จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 387 ล้อเล่นพอหรือยัง น้องนาง

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่387 ล้อเล่นพอหรือยัง น้องนาง

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกันหมด

สีหน้าของจวินหย่วนโยวมืดครึ้ม นัยน์ตาอันมืดทึบนั้นฉายร่องรอยของความขยะแขยง ออร่ารอบกายเย็นชายิ่งนัก

หยุนถิงที่อยู่ข้างๆ เองก็ได้ยินเช่นกัน แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นผู้หญิงที่ไม่กลัวตาย

หยุนถิงมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงข้าม รูปร่างที่เพรียวบาง ใบหน้าที่ละเอียดอ่อน กำลังจ้องมองจวินหย่วนโยวด้วยความหลงใหลในขณะนี้ ดวงตาทั้งสองเปล่งประกายแสง

เมื่อนึกถึงเมื่อครู่จวินหย่วนโยวทำให้ตัวเองต้องเหนื่อยมากเช่นนั้น ดวงตาแสนสวยของหยุนถิงก็ฉายด้วยความซนขึ้นมาทันที และเดินไปมาทันที

“แม่นางท่านนี้ พี่ใหญ่ของข้าเป็นชายที่เย็นชาและหล่อเหลาที่หาได้ยาก แค่ใบหน้านี้ ก็เหนือกว่าผู้ชายคนอื่นหลายเท่าแล้ว ไม่ทราบว่าเจ้าจะออกสินสอดทองหมั้นเยี่ยงได้?” หยุนถิงแกล้งถาม

สีหน้าของจวินหย่วนโยวมืดครึ้มในทันที นังหนูนี้เห็นคนอื่นอยากได้ข้า ไม่เพียงแต่ไม่ห้ามเอาไว้ แต่ยังขอยังขอสินสอดอีกด้วย ก็มีเพียงนางเท่านั้นแหละที่คิดออกมาได้

จ้าวเชียนเชียนรู้สึกตื่นเต้นมาก และมองไปที่ หยุนถิง สวยยิ่งนัก ใบหน้าที่โดดเด่น และรูปร่างที่สง่างาม คิดไม่ถึงว่าน้องสาวของเขาก็สวยขนาดนี้

“คนยกเกี้ยวแปดคน โอ้ ไม่ ขบวนริ้วแดงสิบลี้ ผืนดินสมบูรณ์พันหมู่ บ้านหลังหนึ่ง หนึ่งหมื่นตำลึงทอง และเงินทองเพชรพลอยนับไม่ถ้วน ขอเพียงแค่เจ้าแต่งเข้ามา พ่อข้ามีลูกสาวเพียงข้าคนเดียว ทรัพย์สินของครอบครัวทั้งหมดจะไม่เป็นของเจ้าในไม่ช้าแน่นอน ” จ้าวเชียนเชียนสัญญา

“แม้ว่าจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรมาก แต่ฟังแล้วก็ไม่เลวนัก พี่ใหญ่เจ้าจะลองพิจารณาดูหรือไม่?” หยุนถิงตั้งใจทำเสียงเชอะ

สีหน้าของจวินหย่วนโยวมืดครึ้มยิ่งนัก จ้องมองหยุนถิงด้วยความโกรธ “ล้อเล่นพอหรือยัง น้องนาง?”

“น้องนาง เจ้าเรียกนางน้องนาง?” จ้าวเชียนเชียนทำหน้าประหลาดใจ

“ถูกต้อง นางเป็นภรรยาที่ข้าแต่งงานด้วยอย่างเปิดเผย ข้าไม่ได้มีความสนใจต่อเจ้า อยากมีชีวิตอยู่ ก็รีบไปให้พ้น อย่ามาขวางหูขวางตาที่นี่!” จวินหย่วนโยวทำเสียงเชอะอย่างเผด็จการ และเอาแขนโอบหยุนถิงเอาไว้แล้วเดินไปหาคนขายเกาลัดทอดข้างๆ

จ้าวเชียนเชียนถูกทำให้อับอายต่อที่สาธารณะเช่นนี้ โกรธจนหน้ามืดครึ้มไปหมด “เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร กล้าดียังไงมาปฏิบัติกับข้าแบบนี้ แต่งงานแล้วยังแกล้งทำเป็นพี่น้องมาหลอกลวงข้า น่าเจ็บใจชะมัด ค่อยดูไว้ข้าจะสั่งสอนเจ้า!”

จ้าวเชียนเชียนคำรามด้วยความโกรธ ยกมือขึ้นเลยจะตบหยุนถิง

แต่มือของนางยังไม่ทันแตะโดนหยุนถิง ก็ถูกจวินหย่วนโยวสะบัดแขนเสื้อใส่เบา ๆ คนทั้งคนล้มลงไปในที่ไม่ไกล เจ็บจนนางแยกเขี้ยวยิงฟัน ร้องโหยหวน

ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็หวาดกลัวเมื่อเห็นมัน

จ้าวเชียนเชียนเป็นลูกสาวของเจ้าเมืองจ้าว ปกติหยิ่งยโสจนเคยชินไปแล้ว เป็นที่รู้จักในนามผู้หญิงที่หลงใหลผู้ชาย ผู้ชายคนไหนก็ตามที่หล่อเหลาหน่อย นางก็ชอบและจะฉุดกลับไป

ฉุดกลับไปไม่พอ แถมยังไม่ถนอมรักษาดีๆด้วย กลับทรมานคนเหล่านั้นด้วยวิธีต่างๆ ทำให้พวกเขาเป็นทั้งตาย ดังนั้นผู้ชายทุกคนในเมืองตระกูลจ้าวจึงหลบหนีออกไป เหลือเพียงคนที่หน้าตาอัปลักษณ์บางส่วนเท่านั้นยังอยู่ที่นี่

หายากนักที่จะมีคุณชายที่หล่อเหลาท่านหนึ่งเช่นนี้ แต่กลับถูกจ้าวเชียนเชียนชอบเข้า ทุกคนหันมองจวินหย่วนโยวด้วยความเห็นอกเห็นใจ คุณชายท่านนี้คงแย่แล้ว

“คุณชาย คุณหนู พวกท่านรีบไปเถอะ ไปเดี๋ยวนี้เลย ล่วงเกินคุณหนูจ้าวแล้ว เกรงว่าอีกไม่นานองครักษ์ของจวนเจ้าเมืองก็จะมาจับพวกท่านในไม่ช้านี้” ชายชราที่ขายเกาลัดน้ำตาลห้ามด้วยความใจดี

“ที่แท้นางเป็นลูกสาวของเจ้าเมืองนี่เอง” หยุนถิงเข้าใจในทันที

“นั่นนะสิ คนส่วนใหญ่ไม่กล้าล่วงเกินคุณหนูจ้าว พวกท่านรีบหนีไปเถอะ ”

หยุนถิงมอบตำลึงเงินให้แก่ชายชรา แต่ก็ไม่ได้มีความหมายที่ว่าจะหนีไปเลย ดึงจวินหย่วนโยวเอาไว้แล้วเดินเล่นต่อไป

ส่วนจ้าวเชียนเชียนที่อยู่บนพื้น ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อเห็นพวกเขาแสดงความรักบนถนนอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ดังนั้นจึงให้สาวรับใช้พยุงตัวเองกลับไปเรียกคนทันที

หยุนถิงและคนอื่น ๆ เดินเล่นจนเหนื่อยแล้ว ทันทีที่พึ่งมาถึงโรงเตี๊ยมก็ถูกล้อมรอบด้วยองครักษ์กลุ่มหนึ่ง นำโดยจ้าวเชียนเชียนและชายวัยกลางคนหนึ่ง

“พวกเจ้าหรือที่เป็นคนตีลูกสาวข้าบาดเจ็บ?” จ้าวเซียวหยุนพูดอย่างโกรธเคือง

หยุนถิงเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา อายุประมาณสี่สิบ อ้วนยิ่งนัก ดวงตาขุ่นมัว แค่มองก็รู้ว่าเป็นคนที่ภายนอกดูแข็งแกร่ง แต่แท้จริงแล้วกลับไม่ได้เรื่องอะไรเลย

“ใช่ ข้าเอง!” จวินหย่วนโยวตะคอกอย่างเย็นชา

จ้าวเซียวหยุนหันมองจวินหย่วนโยว ก็ถูกออร่าที่ทรงพลังของเขากดขี่เอาไว้เช่นกัน รู้สึกเสมอว่าใบหน้านี้คุ้นเคยเล็กน้อย ราวกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่ก็นึกไม่ออกในชั่วขณะนั้น

“ไอ้สารเลว กล้าตีลูกสาวข้าบาดเจ็บ เด็กๆนำคนพวกนี้กลับไป ข้าจะสอบปากคำพวกเขาดีๆสักหน่อย!” จ้าวเซียวหยุนอาศัยอำนาจและอิทธิพลข่มเหงรังแกผู้อื่น

องครักษ์ทุกคนล้อมรอบพวกเขาเอาไว้

จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงกลับไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด แต่กลับจ้องมององครักษ์เหล่านั้นด้วยท่าทางเย็นชาและดูถูกเหยียดหยาม

“องครักษ์ในจวนเจ้าเมืองของพวกข้าแย่ยิ่งนัก แบบนี้ยังกล้าเอาออกมา ไม่กลับขายหน้าเลยหรือไง!” หยุนถิงตะคอกอย่างเย็นชา

จากนั้นจ้าวเซียวหยุนถึงค่อยสังเกตเห็นหยุนถิง พึ่งแวบเดียวการหายใจของเขาก็ตึงเครียด

จ้าวเซียวหยุนผู้ซึ่งคิดว่าตัวเองเคยเห็นหญิงงานมานับไม่ถ้วนนั้น ก็รู้สึกอึ้งไปหมด

คิ้วที่งดยาม ผิวขาวอ่อนโยน ดั้งจมูกที่สูง และปากสีแดงขนาดเล็ก ผมที่เหมือนดั่งน้ำตกนั้นถูกมัดเอาไว้เพียงปิ่นหยกหนึ่งอันเพียงเท่านั้น เรียบง่าย แต่ก็เพิ่มความสง่างามเล็กน้อย โดยเฉพาะดวงตาแสนสวยที่เย็นชา หยิ่งยโส ราวกับราชินี

ร่างกายมีออร่าของความดุร้าย ซึ่งทำให้ผู้คนมีความปรารถนาที่จะเอามาครอง

หญิงสาวที่สวยงามและมีเสน่ห์เยี่ยงนี้ ทำให้จ้าวเซียวหยุนพึงพอใจอย่างมาก เขาแม้แต่สามารถจินตนาการได้เลยว่า หากได้เอากับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่สวยงามเช่นนี้ มันจะมีความสุขเพียงใด

เพียงแต่ว่าเขายังไม่ทันได้คิดมาก แสงสีขาวอันเย็นชายก็แวบผ่านไป จ้าวเซียวหยุนเพียงรู้สึกว่าดวงตาทั้งสองเจ็บปวดจากนั้นก็มองไม่เห็นแล้ว

“อ๊ากก ตาของข้า ตาข้าเป็นอะไร เด็กๆ!” จ้าวเซียวหยุนตะโกนด้วยความตื่นตระหนก ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด

จ้าวเชียนเชียนที่อยู่ข้างๆเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดของพ่อตัวเองนั้น ก็รู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก “ท่านพ่อ ท่านพ่อท่านเป็นอะไรไป พวกเจ้าทำอะไรกับพ่อข้า?”

“กล้าไม่เคารพผู้หญิงของข้า นี่แหละคือการชดใช้!” จวินหย่วนโยวตะโกนอย่างเผด็จการด้วยความโกรธ

เมื่อครู่เขาเป็นคนออกมือเอง ในฐานะผู้ชาย เขาตระหนักถึงสายตาที่จ้าวเซียวหยุนมองดูหยุนถิงนั้นได้ดีเยี่ยงสัก

ซื่อจื่อเฟยของตัวเอง จะปล่อยให้ผู้อื่นมาบังอาจเยี่ยงนี้ได้อย่างไง

“เจ้า เจ้าคือซื่อจื่อ?” จ้าวเชียนเชียนถามด้วยความตกใจ

“ซื่อจื่อของข้าเป็นจวินซื่อจื่อคนปัจจุบัน แม้แต่ฝ่าบาทและไทเฮาก็ต้องให้เกียรติ ซื่อจื่อเฟยของข้าก็ยิ่งเป็นองค์หญิงที่ได้รับการแต่งตั้งจากฝ่าบาทเป็นการส่วนตัว กล้าขาดความเคารพต่อองค์หญิง แถมยังอยากจะได้ซื่อจื่อเฟยไปครอง พวกเจ้าสองพ่อลูกรนหาที่ตายเอง!” เสียงที่เย็นชาของหลงเอ้อ เหมือนกระตุ้นให้ตระกูลจ้าวสองพี่ลูกเกิดความสำนึก

“ซื่อจื่อ จวินซื่อจื่อ ข้าว่าทำไมถึงคุ้นตาเช่นนี้ จวินซื่อจื่อได้โปรดไว้ชีวิตด้วย ข้าสารเลวเอง ข้าสมควรตาย ต่อไปข้าจะไม่กล้าทำอีกแล้ว โปรดจวินซื่อจื่อเมตตา ไว้ชีวิตที่ต่ำทรามนี้ของข้าด้วยเถอะ!” จ้าวเซียวหยุนคุกเข่าลงร้องขอความเมตตาทันที

แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็น แม้ว่าดวงตาจะเจ็บปวดยิ่งนัก และแม้ว่าใบหน้าจะเต็มไปด้วยเลือด แต่จ้าวเซียวหยุนก็ไม่อาจสนมันได้

เขาไม่อยากตาย

จ้าวเชียนเชียนกลัวลังตกใจจนอึ้ง คนทั้งคนอ่อนแรงแล้วล้มลงกับพื้น

เขาเป็นซื่อจื่อ และผู้หญิงข้างๆ เขาคือซื่อจื่อเฟย ก่อนหน้านี้นางยังบอกให้เขามาเป็นแต่งเขยเข้าบ้าน เหตุใดตัวเองถึงได้ไง่เขลาเยี่ยงนี้ คนสองคนนี้ออร่าไม่ธรรมดา แค่มองก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา?

“ซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย โปรดไว้ชีวิตด้วย ข้ารู้ผิดแล้ว ต่อไปข้าไม่กล้าฉุดชายรูปงามกลางบนถนนอีกต่อไปแล้ว โปรดพวกท่านไว้ชีวิตข้าด้วยเถอะ!”

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท