ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 682
พวกเขาวิเคราะห์กันว่า ที่องค์รัชทายาทแคว้นต้าเหลียงร้องขอที่จะมาด้วยตนเอง หากว่ารู้ว่าจ้วงจ้วงฆ่าตัวตายเพื่อชายหนุ่มคนอื่นแล้ว ก็ไม่แน่ว่าเขาจะยอมช่วยเหลือ เพราะฉะนั้นแล้ว ทางเลือกที่ดีที่สุดคือทำให้เขาเมาไปเสียก่อนเจ็ดแปดส่วน ก่อนที่จะเริ่มเอ่ยปาก เมื่อเขาเอ่ยออกมาว่ามอบให้ แล้วเขียนหนังสือออกมาแล้ว จึงสั่งให้คนรีบออกนอกเมือง มุ่งหน้าไปยังแคว้นต้าเหลียงในทันที
หนี่หรงและซูชิงเองก็รออยู่ด้านนอกแล้ว รอเมื่อได้รับหนังสือแล้วก็ออกเดินทางไปในทันที
แต่เห็นได้ชัดว่าองค์รัชทายาทของต้าเหลียง และองค์รัชทายาทของต้าโจวนั้นแตกต่างกันออกไป เขาดื่มไปแล้วรอบหนึ่ง แต่กลับไม่พบว่ามีอาการมึนเมาใด เมื่อเงยหน้าขึ้น สายตายังคงเปล่งประกายเฉียบคมอยู่ “ท่านอ๋อง มีอันใดเอ่ยออกมาเถิด”
เขามองออก งานเลี้ยงในคืนวันนี้ถูกจัดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยทั่วไปแล้ว เมื่อมีทูตเข้ามายังแคว้น งานเลี้ยงจะถูกจัดขึ้นในวันรุ่งขึ้น วันแรกจะต้องให้ท่านทูตได้พักผ่อนกันก่อน
ทว่าเขานั้นแม้แต่น้ำก็ยังไม่ได้ดื่ม ก็ถูกดึงมาถึงที่นี่
เขาเองก็รู้ ผู้สำเร็จราชการแทนน้อยนักที่จะจัดการงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับคน หรือว่าอาจจะไม่มี
อีกทั้งหัวข้อในการสนทนาในค่ำคืนนี้ มีเพียงให้เขาดื่มเหล้า
มู่หรงเจี๋ยวางจอกเหล้าลง ทุกคนเองก็วางเหล้าลง ต่างพากันมองหน้ากัน
มู่หรงเจี๋ยเงียบลงครู่หนึ่งแล้วเอ่ยออกมา “มีเรื่องบางอย่างจริง ๆ และก็ขอให้ฝ่าบาทอย่าได้กล่าวโทษ ข้าเพียงแต่อยากจะถามว่า ฝ่าบาทมีเขาละมั่งโลหิตอยู่หรือไม่?”
ซ่งรุ่ยหยางเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว “ท่านอ๋องทำไมถึงได้ถามเช่นนี้?”
“ท่านอาเล็กของข้าถูกพิษเข้า จะต้องใช้เขาละมั่งโลหิตเพื่อถอนพิษ” มู่หรงเจี๋ยล้มเลิกต่อแผนการเดิม เพราะว่าเห็นได้ชัดว่าซ่งรุ่ยหยางดูสงบนิ่ง เขาเองจึงเอ่ยออกมาตามตรง
ท่าทีของซ่งรุ่ยหยางดูเคร่งเครียด “องค์หญิงถูกพิษ? ทำไมถึงได้เป็นเช่นนี้ได้?”
“ว่าแล้วเรื่องก็ยาว ค่อย ๆ เล่าให้ฝ่าบาทได้ฟังทีหลัง” มู่หรงเจี๋ยมองยังเขา “เช่นนั้น ฝ่าบาทมีเขาละมั่งโลหิตจริงใช่หรือไม่?”
ซ่งรุ่ยหยางพยักหน้า “ใช่”
มู่หรงเจี๋ยมองสบตากับจื่ออัน จื่ออันสะกดข่มความยินดีเอาไว้ เอ่ยถามเสียงเบา “เช่นนั้นไม่รู้ว่าฝ่าบาทจะสามารถให้พวกเราได้ยืมเขาละมั่งโลหิตนั้นได้หรือไม่? พวกเราต้องการเพียงผงมันเล็กน้อยก็พอแล้ว ที่เหลือสามารถมอบคืนกลับให้ฝ่าบาทได้”
ซ่งรุ่ยหยางส่งยิ้มขมขื่นออกมา “ข้ามีเขาละมั่งโลหิตจริง ทว่าเมื่อสิบเจ็ดปีก่อน ได้ถูกคนขโมยไปแล้ว”
ทุกคนส่งเสียงร้องออกมาด้วยความผิดหวัง
มู่หรงเจี๋ยค่อนข้างที่จะไม่เชื่อ “มีคนเข้าไปขโมยของในวัง? เป็นใครที่ขโมยกัน? สุดท้ายแล้วไม่ได้ไล่ตามกลับมาอย่างนั้นหรือ?”
ซ่งรุ่ยหยางหยิบจอกเหล้าขึ้นมา แทบจะกัดฟันเอ่ยออกมา “ข้าตามหาเจ้าโจรนี้มาโดยตลอด เจ้าหมอนี่นอกจากจะขโมยเขาละมั่งโลหิตไปแล้ว ยังขโมยของที่สำคัญมากของข้าไป จนกระทั่งวันนี้ก็ยังไม่ได้กลับคืนมา”
“เป็นใครกัน?” จื่ออันเอ่ยถาม
สีหน้าของซ่งรุ่ยหยางดูหดหู่ เอ่ยออกมาด้วยความกรุ่นโกรธ “เป็นอดีตหัวหน้าพรรคของต้าเหลียง ชื่อว่าหลิวเย่ว์ เป็นหัวหน้าโจรหญิง หากว่าข้าตามหานางพบ จะต้องลงโทษนางอย่างรุนแรง”
จื่ออันเอ่ยถาม “เช่นนั้นทำไมถึงไม่ตรงไปยังพรรคโจรนั้นเพื่อหาคน? นางหนีไปแล้วหรือ?”
“หนีไปแล้ว แม้แต่พรรคก็ไม่ต้องการแล้ว หลังจากที่ขโมยของของข้าไปแล้ว คืนวันนั้นก็เก็บเสื้อผ้าแล้วหนีหายไป ข้าตามหามาสิบเจ็ดปีก็หาร่องรอยของนางไม่พบ”