ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 698
นางยังคงลองเชิงต่อไป “อย่างไรแล้ว เขาก็บอกว่าไม่ได้ส่งคนมาไล่ฆ่าท่าน เพียงแต่เคยส่งคนออกตามหาท่านเท่านั้น หรือว่าจะเป็นศัตรูคนอื่นที่ลงมือ?”
“ไม่ใช่ เป็นคนจากวังบูรพาของเขา ข้ารู้จัก” หลิวเย่ว์เอ่ยออกมาอย่างโกรธเคือง “เขาเลวร้าย ใจดำ เลวทรามถึงเพียงนี้ ในตอนนั้นข้าไม่ควรเห็นแก่รูปภาพของเขาที่ดูรูปหล่อ ถึงได้ไปหลับนอนกับเขา ไม่ ในตอนต้นข้าไม่ควรวางยากามารมณ์กับเขา ข้าไม่ควรวางยาพิษเพื่อฆ่าเขา”
จื่ออันไม่อาจจะหัวเราะออกมาได้ วางยาอย่างนั้นหรือ? ดูเหมือนว่าซ่งรุ่ยหยางคงไม่มีความรู้สึกอะไรให้เอ่ยถึงได้ แย่งชิงของสำคัญบางอย่างออกไป หวังว่าที่เขาเอ่ยถึงคงจะไม่ใช่ครั้งแรกของเขา
เฮ้ คราวนี้ก็ยุ่งยากแล้ว นางคงจะไม่นำเขาละมั่งโลหิตออกมา เพราะกลัวว่าจะเปิดเผยสถานะออกมา
เมื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จื่ออันจึงเอ่ยออกมา “เอาเช่นนี้ ท่านมอบให้ข้าเป็นการส่วนตัว ข้าไม่มีทางนำเรื่องนี้บอกกับใครออกไป หากว่าท่านไม่มอบให้ ข้าคงจะต้องบอกกับซ่งรุ่ยหยางว่าท่านอยู่ในเมืองหลวง”
“ท่านข่มขู่ข้าอย่างนั้นหรือ?” หลิวเย่ว์หรี่ตาลงมองยังนาง
จื่ออันพยักหน้า เอ่ยออกมาตามตรง “ใช่แล้ว ข้ากำลังข่มขู่ท่านอยู่”
หลิวเย่วโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าเมื่อคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยออกมา “ดูเหมือนว่าท่านจะข่มขู่ข้าได้จริง ๆ ใครใช้ให้ท่านจับข้อบกพร่องของข้าได้กัน?”
จื่ออันรู้สึกว่าใบหน้าของนางดูจะงี่เง่าอยู่เล็กน้อย ดูคล้ายคลึงกันกับอี๋เอ๋อร์อยู่หลายส่วน
“เช่นนั้นก็ถือว่าเห็นด้วยแล้ว?” จื่ออันเอ่ยถาม
หลิวเย่ว์ส่ายศีรษะ “ข้าไม่อาจเห็นด้วยได้ หากว่ามอบเขาละมั่งโลหิตให้ท่านไป ซ่งรุ่ยหยางจะต้องรู้ว่าข้าอยู่ในเมืองหลวง เพราะว่าองค์หญิงใหญ่จะต้องใช้เขาละมั่งโลหิตถึงจะช่วยชีวิตเอาไว้ได้ เรื่องนี้ทุกคนในเมืองหลวงต่างก็รู้ดี ไม่เท่าว่าเป็นการเปิดเผยสถานะของข้าอย่างนั้นหรือ?”
“แต่หากว่าท่านไม่มอบให้ ข้าก็จะบอกซ่งรุ่ยหยางทันที” จื่ออันเอ่ย
หลิวเย่ว์หันหน้าแล้วยิ้มออกมา “ท่านไม่มีทางทำ หากว่าเมื่อท่านเอ่ยออกไปแล้ว ข้าจะทำลายเขาละมั่งโลหิตก่อน ฆ่านกสองตัวด้วยก้อนหินก้อนเดียว…ไม่ ยิงปืนนัดเดียวขจัดเรื่องไปสองเรื่อง ข้าชื่นชอบเป็นที่สุดแล้ว”
จื่ออันไม่คิดเลยว่านางจะรับมือด้วยได้ยากเพียงนี้ ความคิดชัดแจ้งเพียงนี้ ก็เป็นปัญหาแล้ว
ในเมื่อข่มขู่ไม่ได้ ก็ทำได้เพียงแค่ใช้อารมณ์แล้ว “ตอนนี้องค์หญิงใหญ่กำลังตกอยู่ในอันตราย อีกเพียงแค่ไม่กี่วัน…”
หลิวเย่ว์ขัดคำพูดของนาง “ไม่จำต้องเอ่ยออกมาอีกแล้ว ต่อให้ฟ้าจะถล่มถลายข้าก็ไม่มีทางที่จะใจอ่อน ท่านคิดว่าข้าไม่รู้อย่างนั้น หรือว่าซ่งรุ่ยหยางมาที่นี่เพื่ออะไร? เขามาเพื่อขอองค์หญิงใหญ่แต่งงาน ผู้ชายคนนี้ส่งคนมาไล่ฆ่าข้า เขาน่ารังเกียจ ข้าไม่มีทางให้เขาได้สมหวัง แล้วแต่งสาวงามกลับไป”
“ท่านเข้าใจผิดแล้ว องค์หญิงใหญ่มีคนที่อยู่ในใจแล้ว เขาคือแม่ทัพใหญ่เซียวเซียว”
“เซียวเซียวตายไปแล้ว ต่อให้จะยังไม่ตายไป เซียวเซียวเองก็มีฮูหยินแล้ว อีกทั้งยังเป็นหวงไท่โฮ่วที่ทรงประทานงานสมรสให้ นอกเสียจากว่านางจะเดินออกไปตายกลางถนนโดยไม่ระวังเข้า มิฉะนั้นแล้ว ต่อให้นางจะมีชีวิตอยู่วันหนึ่ง เซียวเซียวก็ไม่อาจที่จะหย่ากับนางได้” ท่าทางของหลิวเย่ว์เหมือนราวกับว่า อย่าได้คิดว่าข้าเป็นเหมือนคนโง่เลย
นางเอ่ยออกมาต่อ “อีกทั้ง ต่อให้องค์หญิงใหญ่จะชอบหรือไม่ชอบเขา ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเขาชอบนาง สิบเอ็ดปีก่อนหน้านั้น เขาก็เคยมาขอแต่งงานแล้ว เพียงแต่เวลานั้นไม่สำเร็จ ไม่คิดเลยว่าเขาจะยังไม่ตายใจ สิบเอ็ดปีต่อมาก็ยังมาอีกครั้ง คนเช่นนั้น หากว่าตกอยู่ในมือของข้า ข้าจะต้องฉีกเขาออกเป็นชิ้น ๆ”
หลังจากที่นางเอ่ยออกมาแล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะกัดฟันออกมา
จื่ออันเอ่ยออกมาอย่างประหลาด “ท่านโกรธเกลียดเขาถึงเพียงนี้? เช่นนั้นก็ไม่ดีหรอกหรือ? ท่านตรงไปหาเขา ทุบตีเขาสักยก แม้แต่องค์รัชทายาทท่านยังกล้าทุบตีเลย”
หลิวเย่ว์มองยังนาง แล้วเอ่ยออกมาอย่างเชื่อมั่น “ท่านคิดว่าข้าโง่อย่างนั้นหรือ? ข้าทุบตีองค์รัชทายาท เป็นเพราะว่ามีพระชายาอย่างท่านอยู่ที่นี่ และท่านจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะว่าข้ามีเขาละมั่งโลหิต ท่านไม่มีทางที่จะให้รัชทายาทมาข้องแวะกับข้า หากว่าวันนี้ท่านไม่ได้มาด้วยแล้ว ข้าคงทำได้เพียงนำตัวอี๋เอ๋อร์ออกมา จากนั้นก็ไปหาอ๋องเหลียง ยุแยงให้อ๋องเหลียงเป็นศัตรูกันกับน้องชาย”
จื่ออันเขียนคำว่ายอมแพ้ออกมาอย่างสิ้นเชิง “ไม่เสียแรงที่ท่านเป็นถึงหัวหน้าพรรค ได้เรียนรู้แล้ว”
หลิวเย่ว์เอ่ย “ตอนนี้ท่านมีปัญหามากมาย กลับไปยังเมืองหลวงแล้ว คิดว่าก็คงจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ เพราะฉะนั้นข้าเลยไม่หวาดกลัวการข่มขู่จากท่าน ท่านควรจะลองตรองดูว่าจะผ่านด่านของรัชทายาทและพระสนมอี๋นี้ไปได้อย่างไร หากว่าผ่านด่านนี้ไปได้แล้ว ค่อยมาถามหาเขาละมั่งโลหิตจากข้าไป”