ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 530

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 530

หลังจากที่ส่ายศีรษะแล้ว นางก็ก้าวเดินออกมา ไม่มีอะไรที่ลืมไม่ได้ นอกเสียจากว่าตนเองจะไม่ยินยอม

ซูชิงไปหามู่หรงเจี๋ย แต่มู่หรงเจี๋ยไม่อยู่ เขาเพิ่งจะรับข่าวสารมา บอกว่าทางด้านของสำนักซือโถวมีบางอย่างผิดปกติ เขาจำต้องไปด้วยตนเอง

สำนักซือโถวที่อยู่บนเขาทางด้านเหนือของหมู่บ้านศิลา เขาไม่สูง ทว่ามีหินมากมาย ดังนั้นพืชพรรณเองก็มีไม่มากนัก ที่แห้งนี้แทบจะไม่อาจหลบซ่อนตัวได้เลย นอกเสียจากจะเป็นภายในสำนักแม่ชี

และสำนักแม่ชีนี้ มีแม่ชีเพียงแค่สองคนเท่านั้น ธูปเองก็ไม่นับว่าจำต้องใช้มากมายนัก ก่อนหน้านี้คนในหมู่บ้านศิลาเองก็ไม่นับว่าไปจุดธูปมากเท่าไหร่ ล้วนแต่เป็นวัดหลงหมู่ ทางด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านศิลา

เพราะเหตุนี้ สำนักซือโถวจึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากนัก จื่ออันเองในวันนั้นก็มาถึงยังตีนเขาของสำนักซือโถว มองเห็นแม่ชีคนหนึ่งแบกฟืนกลับมา นางเองยังเอ่ยถามออกมา ทว่าก็ไม่ได้อะไรกลับมา แม่ชีบอกว่าที่นี่ดูโดดเดี่ยวตัดขาดกับโลก ไม่รู้เรื่องราวทางโลก หากว่าอยากจะไหว้พระ ก็ให้เข้าไป แต่ถ้าหากไม่ใช่แล้ว ก็ให้นางไปซะ

ในตอนนั้นจื่ออันไม่ได้มีใจคิดสงสัยแต่อย่างใด เพราะว่ามองจากภายนอกแล้ว แม่ชีของสำนักซือโถวผู้นี้ดูเรียบง่ายจนเกินไป ไม่อาจที่จะแอบซ่อนคนเอาไว้ได้มากมาย

มู่หรงเจี๋ยนำคนมายังด้านนอกของสำนักซือโถว จับจ้องดูลักษณะของที่นี่

ทหารองค์รักษ์ก้าวมายังเบื้องหน้าก่อนจะเอ่ย “ท่านอ๋อง ตั้งแต่ที่ข้าได้รับคำสั่งจากท่านอ๋องให้มาเฝ้าดูรอบ ๆ บริเวณของหมู่บ้านศิลา ก็คอยให้ความสนใจกับสำนักแม่ชีแห่งนี้มาโดยตลอด เพราะบริเวณใกล้ที่นี่แทบจะไม่มีที่ให้หลบซ่อนกายได้ มีเพียงแค่สำนักแม่ชีแห่งนี้ กลางดึกเมื่อคืนนี้ในตอนที่ข้าออกลาดตระเวน ก็เห็นว่าด้านหลังของสำนักแม่ชีมีคนแอบเข้าไป ประมาณเจ็ดแปดคน”

“เจ็ดถึงแปดคน?” มู่หรงเจี๋ยดูเคร่งขรึมลงครู่หนึ่ง เป็นจำนวนเกือบจะเท่าหนึ่งที่จื่ออันเอ่ยออกมา ในเจ็ดแปดคนนี้ คงจะมีสองสามคนที่เป็นคนนำพวกเขามา

“เข้าไปตรวจสอบแล้วหรือยัง?” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยถาม

“ยังไม่ได้ตรวจสอบขอรับ รอรายงานท่านอ๋องก่อน” ทหารองค์รักษ์เอ่ยออกมา “เกรงว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเข้า”

มู่หรงเจี๋ยเอ่ย “ข้าไม่เข้าไปแล้ว พวกเจ้าเข้าไปหากันสักรอบหนึ่ง”

ทหารองค์รักษ์รับคำสั่ง โบกมือแล้วนำคนเข้าไป

ไม่ถึงสิบห้านาที ทหารองค์รักษ์ก็นำคนออกมา แล้วเอ่ยอย่างผิดหวังว่า “ท่านอ๋อง ไม่พบสิ่งใดเลยขอรับ”

มู่หรงเจี๋ยดูเหมือนว่าจะรู้แต่เนิ่นแล้วเขาจะต้องกลับมาโดยที่ไม่ได้อะไร จึงเอ่ย “สั่งคนให้คอยจับตาสำนักซือโถวเอาอย่างแน่นหนา หากว่ามีความเคลื่อนไหวใด ล้วนแต่ต้องรายงานในทันที”

“ท่านอ๋อง แต่ว่าที่นี้ไม่พบสิ่งใดเลย” ทหารองค์รักษ์เห็นได้ชัดว่าดูจะไม่เข้าใจ “แปลกจริง ตั้งแต่เมื่อคืนมีคนเข้าไป กระหม่อมเองก็สั่งให้คนจับตาอยู่ตลอด ไม่เห็นว่าจะมีผู้ใดออกมา”

มู่หรงเจี๋ยยกยิ้มเย้ยหยันออกมา “สำนักซือโถวเข้าไปก็มองเห็นได้จนหมดแล้ว หากว่าอยากซ่อนคนเอาไว้มากมาย จะต้องมีห้องลับอยู่ ห้องลับต้องอยู่ใต้ดิน พวกเราตามหาไปจะต้องสิ้นเปลืองเวลา และก็ไม่แน่ว่าจะหาพบ วัดในป่าเขาเช่นนี้ เมื่อมีห้องลับขึ้น ด้านล่างนั้นจะต้องทำไขว้กันอยู่ หากว่ามีผู้ป่วยโรคผีดิบอยู่ที่นี่จริง พวกเรารีบร้อนเข้าไป จะต้องเสียมากกว่าเจ็ดส่วน วันนี้พวกนายเข้าไปตรวจสอบมาแล้วรอบหนึ่ง พวกเขาจะต้องรู้ว่าที่นี่เริ่มเป็นจุดสนใจเข้าให้แล้ว จะต้องย้ายสถานที่ใหม่”

ทหารองค์รักษ์เข้าใจขึ้นมาในทันที “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”

มู่หรงเจี๋ยออกคำสั่ง “หลังจากที่ข้าไปแล้ว พวกเจ้ารอครึ่งชั่วยามค่อยถอนตัวออกไป ให้พวกเขาเข้าใจผิดกันว่าพวกเจ้าออกกันไปแล้ว คืนนี้คงจะมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงสถานที่กัน”

“แต่ว่า หากมีห้องลับหรือว่าอุโมงค์ใด พวกเขาก็อาจจะเคลื่อนย้ายกันทางใต้ดินได้”

มู่หรงเจี๋ยเหลือบมองเขา “ภูเขาแห่งนี้ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเหนือ ใต้ ออก ตกสี่ทิศทาง ทางด้านตะวันออกก็เป็นหมู่บ้านศิลา พวกเขาไม่มีทางที่จะไปทางด้านนี้ เพราะว่ามีคนคอยเฝ้าอยู่ ทางใต้ทิศใต้เป็นลำธารและภูเขาสูงชัน หากนำเข้าไปก็ไม่มีทางจากไปได้ เพราะฉะนั้นก็เหลือเพียงแค่ทิศเหนือและทิศตะวันตก พวกนายส่งคนเข้าไปเพิ่มคอยป้องกันเอาไว้ให้แน่นหนา หากว่าพบ ก็ให้รีบลงมือทันที ด้านนอกป่านั่น อย่างไรแล้วก็ดีกว่าลงมือในห้องลับ”

ทหารองค์รักษ์รับคำสั่ง “ขอรับ กระหม่อมรับคำสั่ง!”

มู่หรงเจี๋ยหลับตาลงเบา ๆ สูดดมกลิ่นหอมที่ลอยมาตามสายลม

ทางตอนเหนือมีต้นการบูรอยู่หลายต้น ต้นการบูรมีกลิ่นหอมเข้มข้น กลบกลิ่นเหม็นของซากศพที่ลอยโชยมาในอากาศเป็นครั้งคราว

กลิ่นเหม็นจากหมู่บ้านศิลาไม่อาจลอยโชยมาจนถึงที่แห่งนี้ได้ จะต้องลอยมาจากที่ใกล้ ๆ นี้

ประสาทรับรู้กลิ่นของเขาฉับไหวยิ่งกว่าผู้อื่น กลิ่นที่ผู้คนมากมายไม่อาจรับรู้ได้ เขาล้วนแต่สามารถได้กลิ่น

และเพราะเหตุนี้ในวันนี้ ทำไมเขาถึงได้ไม่เข้าไปยังสำนักซือโถว แต่ก็จำต้องมาสักรอบหนึ่ง

เขาแน่ใจว่า สำนักซือโถวแห่งนี้จะต้องเป็นสถานที่แอบซ่อนผู้ป่วยโรคผีดิบเอาไว้

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท