าผิดหวังจากนาง อดไม่ได้ที่จะเอ่ยข่มขู่ออกมา “ดี หากว่าเจ้าไม่คอยพูดกับมารดาเจ้าแล้ว ถ้าอย่างนั้น ความตั้งใจที่จะให้มีงานอภิเษกในครั้งนี้ก็คงจะไม่ต้องแล้ว”
จื่ออันเงยหน้าขึ้น เอ่ยออกมาอย่างดื้อดึง “หวงไท่โฮ่ว หากว่าการที่หม่อมฉันแต่งให้กับท่านอ๋องนั้น จะทำความลำบากให้แก่ท่านแม่และอ๋องอันแล้ว ถ้าอย่างนั้น หม่อมฉันก็จะเห็นด้วยกับการที่หวงไท่โฮ่วจะไม่ประทานพระราชเสาวนีย์ลงมาเพคะ”
“เจ้า…” หวงไท่โฮ่วโกรธเกรี้ยวขึ้นมา “เจ้านี้แสดงกิริยาอะไรออกมา? ต้องการที่จะข่มขู่ข้างั้นหรือ? เจ้าคิดว่าอาเจี๋ยนอกจากเจ้าก็จะไม่แต่งกับใครแล้วรึ?”
จื่ออันคุกเข่าลงเอ่ยพร้อมส่ายศีรษะ “ไม่ใช่เพคะ หม่อมฉันไม่ได้ต้องการจะข่มขู่ผู้ใด และไม่กล้าที่จะข่มขู่พระองค์ แต่ว่าหม่อมฉันไม่ต้องการที่จะทำเพื่อตนเอง จนต้องเสียสละความสุขของท่านแม่และอ๋องอัน ถึงแม้จะพูดกันว่า สุดท้ายแล้วพวกเขาอาจจะไม่ได้เดินไปด้วยกัน แต่หม่อมฉันจะไม่ยินยอมเอ่ยแนะนำออกไปแม้แต่ครึ่งคำ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ให้เป็นไปตามธรรมชาติ”
“อีกทั้ง…” นางเงยหน้าขึ้นมา นางมองไปยังหวงไท่โฮ่ว “หม่อมฉันใจจริงแล้ว หวังว่าท่านแม่จะมีความสุขเป็นอย่างมาก”
“เหลวไหลสิ้นดี!” หวงไท่โฮ่วเอ่ยเสียงเข้ม ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้งนึง เก็บคำพูดของเจ้าเมื่อครู่นี้กลับไป ไม่งั้นแล้วพระราชเสาวนีย์ครั้งนี้ ข้าไม่มีทางที่จะประทานลงไป”
จื่ออันอ้าปากขึ้น กำลังจะเอ่ยออกมา หวงไท่โฮ่วก็เอ่ยเสียงเข้มขึ้นมาอีกว่า “เจ้าทางที่ดีคิดให้รอบคอบก่อนที่จะตอบคำของข้า นี่เป็นความสุขทั้งชีวิตของเจ้า ด้วยชื่อเสียงของเจ้าในตอนนี้ ไม่ต้องพูดถึงที่จะแต่งให้แก่ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ แม้แต่คุณชายตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวงนี้ก็ไม่มีผู้ใดต้องการเจ้า ดังนั้นแล้ว นี่เป็นเพียงโอกาสเดียวของเจ้า”
จื่ออันเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็ง “หม่อมฉันยอมที่ทั้งชีวิตนี้จะไม่แต่งงาน แต่จะไม่ยอมเอ่ยกับท่านแม่”
หวงไท่โฮ่วยืนขึ้นอย่างเย็นชา “ใครก็ได้เข้ามา ส่งคุณหนูใหญ่เซี่ยออกจากวัง”
จื่ออันเงยหน้าขึ้น “หม่อมฉันทูลลาเพคะ!”