จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 241 บอกชื่อคนที่อยู่เบื้องหลังมา

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 241 บอกชื่อคนที่อยู่เบื้องหลังมา

ฟู่อี้เฉินฟังด้วยความตกตะลึง “ดังนั้น สิ่งที่ซ่างกวนหรูพูดคือความจริง เมื่อคืนนี้คือจวินหย่วนโยวจริงๆ?”

“จวินหย่วนโยวนั่นคือถูกซ่างกวนหรูวางแผนทำร้าย ถูกวางยา แต่ว่าเขาไม่ได้แตะต้องซ่างกวนหรู ข้าสามารถพิสูจน์ได้” โม่ฉือชิงรีบไกล่เกลี่ยทันที

“เจ้าจะพิสูจน์อย่างไร?” ฟู่อี้เฉินไม่เชื่อ

“เพราะข้าเป็นคนพาหยุนถิงเข้าไป ย่อมเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่แล้ว”

“ในห้องนั้นมีห้องลับอยู่ ข้าเผลอไปแตะโดนกลไกที่อยู่ใต้เตียงเข้า จากนั้นข้ากับจวินหย่วนโยวก็ตกลงไปในห้องในที่อยู่ใต้เตียง หลบคนที่เข้ามาจากหน้าประตูได้พอดี สำหรับผู้ชายคนนั้น ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าก็ควานหาอยู่ทั้งคืนกว่าจะหากลไกเปิดปิดและออกมาได้” หยุนถิงหาข้อแก้ตัว

อย่างไรก็คงจะบอกพวกเขาว่าตัวเองเข้าไปในมิติไม่ได้หรอกใช่ไหม

“คาดไม่ถึงว่าพระราชวังยังมีห้องลับอยู่อีก เสด็จพี่ต้องเป็นคนสร้างขึ้นมาแน่นอน อย่างไรเสียเจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ยังต้องขอบคุณผู้ชายคนนั้น ทีนี้ซ่างกวนหรูก็กลายเป็นหญิงมั่วโลกีย์ที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปชั่วลูกชั่วหลานแล้ว ดูสิว่าต่อไปนางยังจะโอหังอวดดีอย่างไรอีก เมื่อคืนนี้ช่างสาแก่ใจจริงๆ” โม่ฉือชิงกล่าวด้วยความตื่นเต้น

“ใช่แล้ว เมื่อก่อนซ่างกวนหรูหัวสูงจองหอง ผ่านเหตุการณ์เมื่อคืนนี้แล้วเกรงว่าต่อไปคงไม่มีผู้ชายคนไหนยินดีจะแต่งงานกับนางแล้ว” ฟู่อี้เฉินคล้อยตาม

หยุนถิงกำลังคิดอยู่ว่าควรจะอธิบายกับพวกเขาอย่างไรว่าจวินหย่วนโยวไปไหนแล้ว แต่แล้วสองคนนี้ไม่ได้ถามถึงจวินหย่วนโยวเลยด้วยซ้ำ นี่ทำให้หยุนถิงรู้สึกโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

รถม้ามุ่งหน้าตรงไปยังจวนซื่อจื่อ ส่งหยุนถิงกลับไปอย่างปลอดภัยแล้ว องค์ชายสี่กับฟู่อี้เฉินก็กลับไป เมื่อคืนพวกเขารอไปทั้งคืน ต่างก็เป็นองค์ชายกับซื่อจื่อที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมตั้งแต่เด็ก เวลานี้ย่อมง่วงมากแล้ว กลับไปนอนเอาแรงแล้ว

ทันทีที่พ่อบ้านเห็นหยุนถิงกลับมา ก็ตื่นเต้นอย่างมาก “ฮูหยิน ท่านกลับมาแล้ว ช่างดีจริงๆ ซื่อจื่อล่ะ?”

“ซื่อจื่อก็กลับมาแล้ว เจ้าให้คนไปต้มน้ำร้อน ทำอาหารเอาไว้เล็กน้อย ซื่อจื่อตื่นขึ้นมาจะได้กิน” หยุนถิงสั่งการ

“ได้ขอรับ” พ่อบ้านไปจัดการทันที

หยุนถิงกลับเข้าไปในห้อง ปล่อยจวินหย่วนโยวออกมาจากมิติ ให้เขานอนอยู่บนเตียง และห่มผ้าห่มให้เขา ทำเรื่องพวกนี้เสร็จสิ้นแล้วหยุนถิงถึงได้ออกไปด้านนอก ปล่อยสัญญาณที่หลงเอ้อให้นางไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นสู่ฟ้า

ไฟสัญญาณสีขาวระเบิดขึ้นกลางอากาศ เมื่อบรรดาองครักษ์เงามังกรที่จำศีลอยู่ที่พระราชวังเห็นเข้า ต่างก็ตกตะลึงและดีใจ ซื่อจื่อกับฮูหยินปลอดภัยแล้ว องครักษ์เงามังกรถอนกำลังออกไปอย่างเงียบเชียบ

โม่เหลิ่งเหยียนที่อยู่ระหว่างทางย่อมเห็นสัญญาณกลางอากาศนี้เช่นกัน ริมฝีปากบางยกเป็นมุมโค้งสูงเล็กน้อย ขอแค่นางปลอดภัยดี ก็เพียงพอแล้ว

ไม่นานนัก องครักษ์เงามังกรทั้งหมดก็กลับมา มุ่งหน้าไปยังลานของซื่อจื่อ หยุนถิงให้หลงยีกับหลงเอ้อเข้าไปดู เห็นซื่อจื่ออยู่จริงๆ พวกเขาถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ฮูหยิน เมื่อคืนนี้ท่านกับซื่อจื่อไปไหนหรือ พวกเราค้นหากันทั้งคืน เป็นห่วงอย่างมาก กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับท่านและซื่อจื่อ ซื่อจื่อทำไมถึงยังไม่ตื่น?” หลงเอ้อกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง

“ข้าเผลอไปแตะกลไกที่อยู่ใต้เตียงเข้า ข้ากับซื่อจื่อตกเข้าไปในห้องลับ วันนี้ถึงหากลไกออกมาได้ เมื่อคืนซื่อจื่อเหนื่อยล้า ให้เขานอนนานๆหน่อยเถอะ” หยุนถิงอธิบายพอสังเขป

คำพูดประโยคหนึ่ง คนอื่นๆล้วนเข้าใจอย่างชัดเจน เมื่อคืนฮูหยินกับซื่อจื่อล้วนถูกวางยา คิดว่าเมื่อคืนน่าจะบ้าระห่ำมาก

“หากมีคนตายในคุกของพระราชวัง โดยทั่วไปแล้วจะถูกทิ้งที่ไหน?” หยุนถิงถาม

“น่าจะเป็นหลุมฝังศพหมู่ในเขตชานเมืองทางตะวันออก คนที่จิตใจดีจะขุดหลุมฝังให้เรียบร้อย แต่ว่าโดยปกติแล้วล้วนใช้เสื่อม้วนเอาไว้แล้วทิ้งไปโดยตรงทั้งนั้น” หลงเอ้ออธิบาย

“เจ้าพาคนไปที่หลุมฝังศพหมู่สองคน หากว่ามีคนที่แต่งตัวเป็นสาวใช้ถูกโยนทิ้ง ให้พานางกลับมา” หยุนถิงเอ่ยปาก

“ฮูหยิน สาวใช้คนนั้นสำคัญมากหรือ?” หลงยีถาม

“นางน่าจะรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการลอบวางยาให้ข้ากับซื่อจื่อเป็นใคร หมากกระดานใหญ่ที่พระราชวังเมื่อคืนนี้ น่าจะไม่ใช่คนกลุ่มเดียวก็สามารถทำได้ กล้าวางแผนทำร้ายข้ากับซื่อจื่อ หากไม่แก้แค้นให้ดีสักครั้ง จะสู้หน้าพวกเขาได้อย่างไร” หยุนถิงฮึออกมาเย็นชา

“ขอรับ” หลงเอ้อรีบไปจัดการทันที

“เมื่อคืนคนที่ประมือกับพวกเรา ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี และกระบวนท่ากลับกลอกปลิ้นปล้อน ไม่เหมือนกับคนของแคว้นต้าเยียน” หลงยีกล่าวความสงสัยออกมา

หยุนถิงขมวดคิ้ว “หลงยีเจ้าส่งคนที่เชื่อถือได้ไปจับตามองฮองเฮา จี๋ผิน จวนซ่างกวน แล้วก็ทางด้านแปรพระราชฐาน หากพบว่ามีคนหรือเหตุการณ์ที่น่าสงสัย ให้รีบรายงานข้าทันที”

“ขอรับ”

หยุนถิงเพิ่งกลับไปถึงเรือน พ่อบ้านยกน้ำร้อนเข้ามา หยุนถิงหยิบผ้าขนหนูมาชุบน้ำ เช็ดแก้มและมือให้กับจวินหย่วนโยว

นางไม่คุ้นเคยกับผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมของที่นี่ ดังนั้นหยุนถิงจึงหยิบของใช้ประจำวันออกมาจากมิติจำนวนหนึ่ง และยังแจกจ่ายให้กับทุกคนในจวนคนละหนึ่งชุด ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก

“หยุนถิง ข้าได้ยินว่าเจ้ากับจวินหย่วนโยวกลับมาแล้ว เลยเข้ามาดูหน่อย” เริ่นเซวียนเอ๋อร์เดินหาวเข้ามา

มองดูขอบตาที่ดำคล้ำอย่างมากของนาง หยุนถิงขมวดคิ้ว “เจ้ายังนอนไม่ตื่นหรือ?”

“ก็เพราะตามหาเจ้าเมื่อคืนนี้ ทำให้ข้าไม่ได้นอนทั้งคืน เจ้ากับจวินหย่วนโยวกลับมาข้าก็วางใจแล้ว จะกลับไปนอนแล้ว” เริ่นเซวียนเอ๋อร์หันหลังก็จากไปอีกครั้ง

ถึงแม้เมื่อคืนนี้หยุนถิงจะอยู่ในมิติ แต่ได้ยินความเคลื่อนไหวข้างนอกอย่างชัดเจน เมื่อคืนนี้นางไม่ได้ยินเสียงเริ่นเซวียนเอ๋อร์และเป่ยหมิงฉี่เลย สองคนนี้ชอบเข้าร่วมความครึกครื้นที่สุด เมื่อคืนกลับไม่ได้ปรากฏตัว

“หลิงเฟิง เจ้าส่งคนไปจับตามองเริ่นเซวียนเอ๋อร์เอาไว้” หยุนถิงเอ่ยปาก

“ขอรับ ฮูหยิน”

จนกระทั่งฟ้ามืด หลงเอ้อถึงได้นำศพกลับมา “ฮูหยิน นี่คือสาวใช้ตัวน้อยที่ท่านพูดถึงใช่หรือไม่?”

หยุนถิงเข้ามาดูใกล้ๆ “ถูกต้อง นางนี่แหละ พานางเข้าไปในเรือน”

“ขอรับ”

หยุนถิงหยิบเข็มเงินออกมาจากเส้นผม แทงลงไปบนจุดฝังเข็มบางแห่งของสาวใช้ตัวน้อย

เดิมทีคนที่ไม่มีลมหายใจและชีพจรแล้ว จู่ๆก็ส่งเสียงไอออกมา และลืมตาตื่นขึ้นมา

เมื่อมองเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าชัดเจนแล้ว สาวใช้ตัวน้อยสะดุ้งตกใจ “ท่าน ท่านคือคุณหนูหยุน ข้ายังไม่ตาย ข้ายังมีชีวิตอยู่หรือ?”

“ถูกต้อง เจ้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าเป็นคนช่วยเจ้าเอาไว้ วันนี้ขันทีตัวน้อยที่ไปส่งอาหารให้เจ้าในคุกก็คือข้า โจ๊กที่เดิมทีมีพิษถ้วยนั้นถูกข้าเปลี่ยนแล้ว มิเช่นนั้นเวลานี้เจ้าคงไปพบท่านพญายมนานแล้ว” หยุนถิงฮึออกมาอย่างเย็นชา

สาวใช้ตัวน้อยถึงได้เข้าใจ รีบร้อนลุกขึ้นมาจากพื้น “ขอบคุณคุณหนูหยุนมากที่ช่วยข้าน้อย ข้าน้อยยินดีเป็นวัวเป็นม้าเพื่อตอบแทนคุณหนูหยุน”

“หากเจ้าอยากตอบแทนข้าจริงๆ ก็บอกข้ามาว่าใครสั่งการให้เจ้าใส่ร้ายซื่อจื่อ จนถึงตอนนี้ซื่อจื่อก็ยังไม่ตื่นขึ้นมาเลย” สีหน้าของหยุนถิงเย็นชาดุร้าย

สาวใช้ตัวน้อยตกใจจนตัวแข็งทื่อไปหมดทั้งตัว สีหน้าซีดขาวเล็กน้อย แต่กลับไม่พูดอะไร

“พวกเขาฆ่าปิดปากเจ้าแล้ว หรือว่าเจ้ายังจะช่วยพวกเขาปกปิดความลับอีก คนในครอบครัวของเจ้าข้าจะส่งคนไปช่วยออกมา ให้เงินเจ้าก้อนหนึ่ง ให้พวกเจ้าหนีไปในที่ที่ไกลแสนไกล” หยุนถิงกล่าวต่อไป

“ข้าจะพูดหมดเลย พี่จื่อย่วนเป็นคนบอกให้ข้าทำเช่นนี้ ข้าเห็นซื่อจื่อเข้าไปในเรือนนั้นจริงๆ ถึงได้ไปกราบทูลต่อฝ่าบาท จากนั้นก็เป็นพยานว่าเห็นซื่อจื่อเข้าไป จุดประสงค์ก็เพื่อยืนยันเรื่องของซื่อจื่อกับคุณหนูหรู

หลังจากเสร็จเรื่องแล้ว พวกเขารับปากว่าจะให้ข้าหนึ่งร้อยตำลึง ให้ครอบครั้วของข้าลงหลักปักฐาน แต่คิดไม่ถึงว่าเรื่องจะแดงขึ้นมา ถึงกับจะฆ่าปิดปากข้า แถมยังใช้ครอบครัวของข้ามาข่มขู่อีก ขอคุณหนูหยุนโปรดช่วยครอบครัวของข้าด้วยเถิด” สาวใช้ตัวน้อยคุกเข่าอ้อนวอน

“จื่อย่วนคือใคร?” หยุนถิงถามถึงประเด็นสำคัญ

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท