ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 582
ในตอนที่เซี่ยจื่ออันเพิ่งจะกลับมานั้น ก็ได้รับรู้สถานการณ์ของโรคผีดิบจากปากของเซียวท่า ซูชิง และก็รู้เรื่องราวของจวนมหาเสนาบดี นางมองไปยังหยวนฉุ่ยยวี่ ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบา “ท่านแม่ คราวนี้ท่านได้เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์แล้ว”
ในใจของหยวนฉุ่ยยวี่เต็มไปด้วยความซับซ้อน นางตัดใจที่จะให้จื่ออันแต่งออกไปไม่ได้ แต่ก็รู้ว่านี่เป็นปลายทางที่ดีที่สุดของนาง ถึงแม้ว่าท่านอ๋องจะดูอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก แต่ก็เป็นคนดี
นางกอดจื่ออันเอาไว้อย่างอ่อนโยน “จื่ออัน แม่หวังแต่เพียงว่าลูกจะปลอดภัยมีความสุข”
ก่อนที่หยวนฉุ่ยยวี่จะมานั้น หน้าผากก็ถูกเครื่องสำอางปกปิดเอาไว้อย่างหนา และยังมีมวยผมปิดเอาไว้ จื่ออันไม่ได้มองเห็นรอยบาดแผลของนาง แต่เมื่อสัมผัสหลังจากที่กอดกันอย่างใกล้ชิดแล้ว ก็พบว่าบนศีรษะนางนั้นมีบาดแผลอยู่
“เกิดอะไรขึ้น?” จื่ออันเอ่ยถามออกมาด้วยความตื่นตกใจ
เซียวท่าไม่ได้บอกกับนางว่าหยวนฉุ่ยยวี่ถูกทุบตีอย่างโหดร้าย เพราะฉะนั้นนางจึงไม่รู้
เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยออกมาอย่างตรงไปตรงมา “จื่ออัน เจ้าไม่รู้สินะ หลังจากที่เจ้าหายไปแล้ว มหาเสนาบดีเซี่ยก็ทุบตีมารดาของเจ้าเสียยกใหญ่ ทุบตีเสียจนอีกเพียงนิดเดียวก็เกือบจะตายไปเสียแล้ว เรื่องนี้ในเมืองหลวงล้วนแต่รู้ดี”
สายตาของจื่ออันเต็มไปด้วยความเย็นชา นางเอื้อมมือออกไปยกผมของหยวนฉุ่ยอวี่ขึ้นอย่างช้า ๆ เมื่อมองเห็นรอยแผลที่ถูกเข้ากับน้ำร้อนอันน่าเกลียดนั้น ก็เอ่ยออกมาเสียงเบา “ฮูหยินผู้เฒ่าตายไปแล้ว โชคดีที่มหาเสนาบดีเซี่ยยังมีชีวิตอยู่”
หลิวหลิ่วเอ่ย “จื่ออัน เจ้ายังดีใจที่เขามีชีวิตอยู่อีกอย่างนั้นหรือ? เขาสมควรที่จะตายไปพร้อมกับฮูหยินผู้เฒ่า ในพื้นที่ภัยพิบัติด้วยเช่นกันถึงจะถูก”
คนที่อยู่ ณ ที่แห่งนั้นนอกจากโหรวเหย๋าและหลิวหลิ่วที่ไม่เข้าใจความหมายของจื่ออันแล้ว คนอื่นที่เหลือล้วนแต่รู้ดี
หูฮวนสี่เอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย “ใช่แล้ว มีชีวิตอยู่ถึงจะถูก มีชีวิตอยู่ถึงจะตอบแทนความอยุติธรรม มีแค้นก็ได้ล้างแค้น”
จื่ออันเงยหน้าขึ้นมา มองไปยังหูฮวนสี่ นางมักจะรู้สึกว่าหูฮวนสี่เป็นคนที่รู้เรื่องราวอยู่เสมอ แววตาของนางมักจะมีความรู้สึกที่ผ่านความเป็นความตายมาแล้ว
เหลียงซื่อเมื่อเห็นว่าบรรยากาศดูหนักหน่วงขึ้นมา ก็เอ่ยออกมา “พอเถิด ไม่ต้องเอ่ยถึงแล้ว เรื่องที่ไม่มีความสุขก็ปล่อยให้มันผ่านพ้นไป วันนี้เป็นวันมงคลก็ควรจะมีความสุข”
ทุกคนพากันหัวเราะและทยอยกันถอยออกไป เพื่อให้คนช่วยแต่งตัวให้กับจื่ออัน
ฝีมือของช่างเย็บปักนั้นดีมาก ซ่อมแซมเสียจนแทบไม่เห็นข้อบกพร่อง นอกจากรอยแส้ที่อยู่เบื้องหลังจนถึงต้นขา ถึงแม้ว่าช่างเย็บปักจะพยายามอย่างยิ่ง ก็ยังคงเห็นร่องรอยของการซ่อมแซมอยู่เล็กน้อย
แต่อย่างไรก็ตาม ข้อบกพร่องทั้งหมดก็ยังคงละเว้นได้ เพราะอย่างไรแล้ว คนถูกต้องก็เป็นอันใช้ได้แล้ว
มู่หรงเจี๋ยลากเซียวเซียวและคนอื่น ๆ เดินเข้าไปอีกห้องหนึ่ง แล้วเอ่ยเตือนอย่างเข้มงวด “เรื่องที่ข้าสั่งคนให้จับตัวจื่ออันไป ผู้ใดก็ห้ามบอกแก่จื่ออัน”
“กระดาษไม่อาจห่อไฟได้” เซียวท่าเอ่ยเตือนออกมา
“หากว่าถูกเปิดเผยออกไปแล้ว พวกเจ้าทั้งสามคนก็ไปล้างห้องส้วมในวังหนึ่งเดือน” มู่หรงเจี๋ยข่มขู่ออกมา
ทั้งหมดพากันเงียบเสียงลง
มีบางอย่างที่เกิดขึ้นก่อนพิธีแต่งงาน ข่าวคราวของการกลับมาของจื่ออันถูกแพร่ออกไป ผู้ป่วยโรคผีดิบเหล่านั้น และคนในครอบครัวต่างก็พากันคุกเข่าลงขอบคุณจื่ออันอยู่ด้านนอกจวนอ๋อง
จื่ออันสวมชุดแต่งงานออกไป เมื่ออยู่ท่ามกลางกลุ่มคนก็ดูงดงามเหมือนราวกับนางฟ้า
มีบางคนที่ถอนหายใจออกมา หลายเดือนก่อนหน้านั้น สวมใส่ชุดแต่งงานนี้ ถูกทำร้ายดุด่าอยู่ตรงหน้าประตูจวนมหาเสนาบดี ถูกบีบบังคับให้แต่งงาน กลายเป็นเรื่องตลก และความอัปยศในเมืองหลวง
หลายเดือนต่อมา สวมใส่ชุดแต่งงานชุดเดิม นางยืนอยู่ตรงประตูจวนอ๋อง และตอบโต้กลับด้วยความสำเร็จ กลายเป็นพระชายาของผู้สำเร็จราชการแทนผู้สูงส่ง
ช่างเป็นการ……พลิกโชคชะตาจริง ๆ!
เซี่ยจื่ออันไม่จำเป็นต้องพึ่งพาความรุ่งโรจน์ของจวนมหาเสนาบดี ตอบโต้กลับความสำเร็จในชีวิตของนางเอง
ก่อนที่จะกราบไหว้ฟ้าดิน ไท่หวงไท่โฮ่วก็นำเชือกบ่วงบาศออกมาอีกครั้ง พร้อมตรัสออกมา “พวกเจ้าอภิเษกกัน ข้าเองก็ไม่มีของขวัญอะไรจะมอบให้พวกเจ้า เพราะว่าอย่างไรแล้ว ภูเขาเยือกเย็นสถานที่เหน็บหนาวเช่นนั้น ไม่มีสิ่งใดออกมาได้ ข้าก็เลยมอบเชือกบ่วงบาศนี้ให้เจ้า เก็บรักษาเอาไว้ให้ดีเถิด”
ชนรุ่นหลัง เมื่อมองเห็นไท่หวงไท่โฮ่วหยิบเชือกผุพังเส้นหนึ่งออกมาเป็นของขวัญสำเร็จงานอภิเษกให้กับจื่ออัน ต่างก็พาตื่นตะลึง
มีเพียงแค่ราชครูเหลียงและขุนนางเก่าบางส่วน ใบหน้ากลับดูเคร่งขรึมขึ้นมา
เชือกบ่วงบาศนี้มีชื่อเสียง ในปีนั้นใช้มัดจักรพรรดิฮุ่ยเอาไว้
ในตอนนั้น จักรพรรดิฮุ่ยยังคงเยาว์วัยไม่รู้เรื่องรู้ราว ถูกหลงไท่โฮ่วใช้เชือกบ่วงบาศมัดเอาไว้จนต้องคุกเข่าอยู่ในท้องพระโรง และให้เขาสาบานออกมาต่อหน้าเก้าอี้มังกรว่า ภายหน้าจะไม่กระทำการตามอำเภอใจอีก
และนับตั้งแต่นั้นมา จักรพรรดิฮุ่ยก็มีเหตุผลขึ้นมาก และถือว่าเชือกเส้นนี้ที่เคยมัดเขาเอาไว้นั้นเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังว่ากันว่าเชือกเส้นนี้ สามารถมัดราชาผู้อ่อนแอ และขุนนางละโมบได้
ขณะที่เตรียมจะกราบไหว้ฟ้าดินกันนั้น ไท่หวงไท่โฮ่วได้สั่งให้คนไปเชิญกุ้ยไท่เฟยผู้นั้น ที่อ้างว่าปวดหัวออกมา