จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 433 ข้าเอาใจใส่กับเจ้าเพียงเท่านั้น

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 433 ข้าเอาใจใส่กับเจ้าเพียงเท่านั้น

สตรีในยุคโบราณ อกตัญญูมีสามข้อ ข้อหนักหนาที่สุดคือไม่มีลูก

หลู่หวางเฟยแต่งกับหลู่อ๋องมาหลายปี แต่กลับไม่ท้องสักที หวางเฟยเฒ่ามักจะกลั่นแกล้งนางเสมอ และยังหาเมียให้หลู่อ๋องไม่หยุดไม่หย่อน ในฐานะพระชายาเอก นางได้แต่โดนบีบให้ยอมรับ หากไม่ใช่เพราะหลู่อ๋องปกป้องนางมาโดยตลอด น่ากลัวว่าตำแหน่งพระชายาเอกคงจะไม่ได้อยู่กับนางมาหลายปีขนาดนี้

เพียงแต่ต่อให้หลู่อ๋องดีแค่ไหน ก็เป็นคนเจ้าชู้ เวลาผ่านไปนานเข้า ก็เลยไปเด็ดดอกไม้ริมทางข้างนอก ส่วนนางทำได้แค่เพียงปิดตาข้างหนึ่ง

บัดนี้นางได้ท้องแล้ว ขนาดหวางเฟยเฒ่าที่ไม่ชอบหน้านางมาโดยตลอดยังมาถามไถ่เป็นห่วงนางด้วยตัวเอง เป็นกังวลอย่างมาก

หลู่อ๋องเองก็ไล่สาวงามคนอื่นในจวนออกไปจนหมด ตั้งใจดูแลหลู่หวางเฟยที่ตั้งครรภ์อย่างตั้งใจ นี่เป็นการกระทำที่หลู่หวางเฟยไม่เคยคาดคิดมาก่อน

หยุนถิงเห็นสีหน้าหลู่หวางเฟยดีมาก ก็พอใจมาก “หลู่หวางเฟยเกรงใจไปแล้ว เป็นบุญของท่านกับหลู่อ๋องแล้ว”

“หลายเดือนนี้ข้างดเหล้างดเนื้องดสตรี ทำตามที่ซื่อจื่อเฟยกำชับทั้งหมด ในที่สุดก็สำเร็จแล้ว ข้ายังตั้งใจให้คนไปอัญเชิญพระโพธิสัตว์หยกขาวองค์หนึ่งมามอบให้ซื่อจื่อเฟยด้วยนะ ให้ถือว่าเป็นของขวัญขอบคุณแล้วกัน” หลู่อ๋องพูดตรงไปตรงมา

คนรับใช้สี่คนยกพระโพธิสัตว์ที่ใหญ่โตองค์หนึ่งเข้ามาอย่างระมัดระวัง หยุนถิงมองแล้วน่าจะหนึ่งเมตร เป็นหยกขาวชั้นดี แค่ดูก็รู้ว่าราคาแพงมาก

“เช่นนั้นก็ขอบคุณหลู่อ๋องนัก!”

“ซื่อจื่อเฟยเกรงใจแล้ว”

จวินหย่วนโยวกับหลู่อ๋องดื่มชา หยุนถิงกลับดึงหลู่หวางเฟยมาถามไถ่ชีวิตประจำวัน และบอกเรื่องที่นางต้องระมัดระวังอีกมากมาย

ก่อนไป หยุนถิงได้ให้ยาบำรุงครรภ์กับหลู่หวางเฟยไปอีกหลายกล่อง หลู่หวางเฟยซาบซึ้งใจนัก ขอบคุณแล้วขอบคุณอีก

พอหลู่อ๋องกับหลู่หวางเฟยกลับไป จวินหย่วนโยวยื่นมือมาจับมือหยุนถิง “ถิงเอ๋อร์ พวกเราไปอยู่ที่ฟาร์มสักระยะดีไหม เมื่อครู่ทางฟาร์มนั่นมาบอกว่า มีแม่วัวหลายตัวคลอดลูกแล้ว”

“ดียิ่งนัก ไม่คิดว่าจะคลอดลูกวัวเร็วอย่างนี้ ไม่สิซื่อจื่อ ทำไมข้ารู้สึกว่าท่านหาว่าข้าเป็นแม่วัวล่ะ” หยุนถิงเบ้ปากพลางถลึงตาใส่

“ไม่นี่” จวินหย่วนโยวบอก

“มี ซื่อจื่อท่านจงใจแน่ๆ”

“ตกลง ข้ามีก็ได้” จวินหย่วนโยวยื่นมือไปโอบนางเข้าอ้อมกอด

จากนั้นก็เห็นซูกงกงมาอีก จวินหย่วนโยวสีหน้าดำมืด ยังไม่ทันที่ซูกงกงจะเอ่ยปาก เขาก็โพล่งขึ้นก่อน “ข้ากับซื่อจื่อเฟยไม่ใคร่สบาย ไม่เข้าวัง หากฝ่าบาทมีธุระก็พูดมาเลยตรงๆ!”

ซูกงกงตกใจตัวสั่น เหตุใดจวินซื่อจื่อดูจะโกรธขึ้งเพียงนี้

“ซูกงกงอย่าถือสาเขาเลย ข้ามึนหัวเล็กน้อยตอนตื่นมาเมื่อเช้า ซื่อจื่อเป็นห่วงร่างกายของข้า ถึงได้เป็นเช่นนี้” หยุนถิงรีบออกมาไกล่เกลี่ย

ซูกงกงคารวะทันที “ข้าน้อยคารวะซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟย ซื่อจื่อเฟยร่างกายไม่สบาย ข้าน้อยเสียมารยาทเอง แต่ครั้งนี้ฝ่าบาทส่งข้าน้อยมาเพื่อถามว่า ซื่อจื่อเฟยคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องชางไท่จื่อ?”

“ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง ในเมื่อตามหาฆาตกรตัวจริงได้แล้ว เจ้าให้ฝ่าบาทส่งศพของชางหลันเย่และฆาตกรตัวจริงกลับแคว้นชางเยว่ก็ได้แล้วนี่ เดิมฮว๋าเหม่ยเหรินก็เป็นหมากในวังหลังของแคว้นชางเยว่อยู่แล้ว ขอแค่ฝ่าบาทเผยข่าวนี้ไปให้ถึงฮ่องเต้แคว้นชางเยว่ก็ได้แล้ว

จากนั้นมอบเงินทองสมบัติเป็นของชดเชยก็ได้แล้ว แต่ต้องตีฆ้องร้องป่าว ส่งไปอย่างครึกครื้น ทางที่ดีที่สุดคือต้องให้คนรู้กันทั่ว แบบนี้ต่อให้เพ่งเล็งไปที่ซากศพ แคว้นต้าเยียนของเราเองได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว จะโทษต้าเยียนไม่ได้” หยุนถิงตอบ

“ซื่อจื่อเฟยเฉลียวฉลาดนัก ข้าน้อยจะกลับวังไปกราบทูลฝ่าบาท” ซูกงกงซาบซึ้งใจนัก

“หยกน้ำแข็งพันปีเม็ดนี้วางลงในปากของชางหลันเย่ จะช่วยรักษาไม่ให้ศพเขาไม่เน่าเปื่อย ระยะทางจากแคว้นต้าเยียนจนถึงแคว้นชางเยว่เพียงพอแล้ว เอาศพกลับไปก็ถือว่าได้กลับคืนสู่ถิ่นฐานแล้ว ถือซะว่าเป็นการช่วยเหลือในฐานะที่ข้ารู้จักกับเขาแล้วกัน” หยุนถิงยื่นมาให้

ซูกงกงรับมาอย่างนอบน้อม “ขอบคุณซื่อจื่อเฟยนัก ซื่อจื่อเฟยคิดได้รอบคอบยิ่ง ข้าขอบคุณท่านแทนฝ่าบาทด้วย” ระหว่างพูด ก็รีบรุดกลับไป

จวินหย่วนโยวสีหน้าเย็นเยียบ “หลิงเฟิง ต่อไปห้ามมิให้ผู้ใดรบกวนเด็ดขาด”

“ขอรับ!” หลิงเฟิงรีบไปจัดการทันที

หยุนถิงอบอุ่นใจนัก “เอาล่ะซื่อจื่อ ฝ่าบาทคงหมดหนทางจริงๆ ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงข้า ซื่อจื่อ จู่ๆข้าก็อยากกินเกาลัดคั่วน้ำตาล ท่านผัดให้ข้าเองนะ”

“ตกลง” จวินหย่วนโยวรีบส่งคนไปซื้อเกาลัดดิบทันที และก็หินด้วย

ไม่นาน คนรับใช้ก็อุ้มเกาลัดดิบหนึ่งถุงใหญ่เข้ามา ห้องครัวยกหม้อใหญ่เข้ามา ทุกคนเทหินเข้าไปในหม้อ จากนั้นก็ก่อไฟ

จวินหย่วนโยวเข้ามาเทเกาลัดลงหม้อด้วยตัวเอง จากนั้นคว้าทัพพีใหญ่เริ่มต้นคั่ว

หยุนถิงยืนดูอยู่ข้างๆ หลงเอ้อร์ยกเก้าอี้ใหญ่หนึ่งตัวเข้ามาอย่างคล่องแคล่ว หยุนถิงนั่งลงบนเก้าอี้ พ่อบ้านเองก็ส่งขนมผลไม้มาให้ หยุนถิงดูไปกินไป

“ซื่อจื่อ ท่านเก่งกาจนัก ทำได้คล่องแคล่วขนาดนี้ ใครไม่รู้คงคิดว่าท่านเคยผัดเกาลัดแน่!” หยุนถิงชื่นชม

จวินหย่วนโยวมุมปากกระตุก “ข้าเหมือนพ่อค้าขายเกาลัดรึ?”

“แน่นอนว่าไม่ใช่ ซื่อจื่อของข้าหล่อเหลาที่สุดแล้ว ท่วงท่าองอาจ ใบหน้าหล่อเหลางดงาม สง่าผ่าเผย—- สรุปแล้วคำพูดทั้งหมดที่บรรยายความหล่อยังไม่อาจเทียบเท่ากับหนึ่งในหมื่นของความหล่อเหลาที่ซื่อจื่อมีเลยนะ”

จวินหย่วนโยวพอใจนัก นังหนูนี่ปากหวานจริง

“ในโลกนี้มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ได้รับการกระทำเช่นนี้” จวินหย่วนโยวบอกอย่างรักใคร่

“แน่นอนอยู่แล้ว ซื่อจื่อรักข้าที่สุด รักเพียงข้าคนเดียว”

จวินหย่วนโยวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และยิ่งออกแรงหนักขึ้น ไม่นานก็เหงื่อออกโทรมกาย เริ่มร้อน เขาเลยถอดเสื้อคลุมด้านนอกออก

หยุนถิงเห็นท่าทางขยันเช่นนี้ของซื่อจื่อแล้ว ทั้งตื้นตันและยินดียิ่ง

ยิ่งดูยิ่งรู้สึกว่าซื่อจื่อหล่อเหลานัก ใสเสื้อมีโครงร่าง ถอดเสื้อก็มีกล้าม แถมยังกล้ามเนื้อแปดแพ็คอีก คิดถึงครั้งก่อนที่เธออาบน้ำกับซื่อจื่อ หยุนถิงพลันหน้าแดงขึ้นมาทันที

“ถิงเอ๋อร์ เจ้าคิดอะไรอยู่น่ะ?” ทันใดนั้น น้ำเสียงน่าฟังของจวินหย่วนโยวลอยมา

หยุนถิงเหมือนเด็กที่อยากทำเรื่องไม่ดีแล้วโดนจับได้พอดี ยิ่งหน้าแดงหนักขึ้น รีบหาข้ออ้าง “ไม่มีอะไร อากาศร้อนไปหน่อย”

“ข้าช่วยบังแดดให้เจ้าดีหรือไม่?” จวินหย่วนโยวพูดพลางเดินเข้ามา ยืนด้านหน้าหยุนถิง ช่วยบังแดดเหนือหัวเธอไว้พอดี

“ว้าว ซื่อจื่อท่านเอาใจใส่เกินไปแล้วนะ”

“ข้าเอาใจใส่แค่เพียงเจ้าผู้เดียว”

“ฮะฮะ คำพูดนี้ข้าชอบ” หยุนถิงหัวเราะเบาๆ

จวินหย่วนโยวอารมณ์ดีนัก กลับไปผัดเกาลัดต่ออย่างขะมักเขม้น

เวลาค่อยๆผ่านไป ในที่สุดเกาลัดหม้อหนึ่งก็ผัดเสร็จแล้ว จวินหย่วนโยวตักถาดแรกให้หยุนถิงทันที และยังช่วยนางแกะเปลือกเกาลัด

เพียงแต่เกาลัดที่พึ่งผัดเสร็จร้อนมาก จวินหย่วนโยวเป่าไปแกะไป ท่าทางร้อนลวกมือนั้นทำหยุนถิงหัวเราะเบาๆออกมา

“ซื่อจื่อ ไม่ต้องรีบหรอก รอเย็นแล้วค่อยแกะก็ได้”

“เย็นแล้วก็ไม่อร่อยสิ กินตอนร้อนๆนี่แหละที่อร่อย” จวินหย่วนโยวลวกมือหนักมาก แต่ยังแกะเสียหลายเม็ดวางลงในถาด “เจ้าเป่าสักหน่อยค่อยกินนะ อย่าให้ลวกมือล่ะ”

หยุนถิงซาบซึ้งนัก “ได้”

หยุนถิงกินเกาลัดไปหลายคำ พอใจนัก รู้สึกว่านี่เป็นเกาลัดที่อร่อยที่สุดที่เธอเคยกินเลย

เสื้อผ้าบนตัวจวินหย่วนโยวเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ เขารีบให้คนยกถังน้ำเข้าไปในห้อง ความรู้สึกเหนียวตัวนี่ไม่สบายเอาเสียเลย

หยุนถิงเห็นเขาไปอาบน้ำ ก็รีบลุกขึ้น “ซื่อจื่อ ข้าช่วยถูหลังให้นะ!”

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท