จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 301 หยุนถิงเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 301 หยุนถิงเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น

“เป็นไปได้อย่างไรกัน!” มู่เซียวเซียวโพล่งออกไปโดยไม่คิดเลย

มู่เทียนบาสีหน้าบิดเบี้ยวบูดบึ้ง “หยุนถิง เจ้ามิใช่ไม่สบายรึ ไหนว่าเจ็บไหล่อย่างไรเล่า?”

หยุนถิงยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ข้าไม่สบายจริง แต่ท่านเจ้าหอรู้ได้อย่างไรว่าข้าเจ็บไหล่ ดูท่าท่านจะเป็นห่วงข้ามากอยู่นะ?”

คำพูดเดียวทำให้สองพ่อลูกตระกูลมู่สีหน้าทะมึนยิ่งนัก น่าขันอย่างมากประหนึ่งกิ้งก่าเปลี่ยนสี

จวินหย่วนโยวสีหน้าทะมึนเย็นเยียบ ถลึงตาใส่มู่เทียนบาอย่างเดือดดาล “ท่านเจ้าหอเป็นห่วงฮูหยินของข้าเช่นนี้ คิดอะไรกันแน่?”

น้ำเสียงเย็นเยียบ ประหนึ่งน้ำแข็งละเอียด ทำเอาคนฟังสะท้านเยือก

ทุกคนหันมองมู่เทียนบา ในแววตามีแววดูถูก

ทั่วทั้งแคว้นต้าเยียนและอีกสี่แคว้นต่างรู้ดีว่า หลังจากรูปโฉมฟื้นฟูแล้ว หยุนถิงงดงามยิ่งนัก งามล่มเมืองเลยทีเดียว ท่านเจ้าหออายุปาเข้าไปสี่สิบกว่าปีแล้ว อายุมากเพียงนี้ยังคิดมิซื่อกับคุณหนูหยุนอีก มันทำให้คนรู้สึกเยาะหยันจริงๆ

“จวินซื่อจื่อท่านอย่ามาพูดซี้ซั้วนะ ข้าเพียงแค่เห็นคุณหนูหยุนใช้มือพยุงไหล่หลายครั้ง ดูเหมือนไม่สบายอย่างมาก เลยคาดเดาไปอย่างนั้นเอง” มู่เทียนบาอธิบาย

“เป็นเช่นนี้ดีที่สุด หากใครกล้าคิดมิซื่อต่อฮูหยินของข้า ข้าจะทำให้มันผู้นั้นเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี้เลย!” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงอย่างทรงอำนาจ

คำพูดนี้เขาพูดกับมู่เทียนบา และก็พูดกับทุกคนด้วย

หยุนถิงเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น

หยุนถิงั้งซาบซึ้งทั้งเลื่อมใสยิ่งนัก “ซื่อจื่อ ท่าทางองอาจบ้าอำนาจเช่นนี้ของท่านหล่อเหลายิ่งนัก ข้าชอบมาก”

จวินหย่วนโยวยื่นมือไปโอบเอวหยุนถิง พลางก้มลงจุมพิตริมฝีปากนาง

ใบหน้ามู่เซียวเซียวซีดเผือด มือที่อยู่ในแขนเสื้อกำแน่นโดยบัดดล จนเล็บจิกเข้าเนื้อยังไม่รู้สึกเจ็บปวด

นางไม่คิดเลยว่าจวินซื่อจื่อจะรักใคร่ สนใจ ปกป้องหยุนถิงขนาดนี้ เหตุใดต้องเป็นนางด้วย นางมีสิ่งใดเหนือกว่าตนกัน

แต่เพราะอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย มู่เซียวเซียวยังแสร้งทำหน้ามั่น

“คุณหนูหยุน เมื่อครู่ตอนเจ้าฝึก ไม่ได้ยิงโดนนี่นา?” มู่เซียวเซียวถามอย่างสงสัย

“เมื่อครู่มือลื่น ต่อมาถึงเป็นฝีมือที่แท้จริงของข้า!” หยุนถิงตอบเสียงเรียบ

ฮ่องเต้ที่อยู่ข้างๆมีสีหน้าพึงพอใจนัก ยิ้มมุมปากอย่างสะใจ

สมเป็นหยุนถิง สามารถทำให้ตนประหลาดใจได้ทุกเมื่อจริงๆ ช่างเป็นดาวนำโชคของแคว้นต้าเยียนยิ่งนัก

“การประลองวันนี้หยุนถิงชนะ ท่านเจ้าหออย่าลืมส่งยาไปที่จวนซื่อจื่อด้วยล่ะ!” ฮ่องเต้เอ่ยขึ้น

“พ่ะย่ะค่ะ” มู่เทียนบาโกรธจนเส้นเลือดปูดโปน แต่ทำได้แค่ยอมรับความพ่ายแพ้

ไม่คิดว่าหยุนถิงจะเจ้าเล่ห์เช่นนี้ แสร้งทำว่าได้รับบาดเจ็บ เมื่อครู่ตอนนางดึงคันธนู ความเร็วมากล้น ท่วงท่าชำนาญ ไม่เหมือนได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด หรือว่าเมื่อคืนคนที่ลอบทำร้ายเซียวเซียวจะไม่ใช่หยุนถิง?

หากมิใช่นาง คนที่ทำลายร้านยาก็มิใช่จวินหย่วนโยว แล้วจะเป็นผู้ใดกัน?

มู่เทียนบาคิดไม่ตกจริงๆ

หยุนถิงชนะการแข่งขัน จากนั้นก็กลับไปกับจวินหย่วนโยว

บนรถม้า พอหยุนถิงขึ้นรถม้า เธอเกือบสะดุดล้ม จวินหย่วนโยวรีบเข้าไปพยุงนางไว้ “เจ้าเป็นยังไงบ้าง บาดเจ็บหนักขนาดนี้ยังฝืนตนเองทำไมกัน?”

“ข้าไม่เป็นไร สองพ่อลูกตระกูลมู่คิดจะเลียบเคียงสืบเรื่องข้า ย่อมต้องกำราบพวกเขาลงสักหน่อยสิ วางใจเถอะซื่อจื่อ ข้าพักผ่อนไม่กี่วันก็ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ” หยุนถิงตอบ

“เด็กโง่ เจ้าอยากสั่งสอนพวกเขา ข้าจัดการเองก็ได้แล้ว เหตุใดต้องลงมือเองด้วย” จวินหย่วนโยวพูดอย่างปวดใจ

“เขาเข้ามาหาเรื่องเอง ข้าย่อมทำให้เขาสมหวังสิ” หยุนถิงบอก หลับตาพิงอยู่ในอ้อมกอดจวินหย่วนโยว

“นอนเถอะ ถึงแล้วข้าจะปลุกเจ้าเอง พักผ่อนเถอะ”

ไม่นาน จวินหย่วนโยวก็ได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาของหยุนถิง มีแววหน่ายใจที่หว่างคิ้ว นังหนูนี่เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยอวดเก่งนี้นะ

ครั้งนี้หยุนถิงยิงธนูสามดอกโดนกลางเป้า เรื่องเอาชนะมู่เซียวเซียวได้แพร่ออกไปอีก ทุกคนพากันโห่ร้องว่าหยุนถิงเก่งกาจยิ่ง ไม่เพียงท่องกลอนร่ายโคลงได้ ยังยิงธนูเป็น นางกลายเป็นข่าวดังไปทั่วเมืองหลวงอีกครั้ง

ส่วนชางหลันเย่ในวังพอได้ยินข่าวนี้ ก็มีสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งนัก

หยุนถิงผู้นี้เหตุใดอวดดีเยี่ยงนี้ นางไม่รู้หรือว่าตนเองบาดเจ็บสาหัสมาก กลับมาแข่งขันยิงธนูกับมู่เซียวเซียวในเวลานี้อีก

นางไม่ต้องการชีวิตแล้วงั้นรึ

เวลาค่อยๆผ่านไป จนมาถึงค่อนคืน เงาร่างหนึ่งอาศัยความมืดซ่อนเร้นร่างกายมุ่งไปยังจวนซื่อจื่อ

ชางหลันเย่ในชุดดำ หลบหลีกเวรยามขององครักษ์เงามังกร พุ่งตรงไปยังห้องของหยุนถิง

ตะเกียงในห้องยังไม่ดับ มองผ่านหน้าต่าง เห็นจวินหย่วนโยวกำลังนั่งเฝ้าหยุนถิงอยู่ข้างกายนางบนเตียง

ดวงตาทุ้มลึกของชางหลันเย่หรี่ลงเล็กน้อย ทั้งๆที่รู้ดีว่าจวินหย่วนโยวรักใคร่ทะนุถนอมนาง ปกป้องคุ้มครองนางดียิ่งนัก หากเขายังไม่วางใจ

บัดนี้เห็นจวินหย่วนโยวดูแลหยุนถิงด้วยตัวเอง ทั้งอ่อนโยนทะนุถนอมเช่นนี้ ชางหลันเย่ถึงได้วางใจ และเหาะจากไป

เช้าวันต่อมา คนของหอเทพเซียนส่งยามาให้ พอหยุนถิงเปิดออกดู เห็นเป็นยาสามอย่างนั่นจริงๆ แต่วินาทีที่เปิดฝาออก หยุนถิงได้กลิ่นหอมอ่อนบางอย่าง

จากนั้นตัวยาสามอย่างในกล่องพลันลุกไหม้เอง หยุนถิงอยากยับยั้งก็ไม่ทันการเสียแล้ว

“มู่เทียนบาเล่นตุกติกที่กล่อง!” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเย็น

สีหน้าหยุนถิงเย็นเยียบถึงขีดสุด ยิ้มมุมปากอย่างเย็นชาเยาะหยัน “เมื่อวานพ่ายแพ้ให้แก่ข้าต่อหน้าธารกำนัล น่ากลัวจะไม่ยอมรับ ดังนั้นเลยเล่นตุกติกที่ตัวยา อย่างไรซะได้ส่งยามาถึงจวนซื่อจื่อแล้ว ส่วนจะมีปัญหาอะไรนั้น ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขาแล้ว”

“กล้ามาเล่นลูกไม้กับจวนซื่อจื่อ ข้าจะให้พวกมันเสียใจกับการตัดสินใจวันนี้!” น้ำเสียงเย็นเยียบของจวินหย่วนโยวแฝงแววโหดเหี้ยมออกมา

“เช่นนั้นก็ลำบากซื่อจื่อแล้ว” หยุนถิงโยนกล่องทิ้งไป และบอกกับจวินหย่วนโยวว่าจะไปเข้าวัง

ฮ่องเต้กำลังปวดหัวว่าจะกดราคาตัวยาของหอเทพเซียนได้อย่างไร และต้องไม่ทำให้ความสัมพันธ์กับหอเทพเซียนแตกหัก จากนั้นหยุนถิงเลยเสนอออกมา

หลังจากฮ่องเต้ได้ยินก็ดีใจยิ่งนัก “หยุนถิง เมื่อครู่เจ้าบอกว่าจะสนับสนุนราษฎร์ของแคว้นต้าเยียนให้เพาะปลูกยา หากวิธีนี้ใช้การได้ ต่อไปแคว้นต้าเยียนของเราก็ไม่ต้องโดนหอเทพเซียนกดขี่ข่มเหงอีกแล้ว สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง แบบนี้ก็มิต้องอาศัยผู้อื่นอีก”

“ฝ่าบาทวางพระทัยเถอะ ขอเพียงทำตามวิธีที่ข้าบอก ต้องได้แน่นอน” หยุนถิงตอบ

ฮ่องเต้มองนางอย่างสงสัย “เหตุใดเจ้าถึงเสนอความคิดเห็นนี้ต่อข้า เจ้าคิดไว้ดีนานแล้ว หรือพึ่งเมื่อครู่?”

“เพราะมู่เทียนบาไม่รักษาคำพูด เล่นตุกติกบนตัวยาสามอย่างที่พ่ายแพ้ให้แก่ข้า” หยุนถิงเล่าเรื่องออกมาอย่างเรียบง่าย

ทำเอาฮ่องเต้อดถอนหายใจไม่ได้ “เจ้านี่เจ้าคิดเจ้าแค้นจริง!”

“พวกเขาหาเรื่องเอง เดิมข้าไม่อยากฆ่าล้างให้สิ้น ไหนเลยพวกเขารังแกกันมากเกินไป” หยุนถิงแค่นเสียงเย็น

ฮ่องเต้พลันรู้สึกว่า ควรจะขอบคุณมู่เทียนบา ช่างมันแล้วกัน ขอเพียงเป็นประโยชน์กับแคว้นต้าเยียนก็พอแล้ว

ฮ่องเต้ประกาศฎีกาทันที: สนับสนุนให้ราษฎร์ที่มีที่นาท้องไร่ของแคว้นต้าเยียนสามารถเอาที่นาครึ่งหนึ่งมาเพาะปลูกตัวยาได้ ขอเพียงเป็นราษฎร์ที่เพาะปลูกตัวยาก็สามารถไปรายงานตัวกับทางการได้

แบบนี้ไม่เพียงจะสามารถลดทอนภาษีได้ รอจนตัวยาโตเต็มที่ ทางการยังรับซื้อในราคาสูงได้ด้วย ทุกวันที่10 20 30ของทุกเดือน ราชสำนักจะเปิดสถานที่รักษาอย่างไม่คิดเงิน สอนทุกคนให้รู้จักชนิดของตัวยา ขอเพียงเป็นราษฎร์ที่มารายงานขอเข้าร่วม ต่อไปไม่ว่าจะเป็นการซื้อตัวยาหรือหาหมอก็จะได้รับสิทธิ์ก่อน

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท