ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 562
ไม่ต้องเอ่ยว่าเซี่ยจื่ออันคนเดียว แม้แต่จะเซี่ยจื่ออันหลายคน ก็ล้วนแต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของงูเหล่านี้
คืนวานนี้ก็มีหญิงชรามาอีกหนึ่งคน นางบอกว่าเป็นหญิงชรา ทว่านางไม่อาจจะแน่ใจได้ เพราะว่าใบหน้านั้นถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าคลุม ทำได้เพียงมองเห็นเสื้อผ้าล้าสมัยที่สวมใส่อยู่
ทว่าหญิงสาวผู้นี้ค่อนข้างจะเย่อหยิ่ง วางท่าใหญ่โต เมื่อมาแล้วก็เล่นอยู่กับงูเหลือม โดยที่ไม่ทำงานใด ตกปลาล้วนแต่เป็นหญิงอีกคนหนึ่งที่เป็นคนทำ
และก็ไม่เอ่ยอะไรกับนางออกมาก่อน ทำเพียงแค่ปรายตามองนางอย่างเฉยเมย จากนั้นก็ไม่สนใจอะไรอีก
วันหนึ่งหลังจากที่จื่ออันย่างปลาจนเสร็จแล้ว ได้นำไปให้กับป้าอาเฉอนั้น นางเหลือบมายังจื่ออันแล้วเอ่ยออกมา “นำไปให้ท่านผู้เฒ่า”
ท่านผู้เฒ่าที่นางเอ่ยถึงนั้น ก็คือหญิงที่มาในภายหลัง
จื่ออันทำได้เพียงแต่หยิบปลาแล้วเดินเข้าไป ท่านผู้เฒ่านั้นนอนเอนกายครึ่งตัวบนหาดทราย งูเหลือมตัวหนึ่งนอนอยู่ตรงส่วนศีรษะของนาง และนางใช้งูเหลือมตัวนั้นเป็นหมอนหนุน
นางหวาดกลัวงูเหลือมตัวอวบอ้วนนั่นจริง ๆ จึงทำเพียงแต่เอ่ยออกไปจากที่ไกล “ท่านผู้เฒ่า กินปลากันเถิด”
“อืม!” ท่านผู้เฒ่าเหลือบมองยังนางอย่างเรียบเฉย “เอามานี่”
จื่ออันจึงทำได้เพียงเดินเข้าไป โชคดีที่งูเหลือมตัวนั้นแสนขี้เกียจ หลังจากที่นางแน่ใจว่ามันจะไม่จู่โจม และไม่ได้สนใจนาง
“นางจึงนั่งย่อกายลงครึ่งหนึ่ง นำปลาย่างที่ห่อด้วยใบตองวางลงบนชายหาด “ท่านผู้เฒ่าค่อย ๆ กินนะเจ้าคะ”
ท่านผู้เฒ่ามองยังแหวนตรงนิ้วมือของนาง “แหวนของเจ้าดูไม่เลวเลย เอามาให้ข้าดู”
จื่ออันไม่ได้ถอดออกมา ทำเพียงแต่เอ่ยถามออกไป “ท่านผู้เฒ่า ข้าขอบคุณที่ท่านช่วยชีวิตข้าเอาไว้ยิ่งนัก รอจนเมื่อข้ากลับไปยังเมืองหลวงแล้ว จะต้องขอบพระคุณท่านเป็นอย่างดี แต่ทว่า ท่านได้โปรดช่วยส่งข้ากลับเมืองหลวงก่อนได้หรือไม่?”
กี่วันกันแล้ว พวกเขาจะต้องล้วนแต่เป็นกังวลไปกับนาง หรือบางทีอาจจะคิดว่านางตายไปแล้ว
ท่านผู้เฒ่าเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย “จะรีบร้อนไปทำไมกัน? อาการบาดเจ็บของเจ้ายังไม่หายดี พักผ่อนสักหลายวันก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“บาดแผลของข้ามิเป็นอันใด และก็ไม่ได้เกิดการอักเสบแล้ว” จื่ออันรีบร้อนเอ่ยออกมา
ท่านผู้เฒ่าไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ไม่ได้แม้แต่จะกินปลา และก็ไม่ได้เอ่ยถึงแหวนของนางอีก นางค่อย ๆ หลับตาลง ก่อนที่จะไม่สนใจจื่ออันอีกต่อไป
ในใจของจื่ออันร้อนรนเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่อาจออกไปได้
นางพยายามที่จะเดินออกไป ทว่างูพิษเหล่านั้นดูเหมือนจะมีจิตวิญญาณอยู่ นางคิดจะเดินจากไปแล้ว พวกมันก็จะต้องมาล้อมรอบนางเอาไว้ ต่างชูหัวงูขึ้นมา แล้วพ่นพิษงูออกมา น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
นางค่อนข้างที่จะกังวล กลัวว่าตนเองจะถูกกักขังอยู่ในเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ไปตลอดชีวิต
เช้าวันถัดมา หลังจากที่นางตื่นขึ้นมา ก็พบว่าแหวนของตนเองถูกสวมอยู่บนนิ้วมือของท่านผู้เฒ่าเสียแล้ว
ในใจของนางเกิดความโมโหขึ้นมา “ท่านผู้เฒ่า แหวนนั่นเป็นของข้า ท่านไม่ควรที่จะถอดออกไปเองเช่นนี้”
ท่านผู้เฒ่ายื่นมือออกมาดูอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับกำลังชื่นชมอยู่ “ข้ามีของที่จะแลกเปลี่ยนกับเจ้า”
“อะไรกัน?” จื่ออันตะลึงไปครู่หนึ่ง
กลับพบว่าในมือของป้าอาเฉอนั้นมีงูตัวหนึ่งที่เลื้อยเข้ามา “นี่คือ”
เมื่อนางเดินเข้าไปใกล้ จื่ออันกลับพบว่ามิใช่งู แต่เป็นเชือกขดหนึ่งที่เต็มไปด้วยร่องรอยขาดวิ่น
นางโกรธเป็นอย่างยิ่ง “ไม่ ข้าไม่เปลี่ยน ท่านคืนแหวนกลับมาให้ข้าเสียเถอะ”
“อย่าได้ดูแคลนเชือกเส้นนี้ไป มันเรียกว่าเชือกบ่วงบาศ ดีกว่าแหวนเจ้ามากนัก” ป้าอาเฉอเอ่ยออกมาเสียงเย็น
จื่ออันต้องการจะก้าวไปยังเบื้องหน้าเพื่อคว้ามัน ทว่าจู่ ๆ งูเหลือมตัวนั้นก็ชูคอขึ้นมา ทั้งยังคลานมายังจื่ออันอย่างดุร้าย จื่ออันตกใจเสียจนมือคว้าเอาเชือกบ่วงบาศมาจากมือของป้าอาเฉอ “ตกลง เปลี่ยน พวกเราเปลี่ยนกัน”
“อืม ผู้ที่รู้สถานการณ์ดีที่สุด!” ท่านผู้เฒ่าเห็นได้ชัดว่าพึงพอใจในการประนีประนอมนี้
จื่ออันหยิบเชือกแผลเป็นขึ้นมา แล้วหันกลับไปยังชายหาดอย่างไม่พอใจ
ช่างน่ารำคาญเสียงจริง อยู่ที่นี่นางถูกรังแกอยู่ตลอด อีกทั้งยังไม่อาจออกไปได้
นางนั่งลงบนหาดทราย งอขาขึ้น ภายในใจรู้สึกแย่ มู่หรงเจี๋ย ท่านจะต้องคิดว่าข้าตายไปแล้วกระมัง? ท่านจะมาตามข้าหรือไม่? หากว่าท่านไม่มาตามหาข้า ช้าเร็วข้าจะต้องตายไปเป็นแน่