ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 738
เมื่อหลิวเย่ว์และเซียวท่ากลับไปยังโรงเตี้ยมแล้ว ในตอนที่หลิวเย่ว์เอื้อมมือออกไปผลักประตูนั้น ก็พบว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง
ประตูถูกเปิดมาก่อน
นางผลักประตูเปิดเข้าไป ก็พบว่าในห้องยุ่งเหยิงไปหมด หอสัมภาระของนางถูกรื้อค้นมาก่อน เสื้อผ้ากระจัดกระจายลงบนพื้น นางรีบพุ่งเข้าไปดู เอ่ยออกมาอย่างตื่นตกใจ “เขาละมั่งโลหิตหายไปแล้ว”
“อะไรนะ?” เซียวท่าตื่นตกใจ เดินเข้าไปตามหากับนาง หาไม่พบแล้วจริง ๆ “หรือท่านวางเอาไว้ที่บ้าน?”
“เป็นไปไม่ได้ ในตอนที่ข้าออกมานั้นก็เก็บเอาไว้ในห่อสัมภาระแล้ว” หลิวเย่ว์เอ่ย
“ที่นี้เห็นชัดเลยว่ามีคนเข้ามา ไม่ได้เอาเงินของท่านไป ไม่ได้มาเสียเปล่า แต่พุ่งเป้ามาที่เขาละมั่งโลหิต” เซียวท่าเอ่ย
เขาพุ่งออกประตูไปทันที ก็พบเข้ากับเสี่ยวเอ้อร์ที่เดินเข้ามาพอดี แล้วก็ดึงเขาเอาไว้ “วันนี้มีใครมาที่นี่บ้าง?”
เสี่ยวเอ้อร์ถูกใบหน้าอันดุร้ายของเขาทำให้ตื่นตกใจ จึงเอ่ยอย่างอ้ำอึ้ง “ไม่มีนะ”
“ของถูกขโมยแล้ว จะต้องมีคนเข้ามา” เซียวท่าอุ้มเขาเข้ามา เสี่ยวเอ้อร์มองไปยังภายในห้องที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง ก็ตกใจขึ้นมา “ร้านของข้าไม่เคยเกิดเรื่องถูกขโมยมาก่อน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“เจ้ารีบกลับไปถามคนในร้าน ว่ามีใครมาบ้างหรือไม่” เซียวท่าเอ่ย
“ขอรับ ผู้น้อยจะรีบไปทันที!” ในร้านกลางวันมีโจรขึ้น นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เสี่ยวเอ้อร์รีบลงไปยังชั้นล่างทันที
เซียวท่าตรวจสอบกลอนประตู นี่เป็นกลอนทองแดง ดูแข็งแรงมาก กลอนมีร่องรอยของการงัดแงะ ยังคงหลงเหลือลวดเหล็กเอาไว้
สามารถแน่ใจได้ว่า คนผู้นี้พุ่งเป้ามายังเขาละมั่งโลหิต
หลังจากนั้นไม่นาน เถ้าแก่ก็เดินนำเสี่ยวเอ้อร์เข้ามา เถ้าแก่รู้จักเซียวท่า ก็รีบประคองมือเคารพ “ที่แท้ก็เป็นแม่ทัพเซียว”
“เถ้าแก่ วันนี้มีคนแปลกหน้าเข้ามาหรือไม่?” เซียวท่าเอ่ยถาม
โรงเตี้ยมแบ่งเป็นชั้นหนึ่งชั้นสอง ลานด้านหน้าของชั้นหนึ่งนั้นเป็นสถานที่รับประทานอาหาร ด้านหลังนั้นเป็นที่พัก มีแบ่งแยกกัน หากว่าไม่ใช่คนที่เข้าพักแล้ว ไม่มีทางเข้าสู่ห้องพักแขกได้ หากว่าจะเข้าไป จะต้องมีการลงทะเบียน
เถ้าแก่เอ่ย “เรียนแม่ท่านแม่ทัพ วันนี้ไม่มีใครเข้ามายังพื้นที่พักของแขก วันนี้ข้าอยู่ตรงโต๊ะคิดเงินตลอดทั้งวัน หากว่ามีคนเข้ามา จะต้องรู้อย่างแน่นอน”
เซียวท่ามองไปรอบ ๆ ชั้นสองนั้นมีทางเดินเพียงทางเดียว หากอีกนัยหนึ่งนั้นก็คือ มีทางเข้าเพียงแค่ทางเดียว หน้าต่างอยู่ติดกับถนน อีกทั้งยังปิดสนิท ไม่มีทางที่จะเข้ามาทางหน้าต่างได้
อีกทั้งกลอนประตูมีร่องรอยของการงัดแงะอยู่อย่างแน่นอน สามารถแน่ใจได้ว่า คนจะต้องเข้ามาทางประตู
“ไม่ จะต้องมีคนเข้ามา” เซียวท่าเอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น “พวกเจ้าดูตรงกลอนประตู กลอนประตูถูกงัดแงะมาก่อน”
เถ้าแก่หันข้ามาดูอยู่ครู่หนึ่ง ก็มองเห็นร่องรอยของการงัดแงะเข้าจริง อีกทั้งยังมีลวดหลงเหลือเอาไว้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที “มีขโมยเข้ามาแล้ว?”
เถ้าแก่เรียกเสี่ยวเอ้อร์ที่มีทั้งหมดมาในทันที ทว่าเสี่ยวเอ้อร์ภายในร้านต่างก็บอกว่าไม่พบคนแปลกหน้าเข้ามา ที่เดินผ่านไปมาล้วนแต่เป็นลูกค้าที่เข้าพัก
เซียวท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เจ้าเอารายชื่อของลูกค้าที่เข้าพักมาให้ข้าดูสักหน่อย”
เถ้าแก่รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “นี่ นี่คงจะไม่ดีกระมัง?”
“ทำไมถึงจะดูไม่ได้?” เซียวท่ายกคิ้วขมวดออกมา หรือว่าในใจเจ้าคิดไม่ซื่อกัน?”
“ไม่ ไม่ใช่ รายชื่อของลูกค้านั้นพวกเราไม่อาจเปิดเผยออกไปได้ง่าย ๆ หากว่าท่านแม่ทัพต้องการจะดูแล้ว จะต้องแจ้งไปยังทางการเพื่อขอรายชื่อเสียก่อน” เถ้าแก่เอ่ยออกมา
เซียวท่ารู้ว่ากฏเกณฑ์จำต้องทำเช่นนี้ จึงเอ่ยออกมา “เช่นนั้นแล้วยังไม่ไปแจ้งทางการอีก?”
เถ้าแก่รีบสั่งเสี่ยวเอ้อร์ให้ไปแจ้งคดีกับทางการ ผ่านไปไม่นาน ก็พบกับหัวหน้าหน่วยนำเจ้าหน้าที่สองนายเข้ามา
หลังจากที่สอบถามสถานการณ์ชัดเจนแล้ว หัวหน้าหน่วยรีบออกหนังสือทางการแล้วเอ่ย “รีบนำรายชื่อมาให้กับแม่ทัพเซียว
เถ้าแก่นำรายชื่อลูกค้าที่เข้าพักมอบให้เซียวท่าและหัวหน้าหน่วย ทั้งสองคนตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วก็พบว่า วันนี้มีสองคนที่คืนห้องพัก คนหนึ่งพักอยู่ห้องถัดไปของหลิวเย่ว์ คนผู้นี้เข้าพักเมื่อวานนี้ เพิ่งจะคืนห้องไปไม่นาน ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นเพิ่งจะเข้าพักแล้วคืนห้องไป ทั้งสองคนนี้ล้วนแต่แจ้งว่าเป็นคนนอกพื้นที่
“ทั้งสองคนนี้แสดงหนังสือรับรองทางการหรือไม่?” เซียวท่าเอ่ยถาม
หากเมื่อมีคนนอกพื้นที่เข้าพักแล้ว จะเข้าเมืองหรือออกนอกเมืองล้วนแต่ต้องออกหนังสือรับรอง เมื่อเข้าพักโรงเตี้ยมจะต้องแสดงหนังสือรับรองออกมา
“มีขอรับ ทั้งหมดมีหนังสือรับรอง แม่ทัพเซียวลองดู พวกเขาแสดงหนังสือรับรองออกมา พวกเราก็มีการบันทึกเอาไว้” เถ้าแก่เอ่ย