ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 419

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 419

ป้าซือจูโดนลากเข้าไปในห้องมืด องครักษ์นำนางผูกมัดเอาไว้บนเตียงไม้

ป้าซือจูเอ่ยขอร้ององครักษ์ “ข้าขอร้องเจ้าเถอะ ช่วยนำคำพูดนี้ไปบอกแก่ท่านอ๋อง บอกว่าป้าซือจูไม่ได้ตายเพราะเขา ข้าเพียงแต่เหนื่อยเกินไปแล้ว ไม่อยากที่จะมีชีวิตต่อไปอีกแล้ว”

นางรู้ดีว่ากุ้ยไท่ไฟยจะต้องเอ่ยกับท่านอ๋อง เป็นเพราะเขา นางถึงได้ตาย นางไม่อยากให้ท่านอ๋องรู้สึกผิด ไม่อยากให้เขาเสียใจ

ชั่วชีวิตนี้ นางทำผิดมามากมายนัก เรื่องวันนี้ที่เกิดขึ้นได้ก็เป็นนางที่สมควรโดนแล้ว สุดท้ายแล้วนางเพียงแค่อยากจะทำอะไรสักอย่าง เพื่อเด็กน้อยคนนั้นที่เคยยิ้มอยู่ในอ้อมแขนของนาง เป็นเรื่องสุดท้าย ถึงแม้มันจะล้มเหลว แต่ก็ไม่อยากจะให้เขาต้องคอยแบบรับอะไรเอาไว้อีกแล้ว

ในช่วงขณะเดียวกันนั้น กุ้ยไท่เฟยก็ได้เข้าวังหลวงอีกครั้ง นางขอเข้าพบหวงไท่โฮ่ว เพื่อจารึกชื่อลงไปบนหยกของราชวงศ์ มู่หรงเจ๋ยนั้นมีมารดาบุญธรรมอยู่ผู้หนึ่งคือ ป้าซือจู

หวงไท่โฮ่วนั้นรู้ดีว่าซือจูให้ความรักความเอ็นดูต่อมู่หรงเจี๋ยเป็นอย่างมาก และรู้ว่ากุ้ยไท่เฟยนั้นก็คอยพึ่งพาป้าซือจูอยู่ คิดว่านี่คงเป็นเงื่อนไขที่นางต้องการจะใช้เป็นข้อแลกเปลี่ยน จึงได้เอ่ยอนุญาติให้จวนชั้นในเพิ่มชื่อป้าซือจูลงบนแผ่นหยกเป็นมารดาบุญธรรมของมู่หรงเจี๋ย

นี่เป็นเรื่องที่ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งราชวงศ์ต้าโจว บ่าวรับใช้คนแรกที่มีชื่อลงบนหยกจารึกของราชวงศ์

หวงไท่โฮ่วเองก็คิดว่าซือจูนั้นควรค่าแก่การให้เกียรตินี้ บวกกับเรื่องนี้หากสามารถปลอบประโลมให้ใจของกุ้ยไท่เฟยสงบลงได้ นางเองก็มิได้ใส่ใจมันนัก

อย่างไรนางก็ไม่มีทางคาดถึง สตรีผู้ที่ได้รับเกียรตินี้เป็นคนแรกของราชวงศ์ต้าโจวนั้น กลับได้ตายไปแล้วในจวนของผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ

มู่หรงเจี๋ยกลับมาในวันนั้น กุ้ยไท่เฟยได้สั่งให้คนไปแจ้งแก่เขา บอกว่าป้าซือจูนั้นได้เป็นมารดาบุญธรรมของเขาแล้ว ได้เข้าวังไปขอประทานอนุญาติแล้ว มู่หรงเจี๋ยคิดว่าไม่ได้สำคัญนัก เขาเองก็เคารพป้าซือจูเป็นอย่างมาก

เซียวท่าและซูชิงก็กลับมาพร้อมกันกับเขา ทั้งสามคนท่าทางดูหดหู่นัก เพราะว่าสถานการณ์ของหวางหยูนั้นไม่ค่อยจะดีนัก ถึงแม้ว่าจะใช้เข็มยาสลบเพื่อให้นอนหลับไปแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถดื่มน้ำได้ และไม่สามารถกินอะไรได้ หรือจะมีชีวิตรอดได้

ก่อนที่จะกลับกันมานั้น พวกเขาก็ไปยังจวนมหาเสนาบดีตามหาจื่ออันแล้วรอบหนึ่ง

จื่ออันแนะนำให้เพิ่มส่วนผสมลงไปในยาสลบ และในตอนที่เขานอนหลับนั้น บังคับให้ดื่มน้ำลงไป

มู่หรงเจี๋ยได้ถ่ายทอดคำสั่งลงไป แต่ว่าภายในใจของทุกคนนั้นต่างก็รู้ดีว่าเป็นเพียงแค่การยื้อเวลาออกไป สำหรับอาการป่วยของเขาแล้วนั้นยังไม่มีวิธีที่จะช่วยเหลือได้แม้แต่น้อย

“ข้าวันนี้ได้ไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทแล้ว” หลังจากที่มู่หรงเจี๋ยนั่งลงแล้ว ก็ได้เอ่ยกับซูชิงและเซียวท่า

ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้น “จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยคาดเดากันเป็นการส่วนตัวกันมาก่อนว่าฝ่าบาทอาจจะเสด็จสวรรคตไปแล้วก็เป็นได้ แต่ว่าหวงไท่โฮ่วประทานอนุญาติให้เขาเข้าพบฝ่าบาทนั้น นั่นหมายความว่าฝ่าบาทยังคงมีชีวิตอยู่

“ใช่แล้ว!” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยด้วยท่างทางจริงจังและเคร่งขรึม

“สถานการณ์ของฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะคะ?” ซูชิงเอ่ยถาม

“วันนี้ทรงฟื้นขึ้นมา” วันนี้มู่หรงเจี๋ยนึกขึ้นมาได้ว่าในตอนที่ไปยังวังซีเหวยเพื่อพบกับพระองค์นั้น ในที่สุดก็เข้าใจว่าทำไมหวงไท่โฮ่วถึงได้ไม่อนุญาติให้ผู้ใดเขาพบกับฝ่าบาท “สถานการณ์ไม่ค่อยจะดีนัก แต่ก็ยังตรัสกับข้ามาสองประโยค”

“ทรงตรัสอะไรออกมาพ่ะย่ะค่ะ?”

“ก็ไม่ได้ตรัสอะไรมาก เพียงแค่ทรงถามถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ในราชสำนัก พระองค์สุขภาพไม่ค่อยจะดีนัก แต่ก็ยังฟังข้าเอ่ย” มู่หรงเจี๋ยดื่มชาลงไปคำนึง แล้วจึงตอบกลับ

ซูชิงเอ่ยถาม “สามารถให้คุณหนูใหญ่เซี่ยเข้าถวายการรักษาให้ฝ่าบาทได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

“ไม่!” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยปฎิเสธออกมา “ไม่จำเป็น”

ซูชิงและเซียวท่ามองสบตากัน ต่างก็มีความสงสัยอยู่บนใบหน้า

“ช่างมันเถอะ พวกเจ้ากลับกันไปเถอะ ข้าเองก็มีเรื่องที่ต้องอยู่อย่างเงียบ ๆ”

“ท่านไม่ไปพบกับป้าซือจูหรือพ่ะย่ะคะ? ตอนนี้นางเป็นถึงมารดาบุญธรรมของท่านแล้ว” เซียวท่าเอ่ยถาม

“วันนี้ยังไม่ไปก่อน ข้ามีเรื่องวุ่นวายอยู่ในใจ ไม่อยากทำให้นางเป็นกังวล พรุ่งนี้เช้าค่อยเข้าไปคารวะนาง”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท