ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 699

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 699

หลังจากที่จื่ออันได้ยินคำนี้แล้ว ยิ้มแล้ววางมือลงบนไหล่ของนาง “หลิวเย่ว์ รอก่อนเถิด ข้าจะต้องมีวิธีการทำให้ท่านยอมมอบเขาละมั่งโลหิตออกมาแต่โดยดี”

หลิวเย่ว์หรี่ตามองยังนาง “อาศัยเพียงการข่มขู่เช่นนั้นของเจ้าอย่างนั้นหรือ? หรืออาศัยความน่าสังเวชเหล่านั้นของเจ้า?”

“ล้วนแต่ไม่ใช่ ข้าจะทำให้ท่านยินยอมส่งมอบเขาละมั่งโลหิตให้ข้าด้วยความเต็มใจ เชื่อหรือไม่?” เมื่อจื่ออันเอ่ยจบ ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วจากไป

มาคราวนี้ก็ถึงคราวที่หลิวเย่ว์เกิดความประหลาดใจแล้ว นางจะมีวิธีการอะไรที่ทำให้ตนเองนำเขาละมั่งโลหิตมอบออกมากัน?

“ท่านหยุดลงเดี๋ยวนี้ มาพูดให้ชัดเจนเสียก่อน” หลิวเย่ว์ไล่ตามออกไป

จื่ออันยักไหล่ขึ้น แต่กลับไม่ส่งเสียงใดออกมา เพียงแต่ยังคงมีรอยยิ้มมีเลศนัยนั้นดังเก่า ทำให้หลิวเย่ว์ที่มองดูเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา

รอยยิ้มมีเสศนัยนี้ ทำให้ในใจของหลิวเย่ว์สั่นสะท้านขึ้นมา นางไม่ชื่นชอบความรู้สึกเช่นนี้เลย

“ท่านพูดออกมาให้ชัดเจนกว่านี้” หลิวเย่ว์ไล่ถามต่อ

จื่ออันก็ยังคงไม่เอ่ยออกมา ตลอดทางที่ลงเขามาก็ไม่เอ่ยอันใด

เมื่อมาถึงเชิงเขาด้านล่าง องค์รักษ์เงาก็ขับรถม้ามาถึงแล้ว จื่ออันขึ้นมาบนรถม้า “ให้ไปส่งพวกท่านหรือไม่?”

“ตกลง!” เดิมทีนั้นหลิวเย่ว์ไม่คิดที่จะขึ้นรถม้า ทว่านางก็ยังคงต้องการจะสอบถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น มิฉะนั้นแล้วคืนนี้คงไม่อาจจะนอนหลับลงได้?”

เมื่อเป็นเช่นนี้ หลิวเย่ว์ก็วอแวไปกับจื่ออันมาตลอดทาง รอจนเมื่อรถม้ามาถึงเมืองหลวงแล้ว จื่ออันถึงได้โล่งใจ ยกมือขึ้นมาอย่างกระวนกระวายใจ “เอาล่ะ ข้าจะบอกเจ้าให้ ข้าไม่มีวิธีทำให้เจ้ามอบเขาละมั่งโลหิตออกมาได้”

“โกหก?” หลิวเย่ว์โมโหอย่างยิ่ง

จื่ออันมองยังนาง “ใช่แล้ว ข้าโกหกท่าน ทว่าคำพูดที่ท่านเพิ่งจะเอ่ยออกมาเมื่อครู่นี้ข้าคงจะแก้ไขแล้ว อันที่จริงแล้วซ่งรุ่ยหยางไม่ได้ชื่นชอบองค์หญิง ที่เขาชื่นชอบนั้นเป็นหญิงสาวคนอื่น อีกทั้ง เขายังนำคนคนนี้เก็บเอาไว้ในก้นบึ้งหัวใจมานานหลายปีแล้ว จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่อาจปล่อยวางได้ ที่เขาต้องการจะแต่งงานกับองค์หญิง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองแคว้น ท่านคงจะเข้าใจเขา เขาไม่ใช่คนที่ชื่นชอบการทำสงคราม หากว่าสามารถใช้วิธีการเช่นนี้มาทำให้ทั้งสองแคว้นเกิดความสงบได้ แล้วทำไมถึงจะไม่ยินดีกัน?”

หลิวเย่ว์ตะลึงไปครู่หนึ่ง “คนที่เขาชื่นชอบเป็นใครกัน?”

“เรื่องนี้คงไม่อาจจะบอกแก่ท่านได้ ท่านไม่อาจมอบเขาละมั่งโลหิตกับข้าได้ เป็นเพราะท่านมีหลักการของท่าน นี่เป็นความลับนี้ของซ่งรุ่ยหยาง ข้าเองก็ต้องยึดมั่นในหลักการของข้า ไม่อาจบอกแก่ผู้อื่นได้”

เมื่อเอ่ยจบแล้ว นางก็ลงจากรถมาเป็นคนแรก ให้นางและอี๋เอ๋อร์นำสี่ตาลงไป

หลิวเย่ว์เห็นชัดว่าจิตใจดูไม่สงบนิ่ง ขณะที่ลังเลอยู่ ก็ยังคงอุ้มสี่ตาลงจากรถม้าไป

จื่ออันเอ่ยสั่งตาวเหล่าต้า “ไปกันเถิด!”

ตาวเหล่าต้าเอ่ย “ขอรับ!”

รถม้าขับออกไปอย่างช้า ๆ จื่ออันเปิดม่านขึ้น มองไปยังหลิวเย่ว์ที่มือข้างหนึ่งอุ้มเจ้าสี่ตา อีกข้างหนึ่งจูงอี๋เอ๋อร์เอาไว้ คอยจ้องมองรถม้าห่างออกไปไกล

ตาวเหล่าต้าเอ่ยถาม “คุณหนูใหญ่ พวกเราจะส่งคนตามพวกนางไปดีหรือไม่ขอรับ? ไม่เช่นนั้นแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าพวกนางพักอยู่ที่ใดกัน?”

จื่ออันลดม่านลง ยิ้มออกมาอย่างเชื่อมั่น “ไม่จำเป็น นางจะต้องมาหาพวกเราถึงที่ พร้อมทั้งนำเขาละมั่งโลหิตมาด้วย”

ตาวเหล่าต้าตะลึงไปครู่หนึ่ง “เมื่อครู่ท่านไม่ใช่ว่าโกหกนางไปอย่างนั้นหรอกหรือ?”

“เจ้าเสี่ยวตาวโง่!” จื่ออันยิ้มแล้วส่ายศีรษะออกมา “เจ้าไม่เข้าใจความคิดของหญิงสาว”

ตาวเหล่าต้าไม่เข้าใจจริง ๆ “เช่นนั้นเพราะอะไร?”

“เด็กน้อยไม่จำเป็นต้องเอ่ยถามให้มาก” จื่ออันเอ่ย

ตาวเหล่าต้าเอ่ยพึมพำออกมา “ข้าเป็นเด็กน้อยเสียเมื่อไหร่กัน ข้าแก่กว่าท่านด้วยซ้ำไป”

จื่ออันอดที่จะหัวเราะไม่ได้ เห้อ ช่างวุ่นวายเสียจริง นางช่างมองใครเป็นเด็กน้อยไปเสียทุกคน

จื่ออันเพิ่งจะกลับมาถึงยังจวนองค์หญิง ก็เอ่ยสั่งออกไป “แจ้งแก่อ๋องเหลียงว่าตามหาคนพบแล้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ!” องค์รักษ์เงาเดินออกไป

ไม่นานนัก ก็พบว่าอ๋องเหลียงและเซียวท่ากลับมา ทั้งสองคนรีบร้อนเดินเข้ามา

สีหน้าของอ๋องเหลียงเต็มไปด้วยความร้อนรน “อี๋เอ๋อร์เล่า?”

จื่ออันจ้องมองยังเขาด้วยความเคร่งขรึมแล้วเอ่ยออกมา “ท่านนั่งลงเสียก่อน ฟังข้าเอ่ยอย่างใจเย็น”

หัวใจของอ๋องเหลียงมืดมนลง เอ่ยถามเสียงสั่น “เกิดเรื่องแล้ว? เกิดอะไรขึ้นกับนาง? ตายแล้ว?”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท