ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 538
“เช่นนั้นเหล่าไท่จวินพอจะคาดเดาได้หรือไม่ว่า จะมีคนตามนางไปกี่ทาง?” แววตาของมู่หรงเจี๋ยเผยความเฉียบแหลมออกมา
“สองทาง ทางหนึ่งเป็นของกุ้ยไท่เฟย อีกทางหนึ่งข้าไม่รู้!” เฉินไท่จวินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
มู่หรงเจี๋ยเองก็ยิ้มออกมาเช่นกัน “ไม่รู้ว่าคนของอีกด้านหนึ่ง จะเป็นคนของเฉินไท่จวินหรือไม่?”
เฉินไท่จวินเงยหน้าขึ้นมาเหลือบมอง เอ่ยถามแม่นมที่รับใช้อยู่ข้างกาย “หญิงเฒ่า หลานชายกลุ่มนั้นของข้าเล่า?”
แม่นมตอบออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ไท่จวินลืมไปแล้วหรืออย่างไร พวกเขาไม่ใช่ว่าถูกท่านส่งให้ไปทำงานหรอกหรือ?”
“มีเรื่องเช่นนี้ด้วย? ทำเรื่องอันใดกัน?” เหล่าไท่จวินเอ่ยถามออกมาด้วยใบหน้าว่างเปล่า
แม่นมเหลือบมองไปยังมู่หรงเจี๋ย “บอกว่าให้ไปยังเกาะอะไรสักอย่าง จากนั้นก็ให้นำใครบางคนกลับมาอย่างปลอดภัย”
เหล่าไท่จวินส่งเสียงโอ้ออกมา ก่อนจะถาม “เช่นนั้นเจ้าคิดว่า หลายชายกลุ่มนั้นของข้า จะสามารถนำคนกลับมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่?”
แม่นมโค้งกายลง “เหล่าไท่จวินมิใช่เอ่ยออกมาแล้ว? เมื่อชายตระกูลเฉินลงมือขึ้นมา ปีศาจ สัตว์ประหลาดเหล่านั้นจะต้องจากไป?”
มู่หรงเจี๋ยลุกขึ้นยืน ประสานมือให้ “เช่นนั้นข้าต้องขอบคุณเหล่าไท่จวินล่วงหน้าแล้ว”
“ส่งท่านอ๋อง!” เหล่าไท่จวินเองมิได้ลุกขึ้น เพียงแต่ทำท่าทางราวกับส่งเขาออกไป
มู่หรงเจี๋ยที่เพิ่งจะหมุนกายออกไป จู่ ๆ เหล่าไท่จวินก็เอ่ยออกมา “รู้หรือไม่ว่าทำไมหม่อมฉันถึงไม่ให้ท่านอ๋องออกจากเมืองหลวงไป?”
มู่หรงเจี๋ยยิ้มออกมาเล็กน้อย สายตาเกิดลำแสงเย็นเยือกขึ้นมา “รู้ ในเมืองหลวง เกรงว่ากำลังจะเกิดความโกลาหลขึ้นแล้ว”
สายตาของเหล่าไท่จวินมีแววชื่นชม “ท่านอ๋องทรงพระปรีชา”
มู่หรงเจี๋ยหมุนกายเดินจากไป
ในค่ำคืนนั้น คนของมู่หรงเจี๋ยที่อยู่ใกล้กับสำนักซือโถว สกัดกลุ่มผู้ป่วยโรคผีดิบเอาไว้ได้กลุ่มหนึ่ง
ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีแม่ชีหลายคนเป็นผู้นำทาง เดินออกมาจากอุโมงค์ใต้ดิน การซุ่มโจมตีของมู่หรงเจี๋ยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้ถูกจับกุมเอาไว้ได้กว่าสิบคน
ในตอนที่ทหารองค์รักษ์กลับมารายงานมู่หรงเจี๋ยนั้น มู่หรงเจี๋ยก็ขมวดคิ้วออกมา “สิบกว่าคน?”
“ขอรับ ตอนนี้ได้ส่งไปยังพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว แม่ทัพซูชิงนำผู้ป่วยของถนนซีเป่ยและค่ายทหารส่งเข้าไปพอดี”
มู่หรงเจี๋ยลุกขึ้นยืน เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม “ประกาศกฎอัยการศึกทั้งเมือง ห้ามมิให้ผู้ใดออกไปได้โดยง่าย”
ทหารองค์รักษ์ตกใจขึ้นมา “ท่านอ๋อง เพื่ออะไรกันขอรับ?”
“ไม่มีทางที่จะมีเพียงแค่สิบกว่าคน พวกเขาจะต้องมีถ้ำแห่งอื่นอยู่อีก” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม
คำสั่งกฎอัยการศึกออกมาสายเกินไปแล้ว หลังจากที่คำสั่งถูกกระจายออกไป ก็มีคนเข้ามารายงานกันอย่างต่อเนื่อง บอกว่าในเมืองหลวงมีผู้ป่วยโรคผีดิบมากมายปรากฏออกมากัดคนอย่างคลุ้มคลั่ง
ในเพียงค่ำคืนเดียว จำนวนผู้ที่ถูกกัดที่รายงานขึ้นมานั้นสูงกว่าร้อยคน ทว่าจำนวนนี้มีเพียงแค่ผู้ป่วยที่ถูกจับเอาไว้ได้ ที่ยังไม่ถูกจับนั้น ไม่รู้ว่ามีอยู่มากเท่าไหร่
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เซียวเซียวเข้าวังไปรายงานกับหวงไท่โฮ่วว่า เซี่ยจื่ออันไม่ได้อยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติ
ราชครูเหลียงก็เสริมออกมาอีกประโยคหนึ่งว่า ท่านหมอที่อยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติบอกว่าเซี่ยจื่ออันไม่อาจรักษาโรคระบาดได้ จึงได้หลบหนีออกไปแล้ว
หวงไท่โฮ่วโกรธเป็นอย่างมาก ไม่ได้ไตร่ตรองอย่างละเอียด ก็ออกคำสั่งให้จับกุมเซี่ยจื่ออัน อีกทั้งจะกล่าวโทษไปถึงผู้ที่ขอคำสั่งทหารอย่างมหาเสนาบดีเซี่ยด้วยเช่นกัน
ก่อนการว่าราชการยามเช้า มู่หรงเจี๋ยได้ออกคำสั่งทหารที่เซียวเซียวนำกลับมาอารักขาความสงบของเมืองหลวง เมื่อเห็นผู้ป่วยโรคผีดิบ ให้รีบจับกุมส่งไปยังพื้นที่ภัยพิบัติ
ในตอนว่าราชการยามเช้า เขาได้ให้เสนาบดีสำนักตรวจราชการทหาร อย่าเพิ่งทำการตรวจสอบการทะเลาะวิวาทกันในค่ายทหารก่อน เขาต้องการจะส่งทหารออกไปตั้งจุดตรวจสอบภายในเมืองหลวงและนอกเมือง ตรวจสอบทุกคนที่เข้าออกเมือง
ทว่าก็ถูกราชครูเหลียงคัดค้านเอาไว้