ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 631

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 631

ทันทีที่พระสนมเหมยจากไป พระสนมอี๋ก็สั่งให้คนถอยออกไป แล้วปิดประตูวัง

องค์รัชทายาทนั่งลง “ท่านเริ่มพูดคุยกับพระสนมเหมยตั้งแต่เมื่อใดกัน? นี่ไม่ใช่เรื่องเศร้าหรอกเหรอ?”

พระสนมอี๋ส่งเสียงเย็นชาออกมา “นางเองเป็นคนที่เข้ามา ข้ามิได้ชอบสนใจนาง”

นางเดินวนไปรอบองค์รัชทายาท เดินไปยังด้านหลังของเขา ก่อนที่จะกอดองค์รัชทายาทเบา ๆ “ช่วงนี้ยุ่งหรือไม่? หลายวันแล้วที่ไม่ได้มา!”

“ก็ไม่ได้ยุ่งมากขนาดนั้น เพียงแต่ราชครูคอยให้ข้าคิดนโยบายอะไรออกมา น่ารำคาญยิ่งนัก!” องค์รัชทายาทเอ่ยออกมาอย่างรำคาญใจ

“ราชครูเองก็ทำเพื่อท่าน ตอนนี้สถานะของท่านยังอันตรายอยู่!” พระสนมอี๋จิ้มลงบนหน้าผากของเขา “ท่านจะต้องระมัดระวังเสียหน่อยถึงจะถูก”

องค์รัชทายาทดึงนางมาอยู่เบื้องหน้า กอดนางให้นั่งลงบนหน้าตักของตนเอง “แม้แต่ท่านเองก็เอ่ยออกมาเช่นนี้? ดูเหมือนว่าข้าคงจะมารู้สึกล่าช้าไปเสียแล้ว”

ริมฝีปากของพระสนมอี๋ไล้อยู่ใต้ติ่งหูของเขาอย่างลุ่มหลง “ไม่ใช่ว่าท่านมารู้เอาภายหลัง มีบางคนที่มีใจยากจะคาดการณ์ได้ ใช่แล้ว ช่วงนี้เด็กคนนั้นจากตระกูลหูเป็นอย่างไรบ้าง?”

เมื่อเอ่ยถึงหูฮวนสี่ องค์รัชทายาทก็โกรธขึ้นมา “อย่าเอ่ยถึงอีกเลย ตั้งแต่ที่เซี่ยหว่านเอ๋อร์ตบตีนางคราวที่แล้ว นางก็ไม่ยินยอมที่จะพบกับข้าอีกเลย เซี่ยหว่านเอ๋อร์มักจะทำแต่เรื่องเลวร้าย”

พระสนมอี๋กัดหูของเขา “ได้ยินน้ำเสียงของฝ่าบาทเช่นนี้ ดูเหมือนว่าออกจะห่วงใยคุณหนูใหญ่ตระกูลหูท่านนี้มากสินะ”

“ไม่ใช่ว่าราชครูให้ข้าไปหาหูฮวนสี่ ข้าคงจะไม่ไปหานาง ทั่งกายเหมือนได้กลิ่นทองแดง สถานะต่ำต้อย ชายชราตระกูลหูคนนั้นเองก็ไม่รู้ว่าบ้าไปแล้วหรือไม่ มีลูกหลานมากมาย แต่กลับนำกิจการของตระกูลมอบให้หูฮวนสี่ ที่มีสถานะเป็นเพียงลูกจากภรรยารอง”

องค์รัชทายาทเอาแต่บ่นพึมพำ แล้วยังไม่ใส่ใจต่อสาวงาม พระสนมอี๋ก็ดูเหมือนจะเริ่มโมโหขึ้นมาเล็กน้อย “เอาล่ะ หูฮวนสี่คนนี้พูดถึงกันมานานแล้ว พอเถิด ดูข้าสิ วันนี้ข้าใช้ชาดทาปากอันใหม่ ดูดีหรือไม่?”

นางนั่งลงบนตักของเขา กอดคอของเขา แล้วมองไปยังเขาด้วยท่าทางที่มีเสน่ห์

องค์รัชทายาทเห็นริมฝีปากของนางเป็นสีแดงสด อีกทั้งยังส่องประกายสีน้ำผึ้งแวววาว ก็อดไม่ได้ที่จะรักนาง ประทับจูบลงไป “ชอบ ข้าชื่นชอบเป็นอย่างมาก!”

พระสนมอี๋กลับแสร้งทำทีเป็นสาวน้อย หัวเราะราวกับเสียงระฆังเงินหลีกหนีออกไป “ถ้าชอบ ข้าก็ไม่ให้ท่านแตะต้อง!”

ในตอนที่นางวิ่งออกมา ผ้าคลุมไหล่ก็หลุดลง เผยให้เห็นไหล่ขาวนวล และกระดูกไหปลาร้า ดูมีเสน่ห์อย่างยิ่ง อดที่ได้ที่จะหวั่นไหวขึ้นมา “ดูสิว่าข้าจะลงโทษท่านอย่างไร”

เขาวิ่งเข้าไปกอดไปยังเอวอันอ่อนนุ่ม แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ “ยังจะวิ่งหนีอีกหรือ?”

พระสนมอี๋กอดคอเขาเอาไว้ แล้วจ้องมองยังเขาด้วยความคลั่งไคล้

ที่องค์รัชทายาทชื่นชอบมากที่สุดก็คือรูปลักษณ์ของนาง

ถึงแม้ว่าพระสนมอี๋จะให้กำเนิดบุตรมาแล้ว แต่ก็ดูแลรักษาเป็นอย่างดี ผิวละเอียดบอบบาง จนมองไม่เห็นแม้แต่รูขุมขน ดึงดูดสายตาขององค์รัชทายาทเป็นอย่างมาก

คนที่คอยเฝ้าอยู่ด้านนอก เมื่อได้ยินเสียงความวุ่นวายด้านในนั้น ต่างก็เผยยิ้มออกมา ต่างก็คุ้นชินกับองค์รัชทายาทแล้ว เพราะฉะนั้น พระสนมอี๋และคนที่อยู่ข้างกายของเขาล้วนแต่คอยปกป้องเขา

ถึงได้พูดถึงเรื่องสำคัญนี้ขึ้นมา

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท