ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 598
นางเหลือบมองไปยังเซียวเซียวอย่างรวดเร็ว เซียวเซียวกลับยังมองไปยังนาง ก่อนที่นางจะเลื่อนสายตาออกไปบอกกับหยวนฉุ่ยยวี่ “คนถัดไป”
มู่หรงเจี๋ยและจื่ออันมองสบตากัน ต่างก็พากันผิดหวัง
คราวนี้หยวนฉุ่ยยวี่กลับหยิบได้ชื่อของตนเอง นางวางลงบนโต๊ะด้วยความลำบากใจ “เอาล่ะ ใครจะเป็นคนถาม?”
“ข้าถามเอง!” จู่ ๆ อ๋องอันก็ส่งเสียงออกมา
ทุกคนพากันมองไปยังหยวนฉุ่ยยวี่ หยวนฉุ่ยยวี่ฝืนยิ้มออกมา “ท่านอ๋องเชิญถามเถิด”
อ๋องอันมองไปยังหยวนฉุ่ยยวี่แล้วเอ่ยถาม “หากว่ามีวันหนึ่ง ข้าต้องออกจากเมืองหลวง ไปเที่ยวชมแม่น้ำขุนเขาของต้าโจว เจ้าจะยินดีไปด้วยกันกับข้าหรือไม่?”
ทุกคนพากันมองไปยังหยวนฉุ่ยยวี่ และไม่คิดเลยว่าอ๋องอันจะเอ่ยถามออกไปตามตรงเช่นนี้ ไปกับเขา นี่ไม่ใช่หมายความว่าทั้งสองคนจะยอมออกเดินทางไปด้วยกันให้ไกลกว่านี้หรือไม่?
หยวนฉุ่ยยวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าไม่รู้”
“นี่คือความจริง” เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยเตือนออกมา
หยวนฉุ่ยยวี่มองไปยังอ๋องอัน “ก่อนหน้านั้นไม่เคยคิดมาก่อน เพราะฉะนั้นจู่ ๆ ท่านถามออกมาเช่นนี้ ข้าไม่รู้จริง ๆ และมันก็มาจากส่วนลึกในใจของข้า”
“ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เจ้าสามารถลองคิดถึงเรื่องนี้ได้ ได้หรือไม่?” อ๋องอันเอ่ยออกมา
หยวนฉุ่ยยวี่เหลือบมองไปยังจื่ออันอย่างร้องขอความช่วยเหลือ จื่ออันแสร้งทำเป็นว่ามองไม่เห็น
หยวนฉุ่ยยวี่ทำได้เพียงเอ่ยออกมา “อืม ข้าจะลองครุ่นคิดดู”
อ๋องอันที่ระเบิดถามคำถามออกมาเช่นนี้ ทำให้เกมนี้ดูสนุกขึ้นมา
หยวนฉุ่ยยวี่คราวนี้หยิบป้ายของเซียวท่าขึ้นมา เฉินหลิวหลิ่วลุกขึ้นมาทันที ทำเอาเก้าอี้ล้มลงไป นางรีบร้อนเอ่ยออกมา “ข้าจะถาม”
ซูชิงหัวเราะออกมาเบา ๆ “เจ้านี่ช่างร้อนรนจนเกินไปแล้ว?”
เฉินหลิวหลิวกลับไม่สนใจ มองไปยังเซียวท่า รวบรวมความกล้าเอ่ยถามออกมา “เซียวท่า ท่านจะขอข้าแต่งงานหรือไม่?”
ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าหลิวหลิ่วนั้นช่างกล้าหาญ ทว่าไม่คิดเลยว่านางจะกล้าเอ่ยถามออกมาเช่นนี้ต่อหน้าทุกคน
จื่ออันกังวลใจเล็กน้อย เพราะอย่างไรแล้ว เซียวท่าคนนี้ก็เป็นเหมือนกับรากไม้แข็ง เอ่ยถามเขาไปเช่นนี้ ก็ไม่แน่ว่าจะได้รับคำตอบที่ดีได้
และแน่นอนว่าเซียวท่าส่ายศีรษะ “ไม่สู่ขอ”
ใบหน้าของเฉินหลิวหลิ่วซีดขาว กลับไม่ยอมแพ้เอ่ยถามออกมาด้วยเสียงสะอื้นไห้ “เพราะอะไร? เป็นเพราะว่าข้าไม่ดีพออย่างนั้นหรือ?”
เซียวท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ดีก็ดีอยู่ ทว่าเจ้าหยาบคาย หญิงสาวไม่มีใครที่มีท่าทางเหมือนกันกับเจ้า”
ตุ๊กตาน้ำเต้าตระกูลเฉินทั้งสิบสองพากันลุกยืนขึ้นมา เดินไปยังด้านข้างของเซียวท่า เฉินหลงกดมือลงบนไหล่ของเซียวท่า เอ่ยข่มขู่ออกมา “เซียวท่า พวกเราออกกันไปพูดคุยกันสักสองสามประโยคเถิด” พี่น้องตระกูลเฉิน ต่างก็พากันกำหมัดขึ้นมา
การต่อสู้ครั้งนี้ หมายความต้องการจะเอาชนะเซียวท่าอย่างนั้นหรือ
เฉินหลิวหลิ่วตบลงบนโต๊ะ “ห้ามก่อเรื่อง นอกจากข้าแล้ว ผู้ใดก็ห้ามรังแกเขา”
ตุ๊กตาน้ำเต้าเมื่อได้ยินว่าน้องสาวโมโหขึ้นมาแล้ว ก็พากันเดินกลับไปนั่งแต่โดยดี
เซียวท่าเมื่อได้ยินประโยคนี้เข้า ก็โมโหออกมาเล็กน้อย “ทำไมเจ้าถึงสามารถรังแกข้าได้? ข้าไม่มีทางที่จะยอมถูกเจ้ารังแก เจ้านี่ช่างดูประหลาดเสียจริง”
จ้วงจ้วงดึงเซียวท่าเอาไว้ “พอแล้ว เจ้าหุบปาก คนถัดไป คนถัดไป!”
เฉินหลิวหลิ่วนั่งลง ดวงตาแดงก่ำ จื่ออันมองมายังนางอย่างสงสารขึ้นมา
เฉินไท่จวินเหลือบมองไปยังนางอย่างช้า ๆ ราวกับว่ากำลังจะเอ่ยเตือน แล้วก่อนหน้านั้นที่นางสัญญาเอาไว้เล่า?
จื่ออันหันไปจ้องมองอย่างละอายใจ เซียวท่าคนผู้นี้ก็เป็นเหมือนกันกับก้อนหิน ที่ดาบหอกฟันแทงไม่เข้า
ดูเหมือนว่าคราวนี้นางจะต้องละอายใจต่อเฉินไท่จวินแล้ว
และครั้งนี้ หยวนฉุ่ยยวี่ก็จับสลากได้มู่หรงเจี๋ย
ทุกคนพากันมองไปยังมู่หรงเจี๋ย มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา “รีบถามเข้า ข้อแรก ข้าไม่ได้มีความลับอะไร ข้อสองข้าไม่มีเรื่องส่วนตัว ข้อที่สามไม่มีเรื่องใดที่ไม่อาจบอกผู้อื่นได้”
คนที่เอ่ยถามนั้นคือซูชิง เขายังไม่ทันเอ่ยถาม ก็ปิดปากหัวเราะออกมาก่อน
และดูเหมือนว่าเฉินหลิวหลิ่วจะลืมเรื่องความอึดอัด และเสียใจก่อนหน้านั้นไปแล้ว จึงเอ่ยถามออกมาด้วยความประหลาดใจ “ซูชิงเจ้าจะถามอะไร? ทำไมถึงได้หัวเราะออกมาเช่นนี้ รีบถามเข้า ข้าเองก็อยากจะหัวเราะเช่นกัน”