ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 592
เมื่อใช้แสงสลัวจากบนพนังนั้นแล้ว เขามองเห็นเซี่ยจื่ออันยืนอยู่ด้านนอกของกำแพงเหล็ก
เขาคิดว่าตัวเองมองผิดไป จึงก้าวไปด้านหน้าอีกหนึ่งก้าว หรี่ตาเล็กลงมองออกไปอย่างระมัดระวัง
เป็นนางจริง รูปร่างท่าทางเช่นนั้นที่ทำให้เขากรุ่นโกรธ
“เจ้ายังไม่ตายอย่างนั้นหรือ?” เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังขึ้นมา เขาคิดว่าแผนการนี้ อย่างน้อยก็สามารถทำให้จื่ออันตายไปได้
ความผิดหวังอันรุนแรงทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ใบหน้าที่สกปรกค่อย ๆ เกิดความกรุ่นโกรธขึ้นมา
“ชอบคุณมหาเสนาบดีมาก ข้ายังมีชีวิตอยู่สบายดี” จื่ออันมองไปยังเขาอย่างนิ่งเงียบ สายตาไม่ได้มีร่องรอยของความวุ่นวายใด นางเพียงแต่มามองความตกต่ำของเขา และไม่จำต้องมาพร้อมกับความเกลียดชังใด
“เจ้ามาทำอะไรกัน?” เซี่ยหวายจุนลากสองขาที่ถูกอ๋องอันทุบตีจนกระดูกหักไปแล้วมาข้างหน้า ยิ้มเย็นเอ่ยออกมา “คิดจะมาดูเรื่องตลกของข้าอย่างนั้นหรือ? เซี่ยจื่ออัน ข้าอย่างไรแล้วก็เป็นบิดาของเจ้า หากว่าข้าโชคร้ายตกต่ำ เจ้าที่เป็นบุตรสาวของข้า ก็ไม่มีทางที่จะเปล่งประกายไปได้”
จื่ออันยิ้มเย็นออกมา สายตาเต็มไปด้วยความเย็นเยียน “ท่านผิดไปแล้ว มหาเสนาบดีเซี่ย บุตรสาวของท่านเซี่ยจื่ออันตายไปแล้ว ข้าไม่ใช่บุตรสาวของท่าน”
เซี่ยวหวายจุนเย้ยหยันออกมา “ถึงแม้ว่าเจ้าจะปฏิเสธทุกวิถีทาง ก็เปลี่ยนแปลงความจริงไม่ได้ว่าสายเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเจ้าเป็นของตระกูลเซี่ย คนในครอบครัวหากว่ารุ่งเรืองหรือตกต่ำ ล้วนแต่เผชิญกันทุกคน เจ้าคิดว่าหากว่าข้าสะดุดล้มลง ผู้สำเร็จราชการแทนยังจะยอมอภิเษกกับเจ้าอย่างนั้นหรือ? อย่าไร้เดียงสาจนเกินไป เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าก็จะเป็นเพียงแค่ลูกกำพร้าเสียแล้ว”
จื่ออันยิ้มออกมาจาง ๆ “มหาเสนาบดีอยู่ที่นี้ คงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อวานนี้ข้าได้แต่งงานให้กับท่านอ๋องแล้ว และตามสถานะแล้ว มหาเสนาบดีผู้สูงส่งก็ควรจะได้รับการคำนับจากข้า แต่น่าเสียดายที่มหาเสนาบดีอยู่ในคุก ทำให้พลาดการคำนับนี้เสีย ข้าก็เลยรู้สึกสบายใจขึ้นมา เพราะอย่างไรแล้ว มหาเสนาบดีก็ไม่สมควรได้รับมัน”
“อะไรนะ?” มหาเสนาบดีค่อนข้างจะประหลาดใจ หรี่ตาเล็กมองยังนาง เมื่อครู่นี้แสงสลัวทำให้มองเห็นได้ไม่ชัด มาตอนนี้หากว่ามองไปอย่างละเอียดแล้ว ก็เห็นว่านางมวยผมอย่างหญิงแต่งานแล้วจริง เขายิ้มเย็นออกมา “เช่นนั้นก็ยินดีกับเจ้าแล้ว”
มุมปากของจื่ออันยกยิ้มขึ้นมา “ไม่เพียงแต่เรื่องยินดีเรื่องนี้ ช่วงนี้เมืองหลวงเกิดเรื่องน่ายินดีขึ้นมากมาย หนึ่งในจุดประสงค์ที่ข้ามานั้น ก็คือมาแบ่งปันเรื่องน่ายินดีให้กับมหาเสนาบดี”
“ไม่จะต้องเอ่ยถึง ตัวข้าไม่ต้องการฟัง” เขาเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา
จื่ออันกลับเอ่ยออกมาต่อว่า “เรื่องแรก ฮูหยินผู้เฒ่าจวนมาเสนาบดีได้ตายไปแล้วในพื้นที่ภัยพิบัติ ตายอย่างน่าอนาถ ถูกผู้คนขว้างปาด้วยหินจนตาย”
“เจ้าว่าอะไรนะ?” สีหน้าของเซี่ยหวายจุนเปลี่ยนไปในทันที ดวงตาเบิกกว้างขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
“เรื่องที่สอง ภรรยาที่รักของท่าน เฉินหลิงหลงนำเงินทองของจวนมหาเสนาบดีหนีไปแล้ว พร้อมกับเซี่ยหว่านเอ๋อ”
“นางอสรพิษ ข้ารู้อยู่แล้วว่านางไว้ใจไม่ได้” เซี่ยหวายจุนตะโกนด่าออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยว
มุมปากของจื่ออันยังคงยิ้มเย็นออกมา “เรื่องที่สาม ท่านหวังมาตลอดว่ามารดาของข้าจะไม่มีความสุข ทว่าน่าเสียดาย อ๋องอันได้สู่ขอมารดาข้าอย่างเป็นทางการแล้ว ต้องการจะอภิเษกนางเป็นพระชายาของอ๋องอัน”
นี่เป็นเรื่องที่จื่ออันสร้างขึ้น แต่ว่ามันทำให้เซี่ยหวายจุนถูกโจมตีเข้าอย่างหนักโดยที่ไม่ต้องสงสัย
เขาจ้องมองอย่างแน่นิ่งไปยังจื่ออัน สองไหล่ค่อย ๆ ทรุดลง ใบหน้าเต็มไปด้วยความทรุดโทรม หยวนฉุ่ยยวี่ ข้าอยากจะฆ่าเจ้าจริง ๆ
การตายของมารดาไม่เท่ากับการโจมตีอย่างรุนแรงนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจจากการตายของมารดา แต่เป็นว่าเขาไม่อาจจะยอมรับการที่หยวนฉุ่ยยวี่กับอ๋องอันได้สมตามความปรารถนา พวกเขาสมควรที่จะตกนรกไป
“ข้าจะสาปแช่งพวกเขาทุกวัน พวกเขาจะต้องไม่ได้ตายดีแน่” เซี่ยหวายจุนกัดฟันเอ่ยออกมา
จื่ออันยิ้มแล้วเอ่ย “หากว่าการสาปแช่งมีประโยชน์ ท่านมหาเสนาบดีคงจะตายไปนานแล้ว ท่านไม่รู้หรอกหรือ? ด้านนอกนั้นมีราษฎรมากมายเท่าไหร่ที่หวังจะให้ท่านตายไป? พวกเขาจุดธูปวันละสามเวลา ในตอนที่กราบไหว้เทวดา ร้องขอกับสวรรค์ ว่าเมื่อไหร่ที่จะรับท่านกลับไป”
“ข้ายังไม่ได้สารภาพผิด กรมอาญายังไม่ได้ตัดสิน แล้วใครเป็นคนที่กระจายข่าวลือออกไป?” เซี่ยหวายจุนกรุ่นโกรธ
“มหาเสนาบดีอย่าไร้เดียงสาจนเกินไป ถึงแม้ว่าท่านยังไม่ได้สารภาพผิด แต่หลักฐานสามารถชี้ชัดได้ มหาเสนาบดีคิดว่าท่านอ๋องจะทำอะไรท่านไม่ได้จริง ๆ อย่างนั้นหรือ? ถึงแม้ว่ากฎหมายของต้าโจวจะระบุชัดว่า ขุนนางในราชสำนักขั้นหนึ่งกระทำความผิด หากว่าไม่สารภาพ ก็ไม่อาจตัดสินได้ ทว่าจะให้ท่านตายไปในคุกมืดมิดนี้ ไม่ต้องเอ่ยถึงท่านอ๋อง แม้แต่ข้าก็ยังทำได้”
คำพูดของจื่ออัน ทำลายความหวังสุดท้ายของเขาลงไปอย่างสิ้นเชิง