ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 765
หลังจากที่มู่หรงเจี๋ยออกจากวังแล้ว ก็ได้ยินจื่ออันบอกถึงข่าวดี ก็ยินดีขึ้นมา ทั้งสองคนไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องของในวัง สนใจเพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้
ตอนนี้ขอเพียงแค่ตามหาท่านหมอหยวนพบ จ้วงจ้วงก็จะมีหวังแล้ว
หลิวเย่ว์เมื่อเห็นทุกคนต่างก็รีบร้อนกัน ในใจก็ลอบกระวนกระวายขึ้นมา นางรู้สึกว่าตนเองเอ่ยถึงท่านหมอหยวน ให้ความหวังแก่พวกเขา สุดท้ายแล้วหากว่าตามหาท่านหมอหยวนไม่พบ เช่นนั้นจะรู้สึกแย่เพียงใด
ทว่านางเองไม่ได้รั้งอยู่ที่จวนอ๋องเหลียง กลับถูกซ่งรุ่ยหยางนำตัวไป ซ่งรุ่ยหยางบอกว่าจะนำตัวนางกลับไปยังเรือนพักรับรองชั่วคราว
เซียวท่าคิดจะเรียกให้อยู่ต่อ ทว่ากลับถูกสายตาของซ่งรุ่ยหยางจ้องมองมาอย่างดุร้าย ทันใดนั้นเขาก็หยุดคำพูดเอาไว้ จากนั้นก็กลืนน้ำลายลงไป “เดินทางดี ๆ!”
เฉินหลิวหลิ่วเมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบลง จึงเอ่ยกับจื่ออัน “ในเมื่อองค์หญิงมีความเป็นไปได้ว่าจะช่วยเหลือกลับมาได้แล้ว เช่นนั้นข้าก็มีเรื่องหนึ่งที่จะประกาศ
จื่ออันมองยังนาง “เจ้าต้องการจะประกาศอะไร?”
หลิวหลิ่วสูดหายใจเข้าลึก สีหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย ระงับความตื่นเต้นตรงระหว่างคิ้วเอาไว้ไม่ได้ “เซียวท่าจะแต่งงานกับข้าแล้ว”
จื่ออันมองไปยังเซียวท่าอย่างเรียบเฉย “พวกเรารู้แล้ว”
หลิวหลิ่วตะลึงไป “รู้แล้ว? พวกเจ้ารู้ได้อย่างไร
“เซียวท่ามาบิก” จื่ออันเอ่ย
หลิวหลิ่วมองไปยังเซียวท่า “เจ้าเอ่ยออกมาเมื่อใดกัน?”
“พวกเรามาถึงไม่นานนัก ข้าก็เอ่ยออกมาแล้ว แจ้งไปทีละคน” เซียวท่าเอ่ย
หลิวหลิ่วกัดฟันเอ่ยออกมา “เจ้าไปบอกคนอื่นเขาเช่นนี้ได้อย่างไร? จะไม่อาจเปิดเผยออกไปในตอนที่อยู่ด้วยกันหรือ?”
“แตกต่างกันหรือ?” เซียวท่ามองยังนางด้วยความไม่เข้าใจ เห็นเพียงท่าทางดุร้ายของนาง เขาก็ขมวดคิ้วขึ้น “เจ้าจะทำอะไรกัน? ท่าทีอะไรกัน? จะกินข้าอย่างนั้นหรือ?”
หลิวหลิ่วดูท้อแท้ “ข้าไม่ได้ดุเจ้า ข้าเพียงแต่รู้สึกว่า เรื่องใหญ่เช่นนี้ พวกเราควรจะหาสักโอกาสหนึ่งเพื่อประกาศออกไป แต่ไม่ใช่ว่าพบคนหนึ่งก็แจ้งคนหนึ่ง”
“แตกต่างกันอย่างนั้นหรือ?” เซียวท่ายังคงถามอยู่เช่นนั้น “หญิงสาวนี้เรื่องมากยิ่งนัก”
หลิวหลิ่วครุ่นคิด ก็ไม่ได้แตกต่างกันจริง ๆ กลับกันทุกคนต่างก็ยินดีกับนาง ทว่านางก็ยังคงรู้สึกว่าเรื่องนี้ควรจะเป็นในตอนที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน ประกาศออกไปให้ทุกคนรับรู้ด้วยใบหน้าเขินอาย จากนั้นก็รับคำอวยพรจากทุกคน
“เซียวท่า ต่อไปท่านจะสามารถเข้าใจอารมณ์บ้างได้หรือไม่?” หลิวหลิ่วเอ่ยถาม
เซียวท่าส่งเสียงเห้อออกมา ทันใดนั้นก็คำรามออกมาด้วยความโมโห “ยังไม่ทันเข้าจวนมา ก็รังเกียจนั่นรังเกียจนี้เสียแล้ว? หากว่ายังรังเกียจข้าอีก ข้าจะไปเอามะพร้าวกลับมาจากจวนเจ้าเสีย”
หลิวหลิ่วหัวเราะออกมาในทันที “นี่ไม่ใช่ว่ากำลังเอ่ยเรื่องตลกหรอกหรือ? เอามะพร้าวอะไรกัน? ของที่เข้าจวนพวกเราไปแล้วไม่มีทางที่จะคืนให้ ของที่ออกจากจวนไปก็เช่นกัน พวกเราไม่มีทางยอมรับคืน”
เมื่อจื่ออันได้ยินถึงมะพร้าว ก็เงยหน้าขึ้นมาไปยังเซียวท่า “มะพร้าวที่อ๋องเหลียงจะนำไปสู่ของอี๋เอ๋อร์ เจ้าขโมยไปซะแล้ว?”
เซียวท่าส่งเสียงเอ่ยออกมาอย่างเขินอาย “นี้…เป็นเพราะว่าดึกดื่นแล้วตามหามะพร้าวไม่ได้ และถึงอย่างไรมะพร้าวก็เสียเปล่า ก็เลยยืมมาใช้ วันพรุ่งนี้ข้าจะซื้อให้เขาสี่ลูก”
“ทำไมถึงได้ต้องนำมะพร้าวมาด้วย? โอกาสนี้ไม่ควรที่จะเลือกมะพร้าวไปก่อนใช่หรือไม่?” หนี่หรงเดินเข้ามา เอ่ยถามแทรกมาอย่างไม่เข้าใจ
ทันใดนั้นหลิวหลิ่วก็รู้สึกตัวขึ้นมา “เจ้าบอกกับทุกคนไปว่าอย่างไร?”
สีหน้าของเซียวท่าเปลี่ยนไปทันที น้ำเสียงกลับดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด “ก็บอกความจริงไป เรื่องจริงเป็นอย่างไรก็เอ่ยออกไปเช่นนั้น”
“เช่นนั้นความจริงที่เจ้าบอกกับทุกคนไปเป็นอย่างไร?” คราวนี้หลิวหลิ่วเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างจริงจัง
ทุกคนเหลือบมองไปยังเซียวท่า ที่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ดูเหมือนว่าเซียวท่าที่บอกว่าเอ่ยความจริงนั้น ไม่ใช่ความจริง
“จื่ออันเจ้าว่ามา” หลิวหลิ่วหันไปถามจื่ออัน
จื่ออันโบกมือออกไป “ข้าลืมไปแล้ว”
“หนี่หรงเจ้าบอกมา”
หนี่หรงส่ายศีรษะ “ข้าเองก็ลืมไปแล้ว”
หลิวหลิ่วกระทืบเท้า หันไปมองยังมู่หรงเจี๋ย อ้าปากออกกลับไม่ได้เอ่ยถาม ก็หันไปถามคนอื่น
มู่หรงเจี๋ยที่คิดจะเอ่ยออกมา ไม่คิดเลยว่าหลิวหลิ่วจะหันผ่านเขาไปหาคนอื่น เขาเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ “นางทำไมถึงไม่ถามข้า?”
จื่ออันหัวเราะ “นางรู้สึกว่าท่านเป็นน้ำเต้าไม้ที่เอ่ยออกมาไม่ได้”