จอมนางข้ามพิภพ บทที่34 ซื่อจื่อ ข้าชอบกินเนื้อ
หยุนถิงหยุดงานในครัวแล้วเดินออกไป มองไปยังจวินหย่วนโยว: “ซื่อจื่อ องค์ชายสี่มาคิดบัญชีเหรอ?”
“ไม่ต้องสนใจหรอก หิวแล้วสินะ อาหารเย็นทำเสร็จแล้ว พวกเราไปกินกันเถอะ” จวินหย่วนโยวพูดอย่างเป็นห่วง
“ได้เลย”
หยุนถิงเดินตามจวินหย่วนโยวไปที่ห้องโถง มองดูอาหารอันโอชะที่วางอยู่บนโต๊ะ: “ซื่อจื่อ เจ้าให้คนทำอาหารเมื่อไหร่กัน?”
“อาหารพวกนี้ส่งมาจากโรงเตี๊ยมของข้า คืนนี้ออกไปกินก็คงดึกมากเกินไป ก็เลยให้พวกเขาส่งมา เข้ามาชิมก่อนสิ” จวินหย่วนโยวตอบ
“ซื่อจื่อใส่ใจจริงๆ” หยุนถิงรีบไปล้างมือ
จวินหย่วนโยวยิ้มกว้าง แล้วตามไปนั่ง หยิบตะเกียบกลางขึ้นมาแล้วคีบอาหารให้หยุนถิง
นางคีบขึ้นมากิน: “รสชาติไม่เลวเลย”
หยุนถิงชิมอาหารทุกจาน แล้วเอ่ยชมไม่หยุด เริ่มกินอาหารประเภทเนื้อ นางเป็นพวกไม่มีเนื้อคืออยู่ไม่ได้
จวินหย่วนโยวเห็นนางกินเนื้อเยอะมาก หยิบตะเกียบกลางแล้วคีบผักให้นาง: “กินแต่เนื้อจะไม่ย่อยเอานะ”
“แต่ว่าซื่อจื่อ ข้าชอบกินเนื้อนี่” หยุนถิงตอบ แล้วมองไปยังจวินหย่วนโยวที่อยู่ตรงข้าม จ้องเขม็งเขาอย่างไม่เกรงกลัว พูดเหมือนมีนัยยะอื่นแฝงอยู่
จวินหย่วนโยวถูกนางมองจนรู้สึกกระอักกระอ่วน ทำไมนางพูดจาให้ชวนคิดตลอดเลย
“อย่ามองข้า รีบกินข้าว”
“ซื่อจื่อหน้าตาดีขนาดนี้ น่าลิ้มรสมากเลยนะ” หยุนถิงเอ่ยชม
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ไม่ต้องกินแล้ว ให้คนเอาอาหารลงไปให้หมดเลย” จวินหย่วนโยวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“อย่าสิซื่อจื่อ ข้าไม่มองแล้ว” หยุนถิงหยิบขาหมูขึ้นมาแทะกิน รสชาตินั้นดีมากจริงๆ
มองดูนางกินอย่างไม่สนใจใคร ปากมีน้ำซุปเปื้อนหมด จวินหย่วนโยวก็หัวเราะอย่างเหนื่อยใจ แล้วเขาก็กินอาหารตาม
อาหารมื้อนี้ หยุนถิงกินอร่อยมาก หลังจากกินอิ่มแล้วก็ไม่ได้ยินเสียงด่าขององค์ชายสี่แล้ว: “ซื่อจื่อ องค์ชายสี่ไปแล้วเหรอ?”
“ตอบฮูหยิน องค์ชายสี่ด่าเหนื่อยแล้ว นั่งพักอยู่หน้าประตูจวนซื่อจื่อ บอกว่าพักก่อนเดี๋ยวค่อยด่าต่อ” พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆตอบ
หยุนถิงเลิกคิ้วขึ้น: “พ่อบ้าน รบกวนช่วยยกชานมไปให้องค์ชายสี่หน่อยสิ”
“ขอรับ” ครั้งนี้พ่อบ้านไม่ได้มองซื่อจื่อเจ้านายตัวเองเลย แล้วรีบไปจัดการทันที
ซื่อจื่อรักฮูหยินขนาดนี้ แถมยังตักอาหารให้นางกับมืออีก เห็นได้ชัดว่าฮูหยินสำคัญต่อเขามาก ดูแล้วต่อไปเรื่องในจวนซื่อจื่อคงต้องให้ฮูหยินตัดสินใจแล้วล่ะ
“ทำไมถึงต้องให้ชานมองค์ชายสี่ด้วย?” จวินหย่วนโยวถามด้วยสีหน้าเย็นชา
“ซื่อจื่อ นี่ท่านกำลังหึงเหรอ?”
จวินหย่วนโยวสีหน้าแย่ลง: “ข้าแค่รู้สึกว่าเขาไม่คู่ควรกับการดื่มชานมที่เจ้าทำ”
“ซื่อจื่อวางใจได้ ข้าไม่ให้เขาดื่มเปล่าๆหรอก”
จวินหย่วนโยวมองดูท่าทางที่เจ้าเล่ห์ของนาง ก็รู้ว่านางจะต้องคิดทำอะไรแน่ ก็เลยไม่พูดอะไรต่อ
หน้าประตู องค์ชายสี่ด่าจนเหนื่อยและคอแหบหมดแล้ว แต่ยิ่งด่าก็ยิ่งโมโห องค์ชายสี่โมโหจนนั่งลงที่หน้าประตูจวนซื่อจื่อ
ถ้าไม่ใช่เพราะมีองครักษ์เงามังกรอยู่ องค์ชายสี่คงบุกเข้าไปนานแล้ว แต่เขาสู้กับองครักษ์เงามังกรไม่ได้ มองไปยังหลงเอ้อที่ยืนอยู่ข้างๆ องค์ชายสี่ก็อึดอัดไม่ไหว
เขาไม่เชื่อว่า จวินหย่วนโยวจะไม่ออกจากบ้านเลย
จากนั้นประตูใหญ่ก็ถูกเปิดออกจากด้านใน องค์ชายสี่ตกใจแล้วมองไปยังดูถูก: “จวินหย่วนโยวโดนข้าด่าจนทนไม่ไหวแล้วสินะ ให้เจ้ามารับข้าเข้าไปใช่ไหม?”
“องค์ชายสี่คิดมากไปแล้วขอรับ ซื่อจื่อไม่ได้บอกให้ท่านเข้าไป แต่ฮูหยินมีรับสั่งให้ส่งชานมมาให้องค์ชายสี่ บอกว่าองค์ชายสี่ด่าจนคอแห้งแล้วก็ลองชิมดูก่อน” ข้ารับใช้ยกเข้ามา
หน้าองค์ชายสี่มืดมนทันที ดำจนเหมือนกับก้นหม้อ เขาโกรธจนตัวสั่น แทบจะกระอักเลือดออกมา
“จวินหย่วนโยวมันเต่าหัวหดขี้ขลาด กลับปล่อยให้หยุนถิงยัยอัปลักษณ์นั่นออกมาพูดแทน เขายังเป็นผู้ชายอยู่ไหม ข้าไม่ดื่มชานมบ้านี่หรอกนะ” องค์ชายสี่พูดอย่างดูถูก
“ถ้าองค์ชายสี่ไม่ดื่ม งั้นก็ให้ข้าน้อยได้ไหมขอรับ” ข้ารับใช้พูดขึ้น
ชานมนี้รสชาติดีมาก คนทั้งจวนซื่อจื่อดื่มกันหมด ทุกคนต่างก็เอ่ยชมไม่หยุด หากองค์ชายสี่ไม่ดื่มก็คงจะสิ้นเปลืองแย่
“ไสหัวไป ข้าไม่ดื่มหรอกนะ”
“ขอบพระคุณองค์ชายสี่มากขอรับ” ข้ารับใช้ดื่มทันที
หลงเอ้อพูดขึ้น: “เจ้าดื่มน้อยหน่อย เหลือไว้ให้ข้าบ้าง”
“นี่เหลือแค่ถ้วยสุดท้ายแล้ว ข้าจะเก็บไว้ให้เจ้าทำไม เจ้าดื่มไปตั้งสามถ้วยใหญ่แล้ว” ข้ารับใช้ยกถ้วยขึ้นจะดื่ม
องค์ชายสี่เห็นหลงเอ้อพูดแบบนี้ก็อดไม่ได้เบะปาก: “ช้าก่อน พวกเจ้าแย่งกันขนาดนี้ ชานมนี้อร่อยขนาดนั้นเชียว?”
“ไม่อร่อย ไม่อร่อยเลยจริงๆ” ข้ารับใช้รีบกลับคำ
“เจ้ายิ่งพูดแบบนี้ก็ยิ่งน่าสงสัย ข้าเปลี่ยนดีกว่า ช้าอยากดื่มชานมถ้วยนี้ รีบยกมาเลย” องค์ชายสี่พูดอย่างยโส
ข้ารับใช้ทำหน้าเสียดาย แต่ก็ต้องทำตาม แล้วยื่นถ้วยให้เขา
องค์ชายสี่รับถ้วยมามองน้ำที่เป็นสีน้ำตาลนวลๆอย่างแปลกใจ: “นี่มันคือสีอะไร หยุนถิงไม่ได้วางยาพิษใช่ไหม?”
“องค์ชายสี่เลือกที่จะไม่ดื่มก็ได้” ยามเฝ้าประตูพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
“ข้าจะดื่ม ถ้าข้าเป็นอะไรไปในจวนซื่อจื่อ เสด็จพี่ไม่ปล่อยจวินหย่วนโยวไว้แน่” องค์ชายสี่ว่าแล้วก็ดื่มลงไป
พอได้ดื่มแล้วก็ชะงัก จ้องชานมในถ้วยอย่างตกตะลึง แล้วดื่มอีกคำและอีกคำตามลงไป จากนั้นก็ดื่มจนหมดถ้วย
ดื่มหมดหนึ่งถ้วย องค์ชายสี่ก็ยังรู้สึกไม่พอใจ
“พวกเจ้าเรียกว่าอะไรนะ ยังมีอีกไหม?” องค์ชายสี่ถาม
“ชานม ฮูหยินทำเองกับมือ นี่เป็นถ้วยสุดท้ายแล้ว” ข้ารับใช้ตอบตามความจริง
“หยุนถิง ยัยอัปลักษณ์นั่นทำเป็นเหรอ นางทำอะไรไม่เป็นไร้ประโยชน์ ข้ายังไม่เคยดื่มเลย นางจะทำเป็นเหรอ?” องค์ชายสี่พูดอย่างสงสัย
ข้ารับใช้สีหน้าเย็นชา: “องค์ชายสี่ ท่านพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ฮูหยินของเราเก่งหลายเรื่องจะตายไป”
ถึงแม้หยุนถิงจะมาจวนซื่อจื่อไม่กี่วัน แต่นางก็ไม่เคยถือตัวต่อข้ารับใช้เลย และไม่เคยดูถูกด้วย ของกินอร่อยๆก็แบ่งให้ข้ารับใช้กินตลอด ข้ารับใช้คนนี้ท้องเสียก่อนหน้านั้นพอดี ฮูหยินให้ยาเขามากินก็หายเป็นปลิดทิ้งทันที ข้ารับใช้ทุกคนก็ซึ้งใจและเคารพหยุนถิงมาก
“หยุนถิงยัยนั่นเอาใจคนเก่งเหมือนกันนะ เจ้าไปบอกจวินหย่วนโยวว่าถ้าเขายังไม่มาอีก คืนนี้ข้าจะไม่ไปไหน” องค์ชายสี่ตะคอก
“ขอรับ” ข้ารับใช้เข้าไปรายงาน
จวินหย่วนโยวได้ยินแล้วก็มีสีหน้าเย็นชาเหมือนปกติ: “รู้แล้ว ลงไปได้”
หยุนถิงมองไป: “องค์ชายสี่หนังเหนี่ยวจริงเลยนะ ยังไม่คิดจะไปอีก”
“โม่ฉือชิงก่อกวนได้มากที่สุดในเมือง ไม่ต้องสนใจเขา กลางคืนอากาศหนาว เขาทนไม่ไหวเดี๋ยวก็ไปเอง คิดว่าจวนซื่อจื่อเป็นที่ที่เขาจะมาก่อเรื่องได้งั้นเรอะ” จวินหย่วนโยวพูดอย่างเย็นชา
“ซื่อจื่ออย่าโกรธเพราะคนแบบนี้เลย ถึงแม้ข้าจะช่วยท่านถอนยาพิษได้ แต่ร่างกายท่านโดนยาพิษรุมล้อมมานาน ร่างกายอ่อนแอ เดี๋ยวข้าจะทำอาหารสมุนไพร การรักษาด้วยอาหารเป็นวิธีรักษาที่เห็นผลมากที่สุด” หยุนถิงพูด
“ได้ ขอบใจมาก”
“ซื่อจื่อไม่ต้องเกรงใจไป กินอิ่มแล้วพวกเราไปชมจันทร์กันไหม?” หยุนถิงเสนอ