ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 794
เหล่าขุนนางทุกคนคุกเข่าลงและกล่าวถวายพระพรหวงไท่โฮ่วสามครั้ง
สำหรับผู้สำเร็จราชการแทนองค์ แม้จะทำหน้าที่เป็นจักรพรรดิชั่วคราว แต่ขุนนางต่างไม่จำเป็นต้องคุกเข่า ให้ พวกเขาแค่คำนับและทำความเคารพต่อเขาเพียงเท่านั้น
หลังเสร็จพิธี มู่หรงเจี๋ยนั่งบนเก้าอี้มังกร และมองไปรอบ ๆ หากเขาไม่ยิ้มหน้าเขาจะดุขึ้นเป็นเท่าตัว ดวงตาของเขานั้นเฉียบคม จนแทบไม่มีใครกล้าสบตากับเขาโดยตรง
“ก่อนการว่าราชกิจในช่วงเช้าของวันนี้ หวงไท่โฮ่วทรงมีราชโองการที่จะประกาศ ดังนั้นพวกเจ้าควรวางเรื่องที่จะรายงานไว้ก่อน และจงตั้งใจฟังราชโองการของหวงไท่โฮ่ว”
หวงไท่โฮ่วมองดูเหล่าขุนนางและทหารทั้งหมดด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย “ข้าคิดว่าทุกท่านคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าองค์หญิงได้ผ่านวัยที่แต่งงานแล้ว ดังนั้นจึงจำเปฺนต้องรีบแต่งงาน แม้ว่าตอนนี้นางจะป่วยอยู่ แต่ข้าคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะหาราชบุตรเขยให้นาง เผื่อว่าบางที โชคของสามีอาจช่วยให้องค์หญิงรอดจากหายนะครั้งนี้ได้”
ขุนนางชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งได้เอ่ยปลอบ “ทูลไท่โฮ่ว ได้โปรดทรงวางพระทัย องค์หญิงเป็นคนดีฟ้าย่อมคุ้มครอง”
“ใช่แล้ว ด้วยพรจากทุกท่าน นางจะต้องหายดีเป็นแน่” หวงไท่โฮ่วกล่าว
นางกดมือลงเล็กน้อย ต้องการให้ซุนกงกงเข้ามาในวังเพื่อประกาศราชโองกา แต่มู่หรงเจี๋ยก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ให้ซือหลี่เจี้ยนเป็นคนอ่านราชโองการนี้เถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
หวงไท่โฮ่วพยักหน้า “อืม ดี นี่คือท้องพระโรงใหญ่ เช่นนั้นก็ให้ซือหลี่เจี้ยนประกาศเถิด”
ซือหลี่เจี้ยนหลี่กงกง ผู้ดูแลพิธีการเข้ามาพร้อมราชโองการ และเริ่มอ่านต่อสาธารณชน “จักรพรรดิฮุ่ยมีธิดาเพียงองค์เดียวคือ มู่หรงจ้วงจ้วง องค์หญิงใหญ่ของเจิ้งกั๋ว พระองค์ทั้งสวยงาม และฉลาดหลักแหลม อ่อนโยนและซื่อสัตย์ รูปร่างหน้าตาโดดเด่น ตัวข้า…”
หลี่กงกงหยุดชะงักหลังจากอ่านข้อความนี้ และหันกลับมามองหวงไท่โฮ่วด้วยท่าทางลังเล
หวงไท่โฮ่วพูดอย่างไม่พอใจ “รีบประกาศต่อ!”
หลี่กงกงตอบ”พ่ะย่ะค่ะ!”
เขาอ่านต่อ “ตัวข้าได้ยินมาว่า ท่านเซียวโหวเป็นหลานชายคนโต และจักรพรรดิได้แต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่แห่งราชวงศ์ต้าโจว เซียวเซียวซึ่งมีศิลปะการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ และมีองค์หญิงเป็นบุคคลที่รักในวัยเด็ก ตัวข้าและผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิมีความสุขมากที่ได้ยินเช่นนี้ ว่าเขาจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นราชบุตรเขย พิธีอภิเษกสมรสจะจัดการโดยกรมพิธีกรรมและพระราชวังชั้นใน!”
เมื่อราชโองการนี้ประกาศถึงแม่ทัพใหญ่เซียว ไท่โฮ่วจึงรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่นางไม่สามารถห้ามหลี่กงกงไม่ให้อ่านได้
ทันใดนั้นก็เกิดความสงสัยขึ้น เพราะก่อนการประกาศ ทุกคนต่างก็รู้ว่าผู้ที่ถูกเลือกให้เป็นราชบุตรเขยนั้นคือเหลียงซู่หลิน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกุ้ยไท่เฟย นางมองดูหวงไท่โฮ่วทันที ลดเสียงลงแล้วพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น? ต้องเป็นเหลียงซู่หลินไม่ใช่หรือเพคะ?”
สีหน้าของไท่โฮ่วนั้นดูไม่ค่อยดีนัก นางไม่สามารถอธิบายได้ ได้แต่มองไปที่ท่านเซียวโหวแล้วพูดว่า
“ท่านโหวจะไม่ยอมรับคำสั่งนี้หรือ?”
เซียวโหวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินออกมาด้วยใบหน้าซีดเซียวและคุกเข่าลง “หม่อมฉันน้อมรับคำสั่ง หม่อมฉันขอขอบพระทัยสำหรับความเมตตาขององค์จักรพรรดิพ่ะย่ะค่ะ”
ดวงตาของราชครูเหลียงฉายแววเย็นชา เขาเย้ยหยันในใจ มาดูกันว่าพวกเขาเล่นกลอุบายอะไร
เหลียงซู่หลินได้ยินการประกาศราชโองการจากนอกวัง เขาไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้ เหตุใดถึงกลายเป็นเซียวเซียว? เมื่อวานนี้หวงไท่โฮ่วตรัสว่าเขาคือราชบุตรเขยไม่ใช่หรือ?
ผ่านไปแค่คืนเดียว เหตุใดเรื่องถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้?
เหล่าเซียนหวังเดินออกมา “ไท่โฮ่ว เซียวเซียวมีภรรยาอยู่แล้ว เขาจะแต่งงานกับองค์หญิงได้อย่างไร?”
“เสด็จอา” มู่หรงเจี๋ยกล่าว “หานชิงชิวตายไปแล้ว”
“ถึงจะตายไปแล้ว แต่นางก็ยังถือว่าเป็นภรรยาของเซียวเซียว และนางต้องม่ชื่อนำหน้าองค์หญิงบนแผ่นจารึก ซึ่งนี่ไม่สอดคล้องกับความเคารพ” เหล่าเซียนหวังกล่าว
จ้วงจ้วงเป็นลูกพี่ลูกน้องของเหล่าเซียนหวัง ในฐานะสมาชิกของราชวงศ์ เขาไม่ต้องการให้องค์หญิงผู้ทรงเกียรติแห่งเจิ้งกั๋วต้องยอมจำนนต่อผู้หญิงคนอื่น และต้องเรียกหญิงอื่นว่าพี่สาว”
มู่หรงเจี๋ยหัวเราะและพูดว่า “เสด็จอาไม่ต้องกังวลไป เซียวเซียวหย่ากับหานชิงชิวไปนานแล้ว”
เขามองไปที่ท่านเซียวโหว “จริงหรือ ท่านโหว?”
มือที่ถือราชโองการของท่านเซียวโหวสั่นเทา “พ่ะย่ะค่ะเซียวเซียวหย่ากับหานชิงชิวแล้ว พวกเขาไม่ใช่สามีภรรยากันมานานแล้ว เขาเพียงแค่ต้องการหลีกเลี่ยงการถูกหวงไท่โฮ่วตำหนิและลงโทษ จึงไม่ได้ประกาศเรื่องนี้ออกไป”
“นี่เป็นเรื่องแปลก เหตุใดเซียวเซียวจึงหย่ากับภรรยาของเขา แล้วจดหมายหย่าอยู่ที่ใด?” เหล่าเซียนหวังถามขึ้น
จากนั้นมู่หรงเจี๋ยก็เรียกซุนกงกงเข้ามา เขาหยิบจดหมายหย่าออกมาแล้วยื่นให้เหล่าเซียนหวัง “เซียวเซียวได้หย่ากับหานชิงชิวแล้วในคืนวันแต่งงาน เซียวเซียวไม่ได้ตั้งใจที่จะต่อต้านและไม่เชื่อฟัง แต่ในคืนวันแต่งงาน เขาได้ยินหานชิงชิวพูดคุยกับสาวใช้เกี่ยวกับกรณีที่องค์หญิงเข้าใกล้เหยาจื่อ และเซียวเซียวก็ได้ยินหานชิงชิวพูดว่านางเป็นคนฆ่าเหยาจื่อ เซียวเซียวไม่อยากร่วมหอกับฆาตกร แต่เขาก็ไม่มีหลักฐานใดที่จะเอาผิดหานชิงชิวได้ หลังจากนั้นเขาก็ออกไปทำสงคราม และได้ขอให้ข้าช่วยสืบคดีฆาตกรรมของเหยาจื่อนี้ ตอนนั้นข้ายังเด็ก จึงไม่ได้เก็บมาใส่ใจ จนเมื่อสองสามเดือนมานี้ ข้าจึงได้สั่งให้คนตรวจสอบอีกครั้ง และนำหลักฐานไปถามหานชิงชิว นางรู้ดีว่าเรื่องนี้จะถูกเปิดเผยไม่ช้าก็เร็ว นางจึงกลัว และในที่สุดก็ฆ่าตัวตายหลบหนีความผิด”